อดีตนายกรัฐมนตรี อิมรอน ข่าน ของปากีสถาน ถูกศาลต่อต้านการทุจริตสั่งคุมขังต่ออีก 8 วันเมื่อวันพุธ (10 พ.ค.) ขณะที่การประท้วงรุนแรงต่อต้านการจับกุมเขาแพร่กระจายไปทั่วประเทศเป็นวันที่ 2 โดยที่มีผู้เสียชีวิตไปอย่างน้อย 6 คนแล้ว
การปฏิบัติการเล่นงานข่าน อดีตซูเปอร์สตาร์ของกีฬาคริกเก็ตซึ่งปัจจุบันอยู่ในวัย 70 ปี บังเกิดขึ้นในช่วงเวลาอันล่อแหลมยิ่งสำหรับประเทศเอเชียใต้ที่มีประชากร 220 ล้านคนแห่งนี้ ซึ่งกำลังดิ้นรนต่อสู้กับวิกฤตเศรษฐกิจครั้งร้ายแรง ขณะที่การทำความตกลงขอความช่วยเหลือกอบกู้สถานการณ์จากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ก็ล่าช้ามาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน
การจับกุมข่านซึ่งเกิดขึ้นในวันอังคาร (9) กลายเป็นการเปิดฉากให้เกิดการปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้สนับสนุนเขากับพวกตำรวจในหลายๆ เมืองทั่วประเทศ ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตไปอย่างน้อย 6 คน และการที่เขายังคงถูกคุมขังเอาไว้ต่อไป กลายเป็นการเพิ่มโอกาสความเป็นไปได้ที่จะมีความไม่สงบมากขึ้นอีก ทั้งนี้มีรายงานแล้วว่า พวกผู้ประท้วงที่โกรธแค้นได้บุกเข้าไปในสถานีวิทยุแห่งหนึ่งทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือเมื่อวันพุธ ส่วนที่เมืองหลวงอิสลามาบัด กลุ่มผู้สนับสนนข่านก็เกิดปะทะกับตำรวจ
อดีตนายกรัฐมนตรีผู้นี้สูญเสียตำแหน่งจากการถูกลงมติไม่ไว้วางใจเมื่อปีที่แล้ว แต่ยังคงเป็นบุคคลในฝ่ายค้านที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของประเทศ
มีรายงานว่า ปากีสถานได้ระงับบริการอินเทอร์เน็ตเคลื่อนที่ รวมทั้งจำกัดการเข้าถึงแพลตฟอร์มสื่อสังคมอย่างทวิตเตอร์ ยูทูบ และเฟซบุ๊ก รัฐบาลยังสั่งให้โรงเรียนหยุดการเรียนการสอนในวันพุธ และทีวีมีแต่ข่าวความรุนแรงที่ระเบิดขึ้นเมื่อวันอังคาร ขณะที่ตำรวจเผยว่า จับกุมผู้ชุมนุมได้อย่างน้อย 150 คน
3 ใน 4 แคว้นของปากีสถานประกาศใช้คำสั่งฉุกเฉินห้ามการชุมนุม ภายหลังผู้สนับสนุนข่านปะทะกับตำรวจ
ทั้งนี้ ข่านถูกหน่วยงานต่อต้านการทุจริตจับกุมตัวออกมาจากศาลสูงอิสลามาบัดเมื่อวันอังคาร และในวันพุธ เขาถูกนำตัวขึ้นศาลต่อต้านคอร์รัปชั่น ซึ่งจัดการพิจารณาคดีขึ้นเป็นกรณีพิเศษ ที่บริเวณเกสต์เฮาส์ของตำรวจ ที่ใช้เป็นที่กักขังข่าน
การจับกุมอดีตนายกรัฐมนตรีผู้นี้เกิดขึ้นหลังจากกองทัพที่ทรงอิทธิพลประณามข่านที่ยังคงกล่าวหาซ้ำๆ ว่า พลเอกไฟซาล นาซีร์ เจ้าหน้าที่อาวุโสหน่วยข่าวกรองทหาร มีความเกี่ยวข้องกับความพยายามในการลอบสังหารเขาเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเขาได้รับบาดเจ็บโดยถูกยิงที่ขา
ทว่า รัฐบาลปากีสถานระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นฝีมือของมือปืนที่ก่อเหตุตามลำพัง ซึ่งขณะนี้ถูกควบคุมตัวอยู่และสารภาพในวิดีโอที่รั่วไปถึงสื่อจนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์
