จีนพร้อมยกระดับความร่วมมือกับกองทัพรัสเซีย เพื่อร่วมกันส่งเสริมความยุติธรรม สันติภาพ และความมั่นคงระหว่างประเทศ จากคำกล่าวของ พ.อ.พิเศษ ถาน เค่อเฟย โฆษกกระทรวงกลาโหมของจีนเมื่อวันพฤหัสบดี (30 มี.ค.)
คำแถลงนี้มีขึ้นตามหลังการประชุมสุดยอดผู้นำ ระหว่างประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน และประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ในกรุงมอสโกเมื่อช่วงต้นเดือนนี้ โดยทั้ง 2 ผู้นำเน้นย้ำในหลักการแห่งความเป็นพันธมิตรระหว่างกัน และเห็นพ้องปรับปรุงความสัมพันธ์ทวิภาคีและยกระดับความร่วมมือทางทหาร
ถาน กล่าวว่า "จีนมีความตั้งใจทำงานร่วมกับกองทัพรัสเซีย ในการปฏิบัติตามฉันทมติที่สำคัญที่เห็นพ้องกันโดยผู้นำของทั้ง 2 ประเทศ" พร้อมระบุว่า "ในนั้นรวมถึงการกระชับการสื่อสารและความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น"
โฆษกกระทรวงกลาโหมของจีนรายนี้ เน้นย้ำว่าทั้ง 2 ประเทศ มีแผนจัดระบบลาดตระเวนทางทะเลและทางอากาศร่วมกันเป็นประจำ เช่นเดียวกับการจัดซ้อมรบ และเสริมความเข้มแข็งในขอบเขตความร่วมมืออื่นๆ
คำแถลงของ ถาน ระบุด้วยว่าเป้าหมายของการยกระดับความร่วมมือคือเสริมสร้างความไว้วางใจทางทหารมากยิ่งขึ้นกับรัสเซีย เพื่อช่วยรับประกันสันติภาพระหว่างประเทศ และเป็นตัวสนับสนุนใหม่สำหรับความมั่นคงระหว่างประเทศและในระดับภูมิภาค "มันจะถูกใช้สร้างประชาคมหนึ่งๆ ซึ่งมวลมนุษยชาติมีอนาคตร่วมกัน"
เขาเน้นถึงความสัมพันธ์ที่เข้มแข็งมากขึ้นเรื่อยๆ ระหว่างมอสโกกับปักกิ่ง แต่ยืนยันว่ามันไม่เทียบเท่ากับพันธมิตรการเมือง-การทหารในรูปแบบสงครามเย็น "ความสัมพันธ์นี้อยู่เหนือรูปแบบความสัมพันธ์ระหว่างรัฐ" และมีลักษณะของ "การไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ไม่เผชิญหน้าและไม่ได้เล็งเป้าหมายไปประเทศอื่นๆ"
ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นในขณะที่สหรัฐฯ เรียกความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและจีน ว่า "เป็นสิ่งที่น่าหนักใจอย่างมาก" และเจ้าหน้าที่ให้คำจำกัดความจีนในฐานะ "ความท้าทาย" ส่วนหนึ่งในคำร้องของเพนตากอน ในการของบประมาณกลาโหมประจำปี 2024 เพิ่มเติมเป็น 842,000 ล้านดอลลาร์
ระหว่างแถลงข่าว ถาน โต้แย้งว่า จีน คือ "ผู้สร้างสันติภาพโลก" และ "ผู้สนับสนุนพัฒนาการโลก" และทางในกลับกัน เขาอ้างว่าสหรัฐฯ ใช้งบประมาณกลาโหมมหาศาล ซึ่งสูงที่สุดในโลก สำหรับก่อสงครามต่างๆ และสร้างความยุ่งเหยิงในทุกหนทุกแห่ง ทำให้วอชิงตันกลายเป็น "ภัยคุกคามใหญ่โลกที่สุด ต่อสันติภาพ ความมั่นคงและเสถียรภาพโลก"
(ที่มา : อาร์ทีนิวส์)