นี่ก็อาการไม่ดี! แอร์โดอันมีคะแนนสูสีคู่แข่งศึกเลือกตั้ง ปธน.ตุรกี ส่อต้องไปตัดสินรอบชี้ขาด

ตุรกีดูเหมือนต้องมุ่งหน้าสู่รอบชี้ขาดของศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี หลังทั้ง เรเจป ตัยยิบ แอร์โดอัน และเคมาล คิลิคดาโรกลู คู่แข่งจากฝ่ายค้านหลักไม่มีใครได้คะแนนเสียงเกินครึ่งหนึ่งเป็นหลักชัยแห่งชัยชนะในวันอาทิตย์ (14 พ.ค.) ที่ผ่านมา

หลังนับคะแนนไปแล้วเกือบ 91% ทั้งสองฝ่ายต่างอ้างว่าเป็นผู้นำและโต้แย้งกันเกี่ยวกับตัวเลข เรียกเสียงเตือนเกี่ยวกับการอย่าเพิ่งด่วนสรุปใดๆ ในศึกเลือกตั้งของประเทศที่แบ่งฝักแบ่งฝ่ายอย่างรุนแรง

ผลสำรวจความคิดเห็นต่างๆ ก่อนเลือกตั้งบ่งชี้ถึงการแข่งขันที่คู่คี่สูสี แต่ให้คิลิคดาโรกลู ซึ่งเป็นแกนนำพันธมิตร 6 พรรคการเมืองเป็นฝ่ายนำเล็กน้อย โดยในนั้นโพล 2 แห่งที่เผยแพร่ในวันศุกร์ (12 พ.ค.) ถึงขั้นให้เขาได้รับคะแนนเกินกว่าหลักชัย 50% ด้วยซ้ำ

ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี ไม่ได้เป็นแค่การตัดสินว่าใครจะเป็นผู้นำของตุรกี ชาติสมาชิกนาโตที่มีประชากร 85 ล้านคน แต่มันจะเป็นตัดสินใจเช่นกันว่าจะเป็นการกลับทิศกลับทางในเส้นทางของฆราวาสนิยม (แนวปรัชญาที่ว่าสถาบันการปกครอง สถาบันการเมือง หรือสถาบันในรูปอื่นควรจะดำเนินการปกครองที่เป็นอิสระจากการอำนาจการควบคุมของสถาบันศาสนา และหรือความเชื่อทางศาสนา) และเป็นประชาธิปไตยมากกว่าเดิมหรือไม่ รวมถึงแนวทางการจัดการกับวิกฤตค่าครองชีพรุนแรง และบริหารจัดการความสัมพันธ์กับรัสเซีย ตะวันออกกลาง และตะวันตก

ตามรายงานของสำนักข่าวอนาโดลู สื่อมวลชนแห่งรัฐ ระบุว่า หลังการนับคะแนนไปได้แล้วเกือบ 91% แอร์โดอัน มีคะแนนนำ คิลิคดาโรกลู ด้วยคะแนน 49.86% ต่อ 44.38% อย่างไรก็ตาม ฝ่ายค้านบ่งชี้ว่าผลโพลดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกมาเพื่อเพิ่มคะแนนให้แก่ แอร์โดอัน แบบหลอกๆ

เจ้าหน้าที่ระดับสูงรายหนึ่งจากพันธมิตรฝ่ายค้านบอกว่า "มันดูเหมือนจะไม่มีผู้ชนะในรอบแรก แต่ข้อมูลของเราบ่งชี้ว่า คิลิคดาโรกลู จะเป็นคนนำ" ส่วนเจ้าหน้าที่ระดับสูงของฝ่ายค้านอีกคนให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ว่า พรรคของแอร์โดอัน คัดค้านผลคะแนนมากขึ้นเรื่อยๆ และเตะถ่วงผลเลือกตั้งที่นับคะแนนเสร็จสมบูรณ์ "จนถึงตอนนี้พวกเขากำลังทำทุกอย่างที่อยู่ในอำนาจของพวกเขา ในความพยายามเตะถ่วงกระบวนการ"

ในกรุงอังการา ผู้สนับสนุนทั้ง 2 ฝ่ายต่างออกมาเฉลิมฉลอง ฝูงชนมารวมตัวกันบริเวณด้านนอกสำนักงานใหญ่ของพรรคเอเค ปาร์ตี ของแอร์โดอัน ชูโปสเตอร์ของแอร์โดอัน ร้องเพลงและเต้นรำ เช่นเดียวกับที่สำนักงานใหญ่ของพรรคซีเอชพีของ คิลิคดาโรกลู ที่มีผู้คนมารวมตัวกันนับพัน โบกธง มุสตาฟา เคมาล อตาเติรก์ ผู้ก่อตั้งตุรกีและตีกลอง

