ร่าง กม.ขยายเพดานหนี้ผ่านด่านแรกหวุดหวิด ต้องลุ้นสภาล่างเต็มคณะลงมติก่อนส่งต่อวุฒิสภา

ร่างกฎหมายขยายเพดานหนี้สหรัฐฯ 31.4 ล้านล้านดอลลาร์ผ่านด่านสำคัญด่านแรกชนิดเฉียดฉิว 7-6 เมื่อคืนวันอังคาร (30 พ.ค.) และส่งต่อให้สภาล่างเต็มคณะอภิปราย และโหวตในวันพุธ (31)

คณะกรรมาธิการพิจารณาข้อบังคับของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ลงมติด้วยคะแนน 7-6 เมื่อคืนวันอังคาร เห็นชอบให้นำร่างกฎหมายขยายเพดานหนี้เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนฯ เต็มคณะ โดยการโหวตดังกล่าว สมาชิกรีพับลิกัน 2 คนในคณะกรรมาธิการฯ คือ ชิป รอย และราล์ฟ นอร์แมน ออกเสียงคัดค้าน

การลงมติครั้งนี้ตอกย้ำให้เห็นว่าพรรครีพับลิกันที่ครองเสียงข้างมากในสภาล่างแบบเฉียดฉิว คือ 222 ต่อ 213 อยู่ในสภาพง่อนแง่นเรรวนมาก และจำเป็นที่ทางเดโมแครตจะต้องช่วย จึงจะสามารถผ่านมตินี้ในสภาผู้แทนราษฎร

หากผ่านความเห็นชอบของสภาล่าง ร่างกฎหมายนี้จะถูกส่งต่อให้วุฒิสภา โดยที่ต้องได้รับอนุมัติจากทั้ง 2 สภาให้เสร็จสิ้นก่อนวันที่ 5 มิถุนายน ไม่เช่นนั้นอาจเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ ที่กระทรวงการคลังจะไม่มีเงินเหลือชำระหนี้ และหากกระทรวงการคลังไม่สามารถชำระหนี้ทั้งหมดได้หรือจำเป็นต้องเลือกว่าจะชำระหนี้ใดก่อน ก็จะส่งผลให้เศรษฐกิจอเมริกาและทั่วโลกปั่นป่วน

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งพรรคเดโมแครต และเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งสังกัดพรรครีพับลิกัน ยังคงแสดงความเชื่อว่า ร่างกฎหมายขยายเพดานหนี้ที่พวกเขาตกลงกันไว้แล้วนี้จะได้รับเสียงสนับสนุนเพียงพอเพื่อบังคับใช้เป็นกฎหมายก่อนวันที่ 5 มิถุนายน

สำนักงบประมาณรัฐสภา ซึ่งถือเป็นองค์กรที่ไม่ฝักใฝ่พรรคใด ระบุเมื่อวันอังคารว่า ร่างกฎหมายนี้จะลดการใช้จ่ายของรัฐบาลจากตัวเลขคาดการณ์ปัจจุบันลง 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ในระยะเวลา 10 ปีนับจากปี 2024 อีกทั้งยังลดภาระดอกเบี้ยของหนี้สาธารณะลง 188,000 ล้านดอลลาร์

แมคคาร์ธี ยกย่องว่า ร่างกฎหมายนี้เป็น “ข้อตกลงที่มีความเป็นอนุรักษนิยมที่สุดเท่าที่อเมริกาเคยมีมา”

อย่างไรก็ตาม ส.ส.บางคนซึ่งอยู่ในกลุ่มอนุรักษนิยมสุดขั้วของรีพับลิกันที่ต้องการให้รัฐบาลตัดงบประมาณจ่ายมากกว่าที่เสนอในร่างกฎหมายนี้ ไม่เห็นด้วยกับแมคคาร์ธี นอกจากนั้น ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะมีเสียงสนับสนุนจาก ส.ส.เดโมแครตกี่คนเพื่อให้ร่างนี้ผ่านการลงมติของทั้งสภาที่คาดกันว่าจะมีขึ้นในคืนวันพุธ

ในการพิจารณาเมื่อวันอังคาร สมาชิกเดโมแครตทั้ง 4 คนในคณะกรรมาธิการพิจารณาข้อบังคับของสภาล่าง ต่างโหวตคัดค้านร่างกฎหมายนี้ตามประเพณีปฏิบัติเมื่อต้องลงมติร่างกฎหมายที่รีพับลิกันเป็นผู้เสนอ และยังไม่มีความชัดเจนว่า การดำเนินการเช่นนี้จะส่งผลให้ ส.ส.เดโมแครตคนอื่นโหวตค้านตามในวันพุธหรือไม่ แม้ ฮาคิม เจฟฟรีส์ ผู้นำเดโมแครตในสภาล่างประกาศว่า เดโมแครตจะให้การสนับสนุนแมคคาร์ธี ก็ตาม

มีความเป็นไปได้ว่า กระทั่งผ่านสภาล่างแล้ว แต่การโหวตของวุฒิสภาก็ยังอาจลากยาวไปจนถึงสุดสัปดาห์ ถ้ามีวุฒิสมาชิกพยายามถ่วงเวลาการพิจารณา

เวลานี้มีวุฒิสมาชิกอย่างน้อย 1 คนคือไมค์ ลี จากพรรครีพับลิกัน บอกว่า อาจพยายามกระทำการดังกล่าว ขณะที่วุฒิสมาชิกรีพับลิกันคนอื่นๆ เผยว่า ไม่ค่อยเห็นด้วยกับบางประเด็นในร่างกฎหมายนี้

ร่างกฎหมายที่ทั่วโลกกำลังจับตาฉบับนี้จะระงับการจำกัดเพดานหนี้ของสหรัฐฯ จนถึงวันที่ 1 มกราคม 2025 เพื่อให้ไบเดน และสมาชิกรัฐสภาพักประเด็นที่มีความเสี่ยงทางการเมืองนี้จนถึงหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนพฤศจิกายนปีหน้า

แต่ขณะเดียวกัน รัฐบาลต้องยอมจำกัดงบใช้จ่ายบางรายการในช่วง 2 ปีข้างหน้า โดยยกเว้นงบด้านกลาโหมและกิจการทหารผ่านศึก เร่งรัดการอนุญาตกระบวนการสำหรับโครงการพลังงานบางโครงการ ดึงกองทุนต่อสู้โควิดที่ยังไม่ได้ใช้กลับคืนมา และให้เพิ่มข้อกำหนดที่ผู้เข้าโครงการความช่วยเหลือด้านอาหารสำหรับผู้ยากไร้ ตลอดจนโปรแกรมสวัสดิการอื่นๆ จะต้องมีการทำงานด้วย

ความขัดแย้งเกี่ยวกับเพดานหนี้ที่ยืดเยื้อนี้ ทำให้บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือหลายแห่งออกมาเตือนก่อนหน้านี้ว่า อาจลดอันดับความน่าเชื่อถือตราสารหนี้สหรัฐฯ ซึ่งจะส่งผลกระทบรุนแรงต่อระบบการเงินโลก

(ที่มา : รอยเตอร์)