จีนเสร็จสิ้นการซ้อมรบครั้งใหญ่ 3 วันรอบๆ เกาะไต้หวันในวันจันทร์ (10 เม.ย.) โดยแถลงว่าได้ทดสอบสมรรถนะทางทหารแบบบูรณาการภายใต้เงื่อนไขการสู้รบที่เป็นจริง มีการฝึกการโจมตีแบบแม่นยำ และสกัดกั้นปิดล้อมเกาะแห่งนี้ทุกทิศทุกทาง ขณะที่อเมริกาก็ส่งเรือพิฆาตติดขีปนาวุธนำวิถีแล่นเฉียดหมู่เกาะสแปรตลีย์ในทะเลจีนใต้ที่ปักกิ่งอ้างสิทธิอธิปไตย
จีนเริ่มปฏิบัติการซ้อมรบคราวนี้มาตั้งแต่เมื่อวันเสาร์ (8) หลังจากประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน ของไต้หวันเดินทางกลับถึงไทเป ภายหลังแวะหารือกับเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ในระหว่างที่เธอแวะเปลี่ยนเครื่องบินที่อเมริกาเมื่อสัปดาห์ที่แล้วโดยไม่สนใจคำเตือนของปักกิ่ง
กองบัญชาการยุทธบริเวณตะวันออกแห่งกองทัพปลดแอกประชาชนจีน ซึ่งมีพื้นที่รับผิดชอบครอบคลุมไต้หวัน กล่าวในคำแถลงว่า การซ้อมรบครั้งนี้ “เสร็จสิ้นลงอย่างประสบความสำเร็จ” และ “เป็นการทดสอบอย่างครอบคลุมรอบด้าน” ถึงสมรรถนะด้านต่างๆ ของหน่วยทหารนานาภายใต้เงื่อนไขการสู้รบที่เป็นจริง
“กองทหารในยุทธบริเวณนี้มีความพรักพร้อมเข้าสู้รบตลอดเวลา และสามารถสู้รบในเวลาไหนก็ได้ ด้วยความมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยวในการบดขยี้พวกนักแบ่งแยกดินแดนเรียกร้องเอกราชไต้หวันไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบใดก็ตาม ตลอดจนการแทรกแซงของต่างชาติ” คำแถลงระบุ
ทางด้านสถานีโทรทัศน์ของทางการจีนรายงานเอาไว้ก่อนหน้านั้นในวันจันทร์ (10) ว่า ในวันสุดท้ายของการซ้อมรบ เครื่องบินแบบต่างๆ รวมทั้งเครื่องบินทิ้งระเบิดเอช-6 ที่ติดอาวุธขีปนาวุธใช้งานได้จริงๆ ตลอดจนกองเรือรบได้ดำเนินการฝึกเพื่อ “ก่อให้เกิดสถานการณ์การปิดล้อมซึ่งเป็นการโอบล้อมเกาะไต้หวันเอาไว้ทั้งหมดในทิศทางต่างๆ หลายหลาก”
กองบัญชาการยุทธบริเวณตะวันออกระบุด้วยว่า เรือบรรทุกเครื่องบิน “ซานตง” ก็ได้เข้าร่วมในการตรวจการณ์แบบเตรียมพร้อมสู้รบ รวมทั้งยังได้โชว์ภาพเครื่องบินขับไล่กำลังทะยานขึ้นจากดาดฟ้าของเรือบรรทุกเครื่องบินลำนี้อีกด้วย
วันเดียวกันนั้น ทางด้านอเมริกาที่เรียกร้องซ้ำๆ ให้จีนอดกลั้น ได้ส่งเรือพิฆาตติดตั้งขีปนาวุธนำวิถี “ยูเอสเอส มิเลียส” เข้าสู่ทะเลจีนใต้ใกล้หมู่เกาะสแปรตลีย์ ที่จีนอ้างสิทธิทับซ้อนกับไต้หวัน ฟิลิปปินส์ เวียดนาม มาเลเซีย และบรูไน
กองทัพเรือสหรัฐฯ แถลงว่า ปฏิบัติการดังกล่าวเป็นการแสดงเสรีภาพในการเดินเรือและสนับสนุนการใช้น่านน้ำอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
การกระทำนี้ทำให้จีนยิ่งกราดเกรี้ยวโดยระบุว่า เรือมิเลียสรุกล้ำน่านน้ำของตนโดยผิดกฎหมาย
วันจันทร์ หวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนเตือนว่า เอกราชของไต้หวันและสันติภาพในช่องแคบของไต้หวัน เป็นสิ่งที่ไม่สามารถเกิดขึ้นพร้อมกันได้ พร้อมกล่าวหาไทเปและกองกำลังต่างชาติที่สนับสนุนไต้หวันเป็นต้นเหตุทำให้สถานการณ์ตึงเครียดยิ่งขึ้น