มาร์ริยัม ออรังเซบ รัฐมนตรีข้อมูลข่าวสาร บอกกับสถานีทีวีจีโอ นิวส์เมื่อวันพุธว่า การประท้วงซึ่งเกิดขึ้นเวลานี้ ไม่ได้เป็นการตอบสนองของประชาชนต่อการจับกุมข่าน แต่เป็นการวางแผนของพรรคปากีสถาน เตห์รีค-อี-อินซาฟ (พีทีไอ) ของข่าน โดยมีการเผาอาคารหลายหลัง โจมตีอาคารราชการและบ้านเรือนประชาชน
การแสดงความคิดเห็นดังกล่าวมีขึ้นหลังจากผู้สนับสนุนข่านปะทะกับตำรวจในหลายเมืองในวันอังคาร รวมทั้งจู่โจมเข้าไปในอาคารของกองทัพในเมืองลาฮอร์และเมืองราวัลปินดี
อย่างไรก็ดี หนังสือพิมพ์ดอว์น ซึ่งเป็นสื่อสำคัญในปากีสถาน ออกบทบรรณาธิการในฉบับวันพุธระบุว่า จากลักษณะและจุดที่มีการประท้วงที่เกิดขึ้นหลังการจับกุมข่าน บ่งชี้ว่า ความโกรธเคืองของประชาชนยังพุ่งเป้าไปที่กองทัพด้วย
จีโอ นิวส์รายงานว่า ข่านจะให้การ 2 คดีในวันพุธ ได้แก่ คดีทุจริตที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ และคดีกล่าวหาข่านขายของกำนัลของรัฐบาลระหว่างดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในปี 2018-2022
ทั้งนี้ นับจากถูกปลดในเดือนเมษายน ข่านถูกตั้งข้อกล่าวหานับสิบข้อหา ซึ่งนักวิเคราะห์ชี้ว่า รัฐบาลปากีสถานหลายยุคหลายสมัยมักใช้วิธีนี้เพื่อปิดปากฝ่ายต่อต้าน และข่านอาจถูกห้ามไม่ให้รับตำแหน่งทางการเมืองหากถูกตัดสินว่าผิด ซึ่งจะทำให้เขาไม่สามารถลงเลือกตั้งที่จะมีขึ้นปลายปีนี้
การจับกุมข่านมีแนวโน้มทำให้สถานการณ์วุ่นวายทางการเมืองเลวร้ายลง โดยที่ พรรคพีทีไอของข่าน ขอให้ผู้สนับสนุนในแสเรไคเบอร์ปัคตุนควา ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือไปรวมตัวกันเช้าวันพุธที่เมืองสวาบีเพื่อขึ้นรถไปยังเมืองหลวงอิสลามาบัด
ขณะเดียวกัน ชาห์ มาหมูด คูเรชี รองประธานพีทีไอเผยว่า ผู้นำอาวุโสของพรรคเดินทางไปพบข่านในอิสลามาบัด และจะยื่นคำร้องต่อศาลสูงสุดเพื่อให้ล้มล้างคำสั่งของศาลสูงอิสลามาบัดที่วินิจฉัยว่า การจับกุมข่านถูกต้องตามกฎหมาย
อนึ่ง หลังการจับกุมข่านเมื่อวันอังคาร แคนาดาเรียกร้องให้พลเมืองของตนใช้ความระมัดระวังอย่างสูงในการเดินทางไปปากีสถาน ขณะที่สถานทูตอเมริกันในอิสลามาบัดยกเลิกการนัดหมายขอรับบริการกงสุลทั้งหมดในวันพุธ
นอกจากนั้น แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ยังกล่าวระหว่างแถลงข่าวร่วมกับเจมส์ เคลเวอรี รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ เมื่อวันอังคารในวอชิงตันว่า อเมริกาต้องการทำให้แน่ใจว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในปากีสถานสอดคล้องกับหลักนิติธรรมและรัฐธรรมนูญ รวมทั้งต้องการเห็นประชาธิปไตยที่มีสันติภาพในประเทศดังกล่าว
(ที่มา: รอยเตอร์, เอพี, เอเอฟพี)