การเลือกตั้งประธานาธิบดีคนถัดไปของตุรกี เป็นหนึ่งในการตัดสินใจทางการเมืองที่สำคัญที่สุดหนหนึ่งในประวัติศาสตร์ 100 ปีของประเทศ และจะส่งผลสะท้อนออกไปไกลกว่าเขตแดนของตุรกีเอง

ความพ่ายแพ้ของแอร์โดอัน หนึ่งในพันธมิตรสำคัญที่สุดของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย จะก่อความกังวลแก่เครมลิน แต่สร้างความสบายใจแก่รัฐบาลสหรัฐฯ ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน เช่นเดียวกับพวกผู้นำยุโรปและตะวันออกกลาง ซึ่งมีปัญหาด้านความสัมพันธ์กับแอร์โดอัน

ผู้นำที่รับใช้ตุรกีมาอย่างยาวนานได้เปลี่ยนชาติสมาชิกนาโตและประเทศใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของยุโรป กลายเป็นผู้เล่นระดับโลก ปรับปรุงประเทศให้มีความทันสมัย ผ่านโครงการขนาดใหญ่ต่างๆ เช่น สะพานใหม่ โรงพยาบาล และสนามบิน รวมถึงสร้างอุตสาหกรรมทางทหาร

อย่างไรก็ตาม นโยบายทางเศรษฐกิจที่ผันผวนของเขา โดยเฉพาะอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำ ซึ่งเป็นชนวนเหตุของวิกฤตค่าครองชีพที่ลุกลามและเงินเฟ้อ ทำให้เขาตกอยู่ภายใต้ความโกรธเคืองของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ขณะเดียวกัน รัฐบาลของเขายังตอบสนองล่าช้าต่อหายนะแผ่นดินไหวในภาคตะวันออกเฉียงใต้ของตุรกี ที่เข่นฆ่าชีวิตไปกว่า 50,000 คน ปัจจัยนี้ได้สร้างความผิดหวังแก่ผู้มีสิทธิออกเสียงมากขึ้นไปอีก

คิลิคดาโรกลู สัญญาว่าจะนำพาตุรกีสู่เส้นทางใหม่ด้วยการกอบกู้ประชาธิปไตย หลังจากต้องอยู่ภายใต้การปราบปรามของภาครัฐมานานหลายปี คืนสู่นโยบายเศรษฐกิจกระแสหลัก ให้อำนาจแก่สถานบันต่างๆ ที่สูญเสียอิสรภาพไปภายใต้การคุมเข้มของแอร์โดอัน และรื้อฟื้นความสัมพันธ์ที่เปราะบางกับตะวันตก

พวกนักวิจารณ์เกรงว่าแอร์โดอัน จะปกป้องด้วยความเผด็จการมากยิ่งขึ้นถ้าเขาได้รับชัยชนะ แม้ประธานาธิบดีวัย 69 ปีรายนี้ ซึ่งเคยคว้าชัยในศึกเลือกตั้งมาแล้วหลายสิบหน บอกว่าเขาเคารพประชาธิปไตยและปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นเผด็จการ

ไซนาน โอกาน ผู้สมัครชิงเก้าอี้ประธานาธิบดี สายชาตินิยม มีคะแนนตามมาเป็นอันดับ 3 ด้วยคะแนนโหวต 5.3% และการประกาศจุดยืนให้การสนับสนุนใครของเขาจะมีความสำคัญยิ่งสำหรับศึกเลือกตั้งรอบชี้ขาด

ชาวตุรกี ยังได้ลงคะแนนเลือกรัฐสภาใหม่ ซึ่งเป็นการชิงชัยระหว่าง "พันธมิตรของประชาชน (People's Alliance)" ซึ่งประกอบด้วยพรรคอนุรักษนิยมรากเหง้าอิสลาม เอเค ปาร์ตี ของแอร์โดอัน พรรคชาตินิยม MHP และพรรคอื่นๆ กับพันธมิตรแห่งชาติ (Nation Alliance) ของคิลิคดาโรกลู ซึ่งประกอบด้วยพรรคฝ่ายค้าน 6 พรรค ในนั้นรวมถึงพรรครีพับลิกัน ดีเพิลส์ ปาร์ตี (CHP)

หลังจากนับคะแนนไปด้วย 89.5% พบว่าดูเหมือนพันธมิตรของแอร์โดอัน จะครองเสียงข้างมาก น่าจะคว้าไปได้ 323 เสียง จากทั้งหมด 600 เสียง หลังผลคะแนนออกมาดีกว่าที่โพลต่างๆ คาดการณ์ไว้

(ที่มา : รอยเตอร์)