เสียงส่วนใหญ่ของชาวยุโรป อยากให้ประเทศของพวกเขารักษาความเป็นกลาง หากว่าสหรัฐฯ และจีนเปิดศึกทำสงครามกัน ในประเด็นไต้หวัน จากผลการศึกษาใหม่ที่เผยแพร่เมื่อช่วงต้นสัปดาห์
ในผลสำรวจความคิดเห็น มีเพียงแค่ 23% ของประชาชนผู้ตอบแบบสอบถามใน 11 ชาติยุโรป ที่ต้องการเลือกข้างสหรัฐฯ แต่มีถึง 62% ที่บอกว่าขออยู่เป็นกลางไม่เลือกข้างฝ่ายไหน
ผลสำรวจความคิดเห็นนี้เป็นส่วนหนึ่งในการศึกษาวิจัยของสภาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศแห่งยุโรป (European Council on Foreign Relations : ECFR) ซึ่งมันเผยให้เห็นด้วยว่าพลเมืองยุโรปจำนวนมาก (43%) ยังคงมองจีนในฐานะคู่หูที่จำเป็น ที่พวกเขาอยากร่วมมือด้วย
พวกนักวิจัยเขียนว่า "พลเมืองยุโรปมีความปรารถนาคงความเป็นกลางในความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ กับจีน และฝืนใจยอมรับความเสี่ยงจากจีน แม้พวกเขายอมรับว่ามีความเสี่ยงอยู่บ้าง ในแง่ที่จีนมีบทบาททางเศรษฐกิจในยุโรป"
ผลการศึกษานี้จัดขึ้นท่ามกลางประเด็นถกเถียงอันเร่าร้อนในหัวข้อที่ว่าสหภาพยุโรปควรคบค้ากับจีนหรือไม่
ในบรัสเซลล์ พวกผู้จัดทำนโยบายของอียู กำลังร่วมกันวางยุทธศาสตร์ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ซึ่งจะแนะนำหนทางต่างๆ ในการปลีกเศรษฐกิจยุโรปออกจากห่างปักกิ่ง ในขอบเขตที่ชักต้องพึ่งพาจีนมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้ ทางผู้จัดทำนโยบายจะสานต่อความเคลื่อนไหวแรกของทางกลุ่ม ในการคัดกรองการลงทุนของบริษัทต่างๆ ในจีน ความเคลื่อนไหวอันเป็นที่ถกเถียงก่อความไม่พอใจแก่บรรดาธุรกิจทั้งหลายและรัฐสมาชิกบางชาติที่ต้องการเดินหน้าค้าขายอย่างเสรี
ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ อียูยังเห็นพ้องกำหนดมาตรการคว่ำบาตรรอบแรกเล่นงานบริษัทต่างๆ ของจีน โทษฐานที่ขายสินค้าไฮเทคต้องห้ามของยุโรปให้แก่กองทัพรัสเซีย
อย่างไรก็ตาม ในเดือนเมษายน ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส เคยกล่าวระหว่างเดินทางเยือนปักกิ่ง ว่าอียูไม่ควรกลายมาเป็นบริวารของสหรัฐฯ ในประเด็นจีน พร้อมเรียกร้องให้ปลีกตนเองออกห่างจากความเกี่ยวข้องใดๆ ในความเป็นไปได้ของการใช้กำลังทหารปกป้องไต้หวัน
ความเห็นดังกล่าวเรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างดุเดือดจากบรรดาผู้นำยุโรปคนอื่นๆ บางส่วน และเหล่าสมาชิกสภาคองเกรสสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม ผลวิจัยพบว่ามันได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีจากคนในประเทศ โดยแม้ผู้ตอบแบบสอบถามชาวฝรั่งเศสแสดงความตั้งใจสนับสนุนสหรัฐฯ ทำสงครามกับจีน มากกว่าค่าเฉลี่ยของยุโรปเล็กน้อย แต่ก็มีถึง 53% ที่อยากให้ประเทศของตนเองวางตัวเป็นกลาง
ในโปแลนด์ มีผู้ตอบแบบสอบถาม 51% ที่บอกว่าต้องการวางตัวเป็นกลาง แม้มีชาวโปแลนด์มากกกว่าประเทศไหนๆ ยกเว้นแค่สวีเดน ที่ต้องการให้ชาติของตนเองเลือกข้างสหรัฐฯ ในการทำศึกสงครามกับจีน
"ผลการสำรวจพบว่า พลเมืองยุโรปอยากเป็นทีมมาครงมากกว่าทีม อัวร์ซูลา ฟ็อน แดร์ ไลเอิน" นักวิจัยเขียน อ้างถึงประธานคณะกรรมาธิการยุโรป "พวกเขาไม่ได้มองจีนในฐานะมหาอำนาจที่กำลังท้าทายและต้องการบ่อนทำลายยุโรป พวกเขาไม่ตอบสนองต่อคำจำกัดความ ประชาธิปไตยต่อสู้กับเผด็จการ ที่โปรโมตโดยรัฐบาลสหรัฐฯ ของประธานาธิบดีไบเดน"
อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจพบว่าชาวยุโรปมีความรู้สึกเคลือบแคลงใจจีนเพิ่มมากขึ้นในหลายประเด็น
ชาวยุโรปส่วนใหญ่สนับสนุนคว่ำบาตรจีน หากว่าปักกิ่งมอบอาวุธแก่รัสเซีย แม้ว่ามันอาจส่งผลกระทบร้ายแรงต่อเศรษฐกิจตะวันตก โดยมีถึง 41% ที่สนับสนุนความเคลื่อนไหวนี้ เทียบกับ 33% ที่ไม่เห็นด้วย อนึ่งความเคลื่อนไหวลักษณะดังกล่าวถูกทางอียูให้คำจำกัดความว่าเป็น "เส้นตายที่ขีดไว้" ในขณะที่พวกเขายังคงเดินหน้าล็อบบี้ไม่ให้จีนส่งมอบอาวุธแก่ทหารรัสเซีย
นอกจากนี้ ผู้ตอบแบบสอบถามยังกังวลเกี่ยวกับการลงทุนของจีนในยุโรป โดยส่วนใหญ่คิดว่ามันสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้ที่บริษัทต่างๆ ของจีนจะเป็นเจ้าของท่าเรือ สะพาน หนังสือพิมพ์ ทีมฟุตบอล หรือบริษัทเทคโนโลยีในยุโรป ขณะเดียวกัน ชาวยุโรปส่วนหญ่ก็ไม่ต้องการเห็นบริษัทจีนก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานสำคัญๆ เช่นกัน
ผลการศึกษานี้เป็นการสอบถามความคิดเห็นของประชาชน 16,168 คนในออสเตรีย บัลแกเรีย เดนมาร์ก ฝรั่งเศส เยอรมนี ฮังการี อิตาลี เนเธอร์แลนด์ โปแลนด์ สเปน และสวีเดน จัดทำเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา
(ที่มา : เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์)