ทรัมป์นำทีมรีพับลิกันประณามกระบวนการยุติธรรมเข้าข้างไบเดน และเป็นการแทรกแซงการเลือกตั้งอย่างชัดเจน หลังฮันเตอร์ ไบเดน ลูกชายประธานาธิบดีสหรัฐฯ ตกลงยอมรับผิดในข้อหาจงใจเลี่ยงภาษี และทำข้อตกลงกับอัยการที่ทำให้ไม่ต้องรับโทษในข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการครอบครองอาวุธปืน
สืบเนื่องจากการกล่าวหาของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และพวกสมาชิกพวกรีพับลิกัน ว่า ฮันเตอร์ ไบเดน มีการกระทำที่ไม่สุจริตในขณะที่เขาทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับยูเครนและจีน จึงนำไปสู่การสอบสวนบุตรชายประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นี้ โดยเดวิด ไวสส์ อัยการในรัฐเดลาแวร์ ที่ได้รับการแต่งตั้งจากทรัมป์ และส่งผลให้มีการตั้งข้อหาเขา เริ่มจากความผิดอาญาประเภทลหุโทษ 2 ข้อหาจากการจงใจเลี่ยงภาษี
ทั้งนี้ ฮันเตอร์ทำงานเป็นล็อบบี้ยิสต์ ทนาย ที่ปรึกษาสำหรับบริษัทต่างชาติ วาณิชธนกร และศิลปิน นอจากนั้น เขายังเปิดเผยว่า ตนเองติดยาเสพติด
การประกาศของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เมื่อวันอังคาร (20 มิ.ย.) มีขึ้นขณะที่ไบเดนอยู่ในช่วงรณรงค์หาเสียงที่อาจต้องแข่งขันกับทรัมป์ที่เป็นตัวเก็งผู้ได้รับเสนอชื่อชิงทำเนียบขาวของพรรครีพับลิกันปี 2024 อีกครั้ง
ตามเอกสารการฟ้องร้อง ฮันเตอร์มีรายได้ที่ต้องเสียภาษีกว่า 1.5 ล้านดอลลาร์ในปี 2017 และ 2018 แต่ไม่ได้จ่ายภาษีมูลค่ากว่า 100,000 ดอลลาร์
ฮันเตอร์ยังถูกตั้งข้อหาครอบครองอาวุธปืนโดยผิดกฎหมายระหว่างวันที่ 12-23 ตุลาคม 2018 ซึ่งเป็นช่วงที่เขาใช้และติดยาเสพติด โดยสำหรับข้อหานี้ ฮันเตอร์ได้ยินยอมทำข้อตกลงหันเหผู้กระทำผิดออกจากกระบวนการยุติธรรมทางอาญาก่อนการพิจารณาคดี (pretrial diversion agreement) ซึ่งเป็นทางเลือกเพื่อให้จำเลยไม่ต้องรับโทษจองจำ หรือถูกพิพากษาลงโทษความผิดทางอาญา
อัยการแถลงว่า ฮันเตอร์ยอมรับผิดจากกรณีการเลี่ยงภาษีทั้งสองกระทง และยอมรับว่า ครอบครองปืนโดยผิดกฎหมายขณะเสพยาเสพติด
คริสโตเฟอร์ คลาร์ก ทนายของฮันเตอร์ แถลงว่า ตามความเข้าใจของเขา การสอบสวนฮันเตอร์ที่ดำเนินมาเป็นเวลา 5 ปีแล้วนั้นเป็นอันสิ้นสุดลงแล้ว โดยที่ฮันเตอร์เชื่อว่า ตนเองต้องรับผิดชอบและแก้ไขความผิดพลาดเหล่านั้น
ทว่า อัยการ เวสส์ ระบุว่า การสอบสวนในข้อหาอื่นๆ จะยังคงดำเนินต่อไป
