แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ จะเดินทางเยือนจีนในสัปดาห์หน้า เพื่อสานต่อการพูดคุยที่หยุดชะงักไปนาน และฟื้นฟูสายสัมพันธ์ที่ย่ำแย่ระหว่าง 2 มหาอำนาจ ท่ามกลางกระแสข่าวลือจีนเตรียมเข้าไปตั้ง "ฐานสอดแนม" สหรัฐฯ ในคิวบา
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อวันพุธ (7) โดยอ้างแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ซึ่งระบุว่า บลิงเคน จะเดินทางเยือนปักกิ่ง “ภายในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า” ขณะที่ล่าสุดมีเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ อีกคนออกมาให้ข้อมูลในวันศุกร์ (9) ว่า บลิงเคน จะเดินทางเยือนจีนในวันที่ 18 มิ.ย. ทว่ายังไม่ขอให้รายละเอียดเพิ่มเติม
แผนการเยือนจีนของ บลิงเคน ซึ่งจะถือเป็นการเยือนครั้งแรกของรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ในรอบ 5 ปีต้องถูกระงับอย่างกะทันหันเมื่อต้นปีนี้ หลังจากที่สหรัฐฯ ตรวจพบ “บอลลูนสอดแนมจีน” ลอยข้ามน่านฟ้าและจุดยุทธศาสตร์หลายแห่งของอเมริกาเมื่อเดือน ก.พ. จนกลายเป็นชนวนวิกฤตการทูต
กำหนดการเยือนจีนล่าสุดของ บลิงเคน ถูกเปิดเผยออกมา หลังจากที่หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัล (WSJ) ตีแผ่ข้อมูลเมื่อวันพฤหัสบดี (8) ว่าจีนบรรลุข้อตกลงลับกับคิวบาที่จะเข้าไปตั้ง “ฐานสอดแนม” ห่างจากรัฐฟลอริดาเพียงราวๆ 160 กิโลเมตร
โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาวแถลงเมื่อวันพฤหัสบดี (8) ว่า รายงาน WSJ “คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง” แต่ก็ยอมรับว่าสหรัฐฯ “กังวลอย่างจริงจัง” ในเรื่องความสัมพันธ์จีน-คิวบา และจะจับตาดูความเคลื่อนไหวของทั้ง 2 ชาติอย่างใกล้ชิด
กระทรวงการต่างประเทศ ทำเนียบขาว และกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ยังปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเกี่ยวกับรายงานของนิวยอร์กไทม์สที่อ้างเช่นกันว่า จีนกำลังจะเข้าไปตั้งฐานแห่งหนึ่งขึ้นในคิวบา ซึ่งอาจถูกใช้เพื่อดักฟังสัญญาณสื่อสารของฐานทัพหรือหน่วยงานพาณิชย์ของสหรัฐฯ ที่ตั้งอยู่ในบริเวณดังกล่าว
คาร์ลอส เฟอร์นันเดซ เดอ คอสซิโอ ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศคิวบา ออกมาปฏิเสธรายงานของ WSJ ว่าเป็นเรื่อง “โกหกและไม่มีมูลอย่างสิ้นเชิง” และเป็นอีกครั้งที่สหรัฐฯ ใช้วิธีกุข่าวเท็จเพื่ออ้างความชอบธรรมในการคว่ำบาตรเศรษฐกิจคิวบา อย่างที่เคยทำมาหลายสิบปี
ด้านกระทรวงการต่างประเทศจีนก็ออกมาตอบโต้ในวันศุกร์ (9) ว่า “การเผยแพร่ข่าวลือและการใส่ร้ายป้ายสี” เป็นกลยุทธ์ปกติทั่วไปของ “จักรวรรดิแฮกเกอร์” อย่างสหรัฐอเมริกา
โฆษกสถานทูตจีนประจำกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ระบุว่า “ยังไม่ทราบ” ข้อมูลเรื่องการเดินทางของ บลิงเคน แต่อ้างไปถึงการหารือทวิภาคีระหว่างประธานาธิบดี โจ ไบเดน และประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ที่อินโดนีเซียเมื่อเดือน พ.ย.ปีที่แล้ว พร้อมระบุว่า “จีนเปิดกว้างสำหรับการหารือกับสหรัฐฯ และหวังว่าสหรัฐฯ คงจะทำงานร่วมกับจีนในลักษณะเดียวกัน เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติตามความเข้าใจร่วมสำคัญๆ ที่ประธานาธิบดีทั้งสองได้พูดคุยกันไว้ที่บาหลี”
ที่มา : รอยเตอร์