มอสโกไม่เห็นด้วยโดยสิ้นเชิงกับคำประเมินของประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส ที่อ้างว่ารัสเซียกำลังกลายเป็นบริวารของจีน จากความเห็นของดมิทรี เปสคอฟ เลขานุการฝ่ายสื่อสารมวลชนของวังเครมลินในวันจันทร์ (15 พ.ค.)
ความเห็นของเขาเป็นการตอบโต้คำพูดของ มาครง ที่ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ L’Opinion เมื่อวันอาทิตย์ (14 พ.ค.) ว่า รัสเซีย "โดยพฤตินัยแล้ว รัสเซียเริ่มเข้าสู่รูปแบบหนึ่งของการเป็นทาสรับใช้ในเรื่องเกี่ยวกับจีน" พร้อมระบุมอสโกได้ตกเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ทางภูมิรัฐศาสตร์ในความขัดแย้งยูเครนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ระหว่างให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว เปสคอฟ ตอบโต้คำกล่าวอ้างดังกล่าว โดยแย้งว่า "ความสัมพันธ์ของเรากับจีนมีลักษณะเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์และหุ้นส่วนพิเศษ มันไม่เกี่ยวข้องกับความเป็นเอกราชใดๆ"
เขายืนยันว่าความสัมพันธ์ระหว่างมอสโกกับปักกิ่ง อยู่บนพื้นฐาน "ความสนใจร่วมกัน ผลประโยชน์ร่วมกัน และมีโลกทัศน์ร่วมกันในเรื่องกิจการระหว่างประเทศต่างๆ เช่นเดียวกับคัดค้านร่วมกันต่อตัวแสดงอื่นๆ ที่พยายามบงการและกำหนดมุมมองของพวกเขา ยามที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการพัฒนาประเทศของเรา"
โฆษกรายนี้บอกด้วยว่า มอสโกมองว่าข้อบ่งชี้ของมาครงนั้น "ไม่ถูกต้องโดยสิ้นเชิง" และพร้อมระบุดูเหมือนมันจะเป็น "ข้อพิสูจน์อย่างชัดเจนเกี่ยวกับความเข้าใจผิดโดยสิ้นเชิง เกี่ยวกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น"
ความเห็นของประธานาธิบดีฝรั่งเศส มีขึ้นตามหลังการประชุมซัมมิตครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย กับสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ในช่วงปลายเดือนมีนาคม ซึ่งผลลัพธ์คือการลงนามในข้อตกลงหลายสิบฉบับ ครอบคลุมขอบเขตที่หลากลาย ในขณะที่ก่อนหน้านั้นในเดือนกุมภาพันธ์ เจ้าหน้าที่จีนให้คำจำกัดความความสัมพันธ์ทวิภาคีว่า "แข็งแกร่งดั่งหินผา" ส่วนเจ้าหน้าที่รัสเซีย ระบุถึงความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ฝ่ายว่าอยู่ระดับแน่นแฟ้นที่สุดเท่าที่เคยมีมา
หลังการพบปะกันในครั้งนั้น ปูตินยังได้ปฏิเสธความคิดที่ว่า รัสเซีย กำลังพึ่งพิงจีนมากเกินไป โดยบอกว่าแนวคิดดังกล่าวเป็นมุมมองของพวกขี้อิจฉา และชี้ว่าเศรษฐกิจยุโรปต้องพึ่งพาจีนมากกว่ารัสเซียเสียอีก
(ที่มา : อาร์ทีนิวส์)