นายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียง ของแดนมังกร ประณามความพยายามของอเมริกาและอียู ที่ประกาศใช้นโยบาย “ลดความเสี่ยง” จากจีน พร้อมกันนั้นยืนยันว่า ปักกิ่งสามารถบรรลุเป้าหมายอัตราเติบโต 5% สำหรับปีนี้
หลี่ กล่าวระหว่างเปิดประชุมของเวิลด์ อิโคโนมิก ฟอรัม (ดับเบิลยูอีเอฟ) ที่เมืองเทียนจิน ทางภาคเหนือของจีน เมื่อวันอังคาร (27 มิ.ย.) ว่า บางคนในโลกตะวันตกกำลังโฆษณาชวนเชื่อเกี่ยวกับการยกเลิกสิ่งที่พวกเขาอ้างว่าเป็นการพึ่งพาจีน ตลอดจนเรียกร้องให้ลดความเสี่ยงจากจีน ซึ่งแนวคิดทั้งสองประการนี้เป็นข้อเสนอหลอกลวง เนื่องจากพัฒนาการของโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจคือ เศรษฐกิจโลกเป็นหน่วยเดียวกันที่เศรษฐกิจของหลายประเทศเกี่ยวพัน พึ่งพิง และพัฒนาไปพร้อมๆ กัน
ผู้นำหมายเลข 2 ของจีนสำทับว่า กำแพงที่มองไม่เห็นซึ่งบางคนบางฝ่ายพยายามผลักดันในช่วงหลายปีที่ผ่านมา กำลังแพร่กระจายไปและทำให้โลกแตกออกเป็นเสี่ยงๆ กระทั่งนำไปสู่การเผชิญหน้า ทั้งนี้ เห็นชัดว่าเขามุ่งที่จะหมายถึงความตึงเครียดทางการค้าระหว่างอเมริกากับจีน
หลี่เสริมว่า ปักกิ่งไม่เห็นด้วยกับการทำให้ประเด็นเศรษฐกิจและการค้ากลายเป็นประเด็นทางการเมือง และย้ำว่า การสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญเพื่อหลีกเลี่ยงการเข้าใจผิดระหว่างประเทศต่างๆ
เขาบอกว่า แนวโน้มโลกาภิวัตน์ยังคงอยู่อย่างสมบูรณ์ แม้มีการชะงักงันบ้าง ซึ่งเป็นการตอกย้ำหลักการสำคัญที่เขาประกาศส่งเสริมสนับสนุนนับจากเข้ารับตำแหน่งว่า จีนจะยังคงเปิดรับธุรกิจและนักลงทุนต่างชาติ
การประชุมดับเบิลยูอีเอฟที่เทียนจิน ซึ่งเรียกกันว่า ดาวอสฤดูร้อน เปิดขึ้นใหม่เป็นครั้งแรกหลังจากระงับมา 3 ปีเนื่องจากวิกฤตโควิด และจะสิ้นสุดในวันพฤหัสฯ (29 มิ.ย.) โดยผู้เข้าร่วมคราวนี้มีทั้งผู้นำจากนิวซีแลนด์ มองโกเลีย เวียดนาม และบาร์บาโดส รวมทั้งผู้แทนคณะใหญ่จากซาอุดีอาระเบีย
ทั้งนี้ เดือนมกราคมที่ผ่านมา อัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป เสนอคำอธิบายแนวทางที่สหภาพยุโรป (อียู) จะใช้กับจีนว่า เป็นการ “ลดความเสี่ยง (de-risk ) มากกว่าการหย่าร้างแยกขาด (decouple)” เนื่องจากอียูยังต้องการร่วมมือและค้าขายกับปักกิ่ง
ด้านอเมริกา ประธานาธิบดีโจ ไบเดน สานต่อจุดยืนแข็งกร้าวที่ใช้กับจีนของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และบางครั้งใช้มาตรการรุนแรงมากกว่าด้วยซ้ำ ซึ่งรวมถึงการแบนการส่งออกเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูงให้จีน
สัปดาห์ที่ผ่านมา แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ตอบโต้การวิจารณ์อย่างเผ็ดร้อนของจีนระหว่างเดินทางเยือนปักกิ่งว่า อเมริกาไม่ได้พยายามปิดกั้นทางเศรษฐกิจต่อจีน แต่ขณะเดียวกัน ก็ไม่ต้องการให้จีนเข้าถึงเทคโนโลยีที่อาจนำไปใช้เพื่อต่อต้านสหรัฐฯ
ในการปราศรัยคราวนี้ หลี่ยังระบุว่า เศรษฐกิจจีนในไตรมาส 2 จะเติบโตมากกว่าไตรมาสแรก และสามารถบรรลุเป้าหมาย 5% ในตลอดทั้งปีนี้
ปัจจุบัน จีนกำลังพยายามฟื้นตัวจากวิกฤตโควิดอย่างช้าๆ ถึงแม้ช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาปรากฏตัวบ่งชี้หลายอย่างที่ส่งสัญญาณว่า การฟื้นตัวเริ่มอ่อนแรง
สัปดาห์ที่แล้ว ธนาคารกลางจีนประกาศลดดอกเบี้ยสำคัญ 2 ตัวเพื่อต่อสู้กับการชะลอตัว
นอกจากนั้นเดือนนี้ยังมีรายงานบ่งชี้ว่า ปักกิ่งกำลังเตรียมมาตรการกระตุ้นภาคส่วนต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นสัดส่วนสำคัญในผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี)
หลี่กล่าวว่า จีนจะออกนโยบายที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อกระตุ้นความต้องการภายในประเทศและเปิดตลาด ตลอดจนถึงคงบทบาทเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกต่อไป
อย่างไรก็ดี ธนาคารภาคเอกชนในโลกตะวันตกหลายแห่งพากันลดการคาดการณ์อัตราเติบโตของจีนในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ หลังจากข้อมูลผลผลิตอุตสาหกรรมและยอดค้าปลีกต่ำกว่าคาด และบ่งชี้ว่า ปักกิ่งจะต้องดำเนินมาตรการเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นการฟื้นตัว
ปักกิ่งกำหนดเป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจประจำปีนี้ไว้ที่ราว 5% เมื่อเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นหนึ่งในอัตราเติบโตต่ำที่สุดในรอบหลายทศวรรษ เนื่องจากจีนเพิ่งฟื้นจากการยกเลิกกฎสกัดโควิดที่เป็นอุปสรรคต่อกิจกรรมธุรกิจ และตอนนั้นหลี่ยอมรับว่า เป้าหมายดังกล่าว “ไม่ใช่ภารกิจที่ง่ายดายเลย”
(ที่มา : เอเอฟพี, รอยเตอร์)