ทางด้านญี่ปุ่นเปิดเผยในวันเดียวกันว่า ได้สกัดเครื่องบินจีนหลายลำที่ลงจอดและทะยานขึ้นจากเรือบรรทุกเครื่องบินซานตงเมื่อหลายวันที่ผ่านมา
ทั้งนี้ หลังจากพรรคก๊กมินตั๋งพ่ายแพ้ในสงครามกลางเมืองของจีน และอพยพหลบหนีไปอยู่ที่เกาะไต้หวันในปี 1949 ทั้งปักกิ่งและไทเปต่างอ้างตนเป็นตัวแทนแต่เพียงผู้เดียวของจีนทั้งหมด แต่ไทเปเพิ่งระงับการกล่าวอ้างเช่นนี้ในช่วงไม่กี่สิบปีหลังๆ นี้ และมีความโน้มเอียงที่จะประกาศตัวเป็นเอกราช โดยที่จีนยังคงถือว่าไต้หวันเป็นดินแดนส่วนหนึ่งที่ตนจะเข้าควบคุมในวันใดวันหนึ่งแม้ต้องใช้กำลังก็ตาม
ขณะที่สหรัฐฯ มีนโยบายคลุมเครือมาตลอดเกี่ยวกับคำถามที่ว่าจะให้การปกป้องทางทหารแก่ไต้หวันหรือไม่ แต่ก็ขายอาวุธให้ไทเปตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมาเพื่อช่วยให้มั่นใจว่า ไต้หวันสามารถป้องกันตนเองได้ อีกทั้งยังให้การสนับสนุนทางการเมืองแก่ไต้หวัน
เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว จีนได้เคยส่งเรือรบ ขีปนาวุธ และเครื่องบินขับไล่ ดำเนินการซ้อมรบใหญ่รอบเกาะไต้หวันมาครั้งหนึ่งแล้ว เพื่อต่อต้านการที่แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ในขณะนั้นเดินทางเยือนไทเป
ขณะที่การพบกันระหว่างไช่ กับแมคคาร์ธีที่ลอสแองเจลิสแทนที่จะเป็นไต้หวัน ถูกมองว่า เป็นความพยายามประนีประนอมซึ่งตอกย้ำการสนับสนุนไต้หวัน ทว่าหลีกเลี่ยงการโหมกระพือความขัดแย้งกับปักกิ่งไปพร้อมกัน
กระนั้น จีนเตือนหลายครั้งไม่ให้ไช่พบกับแมคคาร์ธี และเริ่มการซ้อมรบครั้งล่าสุดทันทีที่ไช่กลับถึงไต้หวัน
สือ อิน โฆษกกองทัพปลดแอกประชาชนจีน (พีแอลเอ) กล่าวว่า ปฏิบัติการซ้อมรบที่ใช้ชื่อรหัสว่า “ดาบประสาน” ครั้งนี้ เป็นการเตือนไม่ให้มีการสมรู้ร่วมคิดระหว่างกองกำลังแบ่งแยกดินแดนที่ต้องการให้ไต้หวันเป็นอิสระ กับกองกำลังภายนอก และต่อต้านการยั่วยุของทั้งสองฝ่ายนี้
การซ้อมรบในวันจันทร์รวมถึงการใช้กระสุนจริงในบริเวณนอกชายฝั่งมณฑลฝูเจี้ยน ห่างจากหมู่เกาะหมาจู่ 80 กิโลเมตร และ 190 กิโลเมตรจากไทเป
หน่วยงานทางทะเลท้องถิ่นเผยว่า การซ้อมรบจัดขึ้นระหว่างเวลา 7.00-20.00 น. รอบเกาะผิงฐาน ทางตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งเป็นจุดที่อยู่ใกล้ไต้หวันมากที่สุด
ด้านกระทรวงกลาโหมไต้หวันได้เผยแพร่แผนที่เมื่อวันจันทร์ซึ่งแสดงกิจกรรมของกองทัพอากาศจีนในรอบ 24 ชั่วโมงก่อนหน้านั้น โดยเผยให้เห็นเครื่องบินขับไล่เจ-15 ของจีนซ้อมรบเหนือมหาสมุทรแปซิฟิกทางด้านตะวันออกของไต้หวัน
ในเวลาต่อมา ทางกระทรวงแถลงว่า ในวันจันทร์ ไต้หวันตรวจพบว่าจีนได้ส่งเครื่องบินทหาร 91 ลำ และเรือ 12 ลำ มายังรอบเกาะไต้หวัน ส่วนหมู่เรือบรรทุกเครื่องบินซานตง ปฏิบัติการซ้อมรบอยู่ทางด้านตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิก
(ที่มา : รอยเตอร์, เอเอฟพี)