xs
xsm
sm
md
lg

“อุตตม” ชู “ก้าวข้ามขัดแย้ง” ก่อน จึงจะเดินหน้านโยบายต่างๆ ได้ ยึดหลัก ปรับโครงสร้างเศรษฐกิจตั้งแต่ฐานราก ก้าวสู่โลกยุคใหม่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพ เวทีดีเบต “โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง 66 นโยบายเศรษฐกิจ กับ 9 พรรคการเมือง”
“อุตตม” ชู “ก้าวข้ามความขัดแย้ง” ก่อน จึงจะเดินหน้านโยบายต่างๆได้ ระบุ “พปชร.” ยึดหลัก ปรับโครงสร้างเศรษฐกิจตั้งแต่ระดับฐานราก ก้าวสู่โลกยุคใหม่ มั่นใจเป็นทางออกประเทศ

วันนี้ (3 พ.ค.) ที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ดร.อุตตม สาวนายน ประธานคณะจัดทำนโยบายพรรคพลังประชารัฐ ร่วมเวทีดีเบต “โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง 66 ดีเบตนโยบายเศรษฐกิจ กับ 9 พรรคการเมือง” ซึ่งจัดโดยสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจและมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย

ทั้งนี้ ในเวทีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง หัวข้อเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจที่ประชาชนต้องการ และนโยบายเศรษฐกิจที่ต้องการให้รัฐบาลหน้าดำเนินการอย่างเร่งด่วน ซึ่งผลสำรวจระบุว่า นโยบายที่ประชาชนต้องการมากที่สุดคือ นโยบายที่เพิ่มเงินในกระเป๋าประชาชน เช่น ขึ้นค่าแรง การลดค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภค ค่าน้ำ ไฟฟ้า น้ำมัน รวมทั้งมาตรการอื่นๆที่จะทำให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

ดร.อุตตม ได้ตอบคำถามแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับผลสำรวจข้างต้น ว่า ผลโพล ดังกล่าว สะท้อนความกังวลใจของพี่น้องประชาชนใน 2 เรื่อง คือ เรื่องปากท้องในปัจจุบัน กับเรื่องโอกาสการพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ในอนาคตที่สามารถมีโอกาสที่ดีกว่าวันนี้หรือไม่ โดยเฉพาะในสถานการณ์ปัจจุบันเศรษฐกิจประเทศไทยมีความเสี่ยงสูง ที่ปีนี้จะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกและภูมิรัฐศาสตร์

ดังนั้น โจทย์สำคัญที่รัฐบาลหน้าต้องทำมี 3 เรื่อง คือ 1. ต้องสร้างโอกาสเอื้ออำนวยและสนับสนุนเรื่องการสร้างรายได้ให้คนไทย 2.การบรรเทาภาระค่าครองชีพประชาชน เช่น ต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นของผู้ประกอบการ โดยเฉพาะคนตัวเล็ก บริษัทขนาดกลาง และเอสเอ็มอี 3.ต้องวางรากฐานการพัฒนาประเทศสู่อนาคตที่ยั่งยืนอย่างครอบคลุมและเท่าเทียม

ดร.อุตตม กล่าวต่อว่า การขับเคลื่อนทั้ง 3 ภารกิจนั้น พรรคพลังประชารัฐ มีชุดนโยบายความคิดที่สามารถทำได้ทันที โดยเป็นนโยบายที่ครอบคลุมทุกด้านและทุกกลุ่ม อาทิ การปรับโครงสร้างราคาพลังงานของประเทศคืนความยุติธรรมด้านราคาพลังงานให้กับประชาชน การแก้ปัญหาหนี้สินทั้งระบบ ไม่ใช่แค่การพักหนี้พักดอก แต่ต้องแก้หนี้และเติมทุนใหม่ เติมทักษะองค์ความรู้เข้าไปพร้อมกัน การมีรัฐสวัสดิการที่ครอบคลุม

“พรรคพลังประชารัฐ มองว่า รัฐสวัสดิการเป็นการลงทุน โดยลงทุนทุกกลุ่มวัย ไม่ใช่การโปรยเงิน และคนไทยต้องได้รับการคุ้มครองทางสังคมอย่างทั่วถึง และการพัฒนาเชิงพื้นที่โครงการใหญ่ทั้งคมนาคม อุตสาหกรรมใหม่ ประเทศไทยวันนี้ถ้าจะกระชากให้หลุดจากภาวะเศรษฐกิจชะงักงัน ก็ต้องมีการลงทุนในโครงการใหญ่ๆ”

ต่อคำถามเรื่องการลดความเหลื่อมล้ำ รวยกระจุก จนกระจาย ดร.อุตตม กล่าวว่า การแก้ปัญหารวยกระจุก จนกระจาย ต้องมองภาพรวมทั้งประเทศ ต้องเร่งสร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจฐานราก กระจายการพัฒนาทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคมลงสู่ชุมชนให้ทั่วถึง ต้องสร้างคู่ขนานกันทั้งโอกาสและรายได้ อย่างเช่น ด้านการเกษตร ที่ต้องส่งเสริมด้านเทคโนโลยี การวิจัยและการพัฒนา รวมถึงการสนับสนุนทุน โดยพรรคพลังประชารัฐมีนโยบายสนับสนุนทุนครัวเรือนละ 3 หมื่นบาท เพื่อไปพัฒนาต่อยอดให้มีศักยภาพ รวมถึงการสร้างเครือข่ายการท่องเที่ยวทั้งภูมิภาคด้วยระบบคมนาคม การแปรรูปสินค้าการเกษตรเพื่อเพิ่มมูลค่าเพิ่ม นอกจากนี้ ต้องสร้างเครื่องยนต์เศรษฐกิจใหม่ๆ ทดแทนเครื่องยนต์เศรษฐกิจเก่าที่กำลังถดถอย ให้สอดรับกับจุดแข็งของประเทศและตอบโจทย์สิ่งที่ทั่วโลกต้องการ เช่น BCG อาหาร สุขภาพ รวมถึง Digital Content เป็นต้น

นอกจากนี้ ในเวทียังได้เปิดโอกาสให้แต่ละพรรคได้แสดงวิสัยทัศน์ว่าทำไมประชาชนต้องเลือกพรรคพลังประชารัฐเป็นรัฐบาล โดย ดร.อุตตม กล่าวว่า นโยบายสั้นๆ ของพรรคพลังประรัฐ คือ “ก้าวข้ามความขัดแย้ง” เพราะถ้าไม่ก้าวข้ามความขัดแย้ง ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลไหนที่เข้าไป ไม่ว่าจะเป็นพรรคไหนบ้างเป็นรัฐบาลก็ไม่สามารถขับเคลื่อนนโยบายได้อย่างเต็มที่ พรรคพลังประชารัฐก้าวข้ามความขัดแย้งอยู่เหนือทุกนโยบายของเราเองและของทุกพรรค นั่นคือสิ่งที่เราเชื่อและนำเสนอกับประชาชน นอกจากนี้ พรรคพลังประชารัฐยังมีนโยบายที่มุ่งไปสู่การแก้ไขปัญหาเร่งด่วนของประเทศ ปัญหาปากท้อง และการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นทันที และขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้โตอย่างต่อเนื่องยั่งยืนใน 2 มิติ คือ การสร้างเศรษฐกิจที่พัฒนาที่ยั่งยืนและการสร้างรัฐสวัสดิการที่คลอบคลุมและเป็นธรรมสำหรับคนไทย


กำลังโหลดความคิดเห็น