ไม่ว่าบัคมุตจะพังครืนไปแล้วหรือไม่ แต่มอสโกต้องชดใช้อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ในการสู้รบแย่งชิงเมืองแนวหน้าแห่งนี้ ในขณะที่ยูเครนเองก็พร้อมสำหรับโจมตีตอบโต้ครั้งใหญ่ เอเอฟพีรายงานความเห็นของผู้เชี่ยวชาญในวันอาทิตย์(21พ.ค.) สอดคล้องกับคำกล่าวอ้างของประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ที่เน้นย้ำว่ารัสเซียต้องสูญเสียกำลังพลในสมรภูมิแห่งนี้มากกว่า 100,000 นาย
เอเอฟพีระบุว่าคำกล่าวอ้างมีชัยเหนือเมืองที่ถูกทำลายแห่งนี้ของรัสเซีย ซึ่งยูเครนปฏิเสธในวันอาทิตย์(21พ.ค.) ไม่ได้หมายถึงภูมิประเทศใหม่ที่มีนัยสำคัญ ทั้งในแง่ของการเปิดฉากโจมตีหรือการป้องกัน
อย่างไรก็ตามมอสโกวางการยึดเมืองทางภาคตะวันออกของยูเครนแห่งนี้ เป็นกุญแจสำคัญ และระดมสรรพกำลังสู้รบในสมรภูมิที่ยาวนานที่สุดและนองเลือดที่สุดของสงคราม ในความพยายามเอาชนะในสิ่งที่จะนำมาอวดอ้างว่าเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญ เอเอฟพีระบุ
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ กล่าวจากที่ประชุมซัมมิตจี7 ในญี่ปุ่น เน้นว่าแค่ในเมืองบัคมุต รัสเซียประสบความสูญเสียกำลังพลมากกว่า 100,000 นาย ทั้งเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ
สถาบันศึกษาสงครามที่มีสำนักงานในสหรัฐฯ ให้ความเห็นว่าการโจมตีของยูเครนที่เล่นงานปีกด้านข้างของบัคมุต บีบให้กองกำลังรัสเซียต้องจัดสรรทรัพยกรทางทหารที่ขาดแคลนอยู่แล้ว ซึ่งมันดูเหมือนเป็นเจตนาของพวกผู้บัญชาการยูเครน
ฟิลลิปส์ โอไบรอัน ศาสตราจารย์ด้านศึกษายุทธศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยเซนต์ แอนดวูส์ ในสกอตแลนด์ "สิ่งที่ยูเครนจำเป็นต้องทำคือ สร้างความอ่อนแอที่รัสเซียให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ก่อนลงมือปฏิบัติการโจมตีตอบโต้ และอย่างที่ 2 คือ ซื้อเวลาเพื่อให้กองกำลังมีความพร้อม" เขาให้สัมภาษณ์กับ NPR สื่อมวลชนสหรัฐฯที่ออกอากาศในวันเสาร์(6พ.ค.) "พวกเขาคำนวณไว้แล้ว ผมเชื่อว่ามันเป็นทางเลือกที่ถูกต้อง ในการต่อสู้แย่งชิงบัคมุต พวกเขาทำทั้ง 2 อย่าง"
กรอบเวลาและจุดเพ่งเล็งในปฏิบัติการโจมตีตอบโต้ของยูเครน เป็นหัวข้อที่ถูกคาดเดามานานหลายเดือน ในขณะที่เคียฟบอกว่าพวกเขาจำเป็นต้องได้รับอาวุธจากบรรดาผู้สนับสนุนเพิ่มเติม ถึงสามารถเปิดปฏิบัติการโจมตีได้
ในขณะเดียวกัน รัสเซีย ได้เสริมสรรพกำลังตามแนวหน้าหลายร้อยกิโลเมตร ด้วยแนวรถถัง ร่องลึกและทหาร
ผลลัพธ์ของการสู้รบในสมรภูมินี้ มีขึ้นตามหลังการไหลบ่าอาวุธจำนวนมหาศาลของตะวันตกป้อนแก่ยูเครน ดังนั้นความสำเร็จหรือความล้มเหลว จึงอาจบ่อนทำลายแรงสนับสนุนในอนาคตหรือเพิ่มแรงกดดันให้เคียฟเข้าสู่การเจรจา
เป็นเรื่องยากที่จะทราบถึงระดับจำนวนกำลังพลที่รัสเซียต้องเสริมเข้าไปเติมเต็มการป้องกันตนเองในบัคมุต แต่ โอไบรอัน กล่าวว่ายูเครน อาจรอโจมตี "ในจุดที่พวกเขาคิดว่ารัสเซียอ่อนแอมากที่สุด"
มีการคาดเดากันไปต่างๆนานาเกี่ยวกับช่วงเวลาของการเปิดปฏิบัติการโจมตีตอบโต้ของยูเครน ท่ามกลางประเด็นอุปสรรคต่างๆนานาหลายประการ ในนั้นรวมถึงสภาพเปียกแฉะฤดูใบไม้ผลิ ที่ทำให้หลายพื้นที่ของประเทศเต็มไปด้วยโคลน
สภาพโคลนเหนียวหนืดในยูเครน ไม่ใช่ความคิดที่ดีนักสำหรับการเคลื่อนรถถังและกำลังพลอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามเวลานี้สภาพภูมิอากาศในยูเครน อยู่ในสภาพแห้งเป็นส่วนใหญ่มาเป็นเวลาหลายสัปดาห์แล้ว
กระนั้นก็ตามมันเป็นยากที่จะจินตนาการว่ายูเครนจะเปิดปฏิบัติการโจมตีตอบโต้ครั้งใหญ่ในเวลานี้ เนื่องจากปัจจุบันประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ยังอยู่นอกประเทศ
(ที่มา:เอเอฟพี)