ทั้งนี้ ข้อตกลงรับสารภาพระหว่างฮันเตอร์กับสำนักงานอัยการในรัฐเดลาแวร์จะต้องได้รับอนุมัติจากผู้พิพากษาของศาลสหรัฐฯ เสียก่อน ขณะที่วอชิงตัน โพสต์คาดว่า ฮันเตอร์ไม่มีแนวโน้มถูกจำคุก ถึงแม้อัยการอาจเสนอให้มีการภาคทัณฑ์
หลังจากลูกชายทำข้อตกลงกับฝ่ายอัยการแล้ว เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามเรื่องนี้ ไบเดนตอบว่า ตนภูมิใจกับลูกชายมาก
ทั้งนี้ ฮันเตอร์เปิดเผยเมื่อเดือนธันวาคม 2020 ว่า สำนักงานของเวสส์กำลังสอบสวนเรื่องภาษีของตน พร้อมยืนยันว่า ตนเองไม่ได้กระทำผิด
ในหนังสือบันทึกความทรงจำที่วางจำหน่ายเมื่อปี 2021 เขาเล่าว่า ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดที่รวมถึงโคเคน และเป็นโรคพิษสุราเรื้อรัง ทั้งนี้เขาถูกปลดประจำการจากหน่วยกองหนุนกองทัพเรือสหรัฐฯ ในปี 2014 หลังถูกตรวจพบว่าเสพโคเคน
สำหรับการสอบสวนของ เวสส์ นั้น เบื้องต้นมุ่งที่แนวโน้มการละเมิดกฎหมายภาษีและการฟอกเงินในการทำธุรกิจนอกประเทศโดยเฉพาะจีน
การสอบสวนของ เวสส์ เริ่มขึ้นเมื่อต้นปี 2018 และเขาถูกขอให้สอบสวนต่อหลังจากทรัมป์พ้นตำแหน่ง และไบเดนเข้าสู่ทำเนียบขาว
การสอบสวนนี้มีขึ้นหลังจากทรัมป์และสมาชิกรีพับลิกันกล่าวหาฮันเตอร์ใช้อิทธิพลของผู้เป็นพ่อในทางมิชอบ ขณะที่ไบเดนรับตำแหน่งรองประธานาธิบดีในคณะบริหารบารัค โอบามา รวมทั้งหลังจากที่ทรัมป์พยายามบีบให้เจ้าหน้าที่ยูเครนสอบสวนฮันเตอร์ ซึ่งเป็นลูกชายของไบเดน ที่ทรัมป์คิดว่ามีแนวโน้มเป็นคู่แข่งของเขาในการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2020
ขณะเดียวกัน ความพยายามเหล่านั้นที่รวมถึงการระงับการอนุมัติความช่วยเหลือทางทหารให้ยูเครน ได้ส่งผลให้ทรัมป์ถูกรัฐสภาไต่สวนเพื่อถอดถอดจากตำแหน่งประธานาธิบดีครั้งแรก
ในวันอังคาร พวกพรรครีพับลิกัน ต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ข้อตกลงระหว่างอัยการกับฮันเตอร์ว่า เข้าข้างลูกชายประธานาธิบดี
เจมส์ คาร์เตอร์ ส.ส.รีพับลิกัน ที่ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการกำกับตรวจสอบของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ โจมตีว่า ข้อตกลงดังกล่าวทำให้ฮันเตอร์ถูกลงโทษเพียงเล็กน้อย แต่คณะกรรมาธิการของตนจะสอบสวนประเด็นการทำธุรกิจของครอบครัวไบเดนต่อ
ด้านทรัมป์ที่เมื่อเร็วๆ นี้เพิ่งถูกฟ้องคดีอาญาข้อหาซุกเอกสารลับของทางการหลังพ้นตำแหน่ง ประณามว่า ข้อตกลงรับสารภาพเป็นแค่ “การเขียนใบสั่ง” ให้ฮันเตอร์ และถือเป็น “แผนการแทรกแซงการเลือกตั้งเต็มพิกัด” เพื่อทำให้ ไบเดน เป็นฝ่ายได้เปรียบ
(ที่มา : เอเอฟพี, รอยเตอร์)