ทางการจีนสรุปผลตรวจชิ้นส่วนแปลกปลอมภายในจานข้าวของนักศึกษาจีนว่าเป็น “หัวหนู” ไม่ใช่ “คอเป็ด” อย่างที่ทางวิทยาลัยอ้าง พร้อมเร่งดำเนินการเอาผิดทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง หลังจากที่เรื่องนี้กลายเป็นกระแสร้อนแรงในโลกออนไลน์ และจุดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เรื่องความพยายามปกปิดความจริง
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 3 สัปดาห์ที่แล้วภายในโรงอาหารของวิทยาลัยเทคนิคอาชีวะอุตสาหกรรมการค้าเจียงซี (Jiangxi Vocational Technical College of Industry Trade) ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองหนานชาง โดยนักศึกษารายนี้พบว่าในชามข้าวของตนเองมีอะไรบางอย่างที่ดูคล้ายๆ กับ “หัวหนู” จึงได้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายคลิปเป็นหลักฐาน
เขาเดินไปสอบถามกับเจ้าหน้าที่โรงอาหาร แต่กลับได้รับคำยืนยันว่า “มันไม่ใช่หัวหนูหรอก คอเป็ดต่างหาก!” แต่นักศึกษายังไม่เชื่อ และเถียงกับเจ้าหน้าที่ว่า “นี่มันหนูชัดๆ มีฟันเหมือนหนูด้วย คุณไม่เห็นเหรอ”
ทางวิทยาลัยได้เปิดการสอบสวนเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. และออกคำแถลงยืนยันว่า วัตถุประหลาดที่พบไม่ใช่หัวหนูอย่างที่นักศึกษาเข้าใจ แถมยังอ้างว่านักศึกษาคนนี้เรียกเพื่อนร่วมชั้นมาช่วยกันดู และทุกคนยืนยันเป็นเสียงเดียวว่ามันคือชิ้นส่วนคอเป็ด
Jiang Xiexue ผู้อำนวยการสำนักงานกำกับดูแลตลาดประจำสาขาชางตง (Changdong) ได้ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อโทรทัศน์และวิทยุในวันเดียวกัน โดยยืนยันผลการตรวจสอบของทางวิทยาลัย
อย่างไรก็ตาม คำอธิบายและคำยืนยันทั้งหลายแหล่ไม่อาจลบล้างความสงสัยของชาวเน็ตได้ หลายคนได้สร้างมีมเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ขึ้นมา รวมถึงกล่าวหาเจ้าหน้าที่รัฐว่ากำลังปกปิดความจริงอยู่
เสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่ไม่หยุดหย่อนทำให้ฝ่ายบริหารมณฑลเจียงซี ประกาศเปิดการสอบสวนระดับมณฑลขึ้นเมื่อวันที่ 10 มิ.ย. โดยตั้งคณะทำงานที่มาจากฝ่ายการศึกษา ความมั่นคงสาธารณะ และฝ่ายกำกับดูแลตลาด
1 สัปดาห์ต่อมา คณะผู้สอบสวนประจำมณฑลเจียงซีได้สรุปผลตรวจยืนยันว่า วัตถุประหลาดในชามข้าวนักศึกษาไม่ใช่คอเป็ด แต่เป็น “หัวหนู” จริงๆ พร้อมอ้างว่าสาเหตุที่ทางโรงเรียนและสำนักงานกำกับดูแลตลาด “ได้ข้อสรุปผิดพลาด” ก่อนหน้านี้เพราะทำงานไม่ละเอียดรอบคอบพอ
ทีมสืบสวนยังระบุด้วยว่า เจ้าหน้าที่โรงอาหารได้นำชิ้นส่วนดังกล่าวไปทิ้งตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. แต่จากคลิปและภาพถ่ายที่นักศึกษาบันทึกไว้ทำให้ผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ยืนยันว่า เป็นหัวของสัตว์ฟันแทะประเภทหนูอย่างแน่นอน
ทางการมณฑลเจียงซีได้เพิกถอนใบอนุญาตของโรงอาหารแห่งนี้ และสั่งลงโทษขั้นสูงสุดต่อบริษัทผู้ดำเนินงาน ส่วนเจ้าหน้าที่วิทยาลัยและสำนักงานกำกับดูแลตลาดที่มีส่วนร่วมปกปิดความจริงจะถูกลงโทษด้วยเช่นกัน
ที่มา : Nextshark