xs
xsm
sm
md
lg

ทำเนียบขาวแฉ! อิหร่านส่งโดรนโจมตี ‘หลายร้อยลำ’ ให้มอสโกใช้ถล่มยูเครน แถมช่วยตั้งโรงงานผลิตโดรนในรัสเซีย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ทำเนียบขาวเปิดเผยรายงานข่าวกรองเมื่อวันศุกร์ (9 มิ.ย.) ซึ่งระบุว่า รัสเซียดูเหมือนจะกระชับความร่วมมือด้านกลาโหมกับอิหร่านขึ้นไปอีกขั้น และได้รับโดรนโจมตีแบบกามิกาเซ (one-way attack) หลายร้อยลำจากอิหร่านมาใช้ในการโจมตียูเครน

จอห์น เคอร์บีย์ โฆษกทำเนียบขาว อ้างข่าวกรองซึ่งระบุว่า โดรน (UAVs) ที่ผลิตในอิหร่านถูกลำเลียงข้ามทะเลแคสเปียน และถูกส่งมอบให้แก่กองกำลังของรัสเซียเพื่อใช้โจมตีเป้าหมายต่างๆ ในยูเครน

“ในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา รัสเซียมีการใช้โดรนของอิหร่านโจมตีกรุงเคียฟ และสร้างความหวาดกลัวต่อชาวยูเครน ความเป็นหุ้นส่วนทางทหารระหว่างรัสเซียกับอิหร่านดูเหมือนจะกระชับแน่นแฟ้นขึ้นเรื่อยๆ” เคอร์บีย์ ระบุ

“เรายังมีความกังวลด้วยว่า รัสเซียอาจร่วมมือกับอิหร่านตั้งโรงงานผลิตโดรนภายในรัสเซียเอง”

โฆษกทำเนียบขาวระบุว่า รัสเซียได้รับเครื่องไม้เครื่องมือที่จำเป็นจากอิหร่านเพื่อสร้างโรงงานผลิตโดรนภายในเขตเศรษฐกิจพิเศษอาลาบูกา (Alabuga Special Economic Zone) ซึ่งคาดว่าจะเริ่มเดินสายการผลิตอย่างเต็มรูปแบบภายในต้นปีหน้า โดยสหรัฐฯ ยังเตรียมที่จะเผยแพร่ภาพถ่ายดาวเทียมจุดที่คาดว่ารัสเซียจะตั้งโรงงานโดรนด้วย

ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ ได้ประกาศคว่ำบาตรผู้บริหารบริษัทด้านกลาโหมแห่งหนึ่งในอิหร่านโทษฐานส่งออกโดรนให้แก่รัสเซีย ขณะที่รัฐบาลเตหะรานเองแม้จะยอมรับว่ามีการส่งโดรนให้มอสโกจริง แต่ก็อ้างว่าส่งไปตั้งแต่ก่อนที่รัสเซียจะเปิดปฏิบัติการรุกรานยูเครนในปีที่แล้ว

ฝ่ายรัสเซียปฏิเสธเสียงแข็งว่ากองกำลังของตนไม่ได้ใช้โดรนอิหร่านโจมตียูเครน

เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวอ้างว่าอิหร่านได้ส่งโดรนโจมตี “หลายร้อยลำ” ไปยังรัสเซียตั้งแต่ช่วงเดือน ส.ค.ปีที่แล้วเป็นต้นมา

เคอร์บีย์ ชี้ว่า ความสัมพันธ์รัสเซีย-อิหร่านเป็นไปในลักษณะของการพึ่งพาสนับสนุนซึ่งกันและกัน โดยอิหร่านเองก็ปรารถนาที่จะได้ยุทโธปกรณ์ทางทหารมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์จากรัสเซีย เช่น เฮลิคอปเตอร์ และระบบเรดาร์ เป็นต้น

โฆษกทำเนียบขาวย้ำว่า การที่อิหร่านส่งมอบโดรนให้รัสเซียถือว่าละเมิดกฎของสหประชาชาติ ซึ่งสหรัฐฯ จะดำเนินการเพื่อเอาผิดกับทั้ง 2 ประเทศ

อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี สหรัฐฯ และยูเครน อ้างว่าการที่อิหร่านส่งออกโดรนให้แก่รัสเซียเข้าข่ายละเมิดมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติปี 2015 ที่รับรองข้อตกลงควบคุมนิวเคลียร์อิหร่าน

มติดังกล่าวกำหนดมาตรการห้ามเคลื่อนย้ายอาวุธแบบดั้งเดิม (conventional arms embargo) ต่ออิหร่าน โดยมีผลถึงเดือน ต.ค. ปี 2020 ทว่ายูเครนและชาติตะวันตกโต้แย้งว่า มตินี้ยังวางข้อจำกัดเรื่องมิสไซล์และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องไปจนถึงเดือน ต.ค. ปี 2023 ซึ่งเท่ากับครอบคลุมถึงการส่งออกหรือจัดซื้อระบบโดรนด้วย

ที่มา : รอยเตอร์
กำลังโหลดความคิดเห็น