แรง!! ลูกชายทรัมป์เหน็บเซเลนสกี 'ดาราค่าตัวแพงสุดในโลก' โกยเงินช่วยเหลือหลายหมื่นล้านดอลล์

ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน อดีตนักแสดงตลก ก้าวขึ้นมาเป็น "นักแสดงที่มีค่าตอบแทนสูงที่สุด" สำหรับปี 2022 โดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ เขียนติดตลกเชิงเหน็บแนมบนอินสตาแกรมเมื่อวันเสาร์ (1 เม.ย.) หลังจากก่อนหน้านี้ทั้งตัวของทรัมป์เอง และลูกชายต่างออกมาวิพากษ์วิจารณ์ซ้ำแล้วซ้ำเล่าเกี่ยวกับปริมาณความช่วยเหลือมหาศาลที่อเมริกามอบให้แก่รัฐบาลของเซเลนสกี

โดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ ได้แชร์ภาพหน้าจอของบนสนทนาหนึ่งบนทวิตเตอร์ ซึ่งทางสำนักข่าว "เดลี ลาวด์" ยกให้ "ทอม ครูซ" เป็นนักแสดงที่ได้รับค่าตอบแทนสูงที่สุดประจำปี 2022 และมีผู้ติดตามรายหนึ่งเข้ามาเขียนแสดงความคิดเห็นว่า "ที่จริง เซเลนสกี คือนักแสดงที่ได้รับค่าตอบแทนสูงที่สุด" พร้อมระบุว่าประธานาธิบดียูเครนมีรายได้ถึง 18,000 ล้านดอลลาร์ ผิดกับ ครูซ ที่มีรายได้เพียง 100 ล้านดอลลาร์

"สุดยอดเลย!" ทรัมป์ จูเนียร์ ตอบกลับ "ผมคิดว่าจำนวนน่าจะอยู่ที่ 1.3 แสนล้านดอลลาร์นะ"

อย่างไรก็ตาม ตัวเลขของผู้ติดตามและทรัมป์ จูเนียร์ นั้นเป็นข้อมูลที่ผิด เพราะในความเป็นจริง อ้างอิงข้อมูลจาก Kiel Institute สถาบันวิจัยเศรษฐกิจโลกที่ตั้งอยู่ในเยอรมนี พบว่านับตั้งแต่ปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียในยูเครนเริ่มต้นขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ปีก่อน สหรัฐฯ จัดสรรเงินแก่ยูเครนแล้วราว 1.13 แสนล้านดอลลาร์ สำหรับความช่วยเหลือทั้งในด้านการทหาร เศรษฐกิจและมนุษยธรรม ในนั้นได้เบิกจ่ายไปแล้ว 75,000 ล้านดอลลาร์

เมื่อรวมกับความช่วยเหลือจากอียู และสมาชิกอียูแต่ละชาติ เช่นเดียวกับพันธมิตรทั้งหลายของสหรัฐฯ ในนั้นรวมถึงแคนาดา ญี่ปุ่น และสหราชอาณาจักร ส่งผลให้ยอดรวมความช่วยเหลือที่มอบแก่ยูเครนพุ่งแตะระดับมากกว่า 143,600 ล้านดอลลาร์ หรือเกือบ 25 เท่า ของงบประมาณกลาโหมของยูเครนประจำปี 2021

โดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ เคยพาดพิง เซเลนสกี ว่าเป็น "ราชินีแห่งสวัสดิการระหว่างประเทศที่ไม่รู้จักสำนึกบุญคุณ" หลังจากผู้นำยูเครนเดินทางเยือนวอชิงตันในเดือนธันวาคม เพื่อขอความช่วยเหลือด้านการทหารจากสหรัฐฯ เพิ่มเติม ขณะเดียวกัน พ่อของเขากล่าวหาประธานาธิบดีโจ ไบเดน ซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าเสี่ยงจุดชนวน "สงครามโลกครั้งที่ 3" ด้วยการมอบอาวุธป้อนแก่กองกำลังของเซเลนสกี

ทรัมป์ กล่าวโทษต้นตอความขัดแย้งบางส่วนไปที่พวกแนวคิดโลกนิยมรุ่นท้ายๆ ของอเมริกา ในกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ และเพนตากอน พร้อมยืนยันว่าหากเขาได้รับเลือกตั้งในปีหน้า กลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย เขาจะสามารถบรรลุข้อตกลงหยุดยิงภายใน 24 ชั่วโมง

(ที่มา : อาร์ทีนิวส์)