ฉุนโดนกล่าวหา! ‘แอฟริกาใต้’ เรียกทูตมะกันเข้าพบ ปฏิเสธส่งอาวุธช่วย ‘รัสเซีย’ ขยี้ยูเครน

เจ้าหน้าที่แอฟริกาใต้ออกมาตอบโต้ข้อครหาของทางการสหรัฐฯ ที่ระบุว่า มีเรือรัสเซียลำหนึ่งเข้าไปขนอาวุธออกมาจากฐานทัพเรือใกล้เมืองเคปทาวน์เมื่อปลายปีที่แล้ว ในความเคลื่อนไหวซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลว่าประเทศแห่งนี้อาจจะตกเป็นเป้าหมายคว่ำบาตรล่าสุดของวอชิงตัน

รูเบน บริเกตี เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำแอฟริกาใต้ เผยเมื่อวันพฤหัสบดี (11 พ.ค.) ว่า ตน “มั่นใจ” ว่าเรือของรัสเซียที่ถูกสหรัฐฯ คว่ำบาตรเข้าไปขนอาวุธออกมาจากฐานทัพในเมืองไซมอนส์ทาวน์ (Simon’s Town) เมื่อเดือน ธ.ค. ซึ่งความเคลื่อนไหวนี้ถือว่าขัดแย้งกับจุดยืน “เป็นกลาง” ที่รัฐบาลกรุงพริทอเรียประกาศไว้

นักการทูตตะวันตกหลายคนรู้สึกไม่สบายใจที่แอฟริกาใต้เปิดซ้อมรบทางทะเลร่วมกับรัสเซียและจีนในปีนี้ รวมถึงช่วงเวลาในการไปเยือนกรุงพริทอเรีย ของ เซียร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียด้วย

แอฟริกาใต้เป็นหนึ่งในพันธมิตรสำคัญที่สุดรายหนึ่งของรัสเซียในภูมิภาคแอฟริกา แต่กระนั้นรัฐบาลพริทอเรียก็ย้ำจุดยืน “เป็นกลาง” และงดออกเสียงทุกครั้งที่สหประชาชาติมีการโหวตญัตติเกี่ยวกับสงครามรัสเซีย-ยูเครน

ทำเนียบเครมลินแถลงเมื่อวานนี้ (12) ว่า ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ได้โทรศัพท์หารือสถานการณ์ความขัดแย้งในยูเครนร่วมกับประธานาธิบดี ซีริล รามาโฟซา แห่งแอฟริกาใต้

สำนักงานของ รามาโฟซา แถลงเมื่อวันพฤหัสบดี (11) ว่าจะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนซึ่งนำโดยอดีตผู้พิพากษารายหนึ่งเพื่อตรวจสอบข้อครหาของสหรัฐฯ และในวันศุกร์ (12) รัฐมนตรีฝ่ายควบคุมอาวุธกับโฆษกกระทรวงการต่างประเทศแอฟริกาใต้ก็ออกมายืนยันว่า ไม่เคยมีการอนุมัติส่งอาวุธให้รัสเซียเมื่อเดือน ธ.ค. ตามที่อเมริกาอ้าง

“เราไม่เคยอนุมัติการจัดส่งอาวุธใดๆ ให้รัสเซีย มันไม่ใช่สิ่งที่ถูกห้ามหรืออนุมัติโดยเรา” มอนด์ลี กุนกูเบเล รัฐมนตรีกระทรวงการสื่อสารซึ่งดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการควบคุมอาวุธแบบดั้งเดิมแห่งชาติในช่วงที่อ้างว่ามีการจัดส่งอาวุธ ให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุ 702 radio

ด้านกระทรวงกลาโหมแอฟริกาใต้แถลงยืนยันวานนี้ (12) ว่าจะออกมาให้ข้อมูลในฝั่งของกระทรวงต่อคณะกรรมการสอบสวนของรัฐบาล

ขณะเดียวกัน นาเลดี พันเดอร์ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศแอฟริกาใต้ ก็ได้เรียกตัว บริเกตี เข้าพบเมื่อวานนี้ (12) เพื่อ “แสดงความไม่พอใจอย่างยิ่งต่อพฤติกรรมและคำพูดของทูตสหรัฐฯ” เมื่อ 1 วันก่อนหน้า

ทางกระทรวงระบุว่า บริเกตี “ยอมรับว่าได้กระทำการล้ำเส้น และได้ขออภัยอย่างจริงใจต่อรัฐบาลและประชาชนชาวแอฟริกาใต้”

ด้านทูตอเมริกันรายนี้ทวีตข้อความระบุว่า “ผมรู้สึกซาบซึ้งที่มีโอกาสได้พูดคุยกับท่านรัฐมนตรี พันเดอร์ เมื่อค่ำวันนี้ และได้แก้ไขความเข้าใจอันคลาดเคลื่อนอันเกิดจากถ้อยแถลงของผม”

กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ยืนยันว่า แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศ ได้มีการโทรศัพท์พูดคุยกับ พันเดอร์ แล้ว “และเอ่ยย้ำความมุ่งมั่นของสหรัฐฯ ที่จะร่วมมือกับแอฟริกาใต้ในประเด็นสำคัญๆ เช่น สาธารณสุข การค้า และพลังงาน”

ข้อมูลจากเว็บไซต์ติดตามเรือ Refinitiv ระบุว่า เมื่อออกจากไซมอนส์ทาวน์แล้ว เรือ ‘Lady R’ ของรัสเซียได้เดินทางมุ่งขึ้นเหนือไปยังโมซัมบิก และจอดแวะที่ท่าเรือไบรา (Beira) ระหว่างวันที่ 7-11 ม.ค. ก่อนจะเดินทางต่อไปยังพอร์ตซูดานในทะเลแดง และไปถึงเมืองท่า Novorossiysk ของรัสเซียริมชายฝั่งทะเลดำเมื่อวันที่ 16 ก.พ.

สหรัฐฯ ได้ประกาศขึ้นบัญชีดำเรือ Lady R และบริษัทขนส่ง Transmorflot LLC ตั้งแต่เดือน พ.ค. ปี 2022 โดยอ้างว่าบริษัทแห่งนี้มีการขนส่งอาวุธให้รัฐบาลรัสเซีย

ที่มา : รอยเตอร์