บิ๊ก “วากเนอร์ กรุ๊ป” ระบุยึดเมืองบัคมุตได้แล้วในแง่กฎหมาย ขณะที่เซเลนสกีอ้างการสู้รบในเมืองดังกล่าวยังดุเดือด เวลาเดียวกันมอสโกประกาศเตรียมเคลื่อนย้ายอาวุธนิวเคลียร์ไปประชิดชายแดนด้านตะวันตกของเบลารุสซึ่งเท่ากับเป็นการประจันหน้ากับเขตแดนนาโต้
เยฟเกนี ปริโกจิน เจ้าของวากเนอร์ กรุ๊ป บริษัททหารรับจ้างของรัสเซีย เปิดเผยผ่านคลิปที่โพสต์บนแอปเทเลแกรมเมื่อวันอาทิตย์ (2 เม.ย.) ว่า กองกำลังของตนได้เข้าไปปักธงชาติรัสเซียในอาคารที่ทำการรัฐบาลเมืองบัคมุต แคว้นโดเนตสก์ ทางภาคตะวันออกของยูเครน ซึ่งในทางกฎหมายต้องถือว่า รัสเซียสามารถยึดเมืองนี้ได้แล้ว และสำทับว่า ศัตรูกำลังรวมตัวกันทางด้านตะวันตกของเมือง
ทว่า ไม่มีสิ่งบ่งชี้จากทางฝั่งยูเครนว่า บัคมุต เมืองที่เคยมีประชากร 70,000 คนก่อนที่รัสเซียจะบุกเมื่อปีที่แล้ว ตกเป็นของมอสโกแล้ว
นอกจากนั้น ปริโกจินยังเคยอวดอ้างทำนองนี้มาก่อนหน้านี้
กองทัพยูเครนรายงานสถานการณ์ล่าสุดในวันจันทร์ (3) ว่า บัคมุตและเมืองใกล้เคียงอื่นๆ ซึ่งรวมถึงอัฟดิอิฟกา กลายเป็นศูนย์กลางการสู้รบในขณะนี้ แต่ยืนยันว่า ทหารยูเครนยังคงปกป้องเมืองเหล่านี้อย่างกล้าหาญ
นอกจากนั้น ระหว่างปราศรัยทางออนไลน์ประจำคืน เมื่อคืนวันอาทิตย์ ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ได้กล่าวขอบคุณทหารในอัฟดิอิฟกา มารีอิงกา และบัคมุต โดยเฉพาะบัคมุตที่เขาระบุว่า มีการต่อสู้ดุเดือดมาก
ก่อนหน้านั้น ฮันนา มาลิอาร์ รัฐมนตรีช่วยกลาโหมยูเครน กล่าวถึงสถานการณ์ในบัคมุตโดยใช้คำว่า “ตึงเครียด” ทว่า กองกำลังยูเครนยังคงปกป้องที่มั่น ขณะที่กองกำลังรัสเซียก็ไม่ต้องการพ่ายแพ้
ในอีกด้านหนึ่ง บอริส กริซลอฟ เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำเบลารุสเผยในวันอาทิตย์ว่า รัสเซียจะเคลื่อนย้ายอาวุธนิวเคลียร์ไปประชิดชายแดนด้านตะวันตกของเบลารุส เพื่อเพิ่มความเป็นไปได้ในการรับประกันความมั่นคง
กริซลอฟ สำทับว่า จะดำเนินการแผนการนี้แม้มีเสียงคัดค้านจากยุโรปและอเมริกาก็ตาม ทั้งนี้ ชายแดนตะวันตกของเบลารุส ติดต่อกับโปแลนด์ ลิทัวเนีย ลัตเวีย ซึ่งล้วนแต่เป็นชาติสมาชิกองค์การนาโต้ จึงเท่ากับเป็นการนำอาวุธนิวเคลียร์ของรัสเซียไปประจันหน้ากับเขตแดนนาโต้นั่นเอง และเพิ่มความเสี่ยงที่มอสโกจะเผชิญหน้ากับตะวันตก
ทั้งนี้ รัสเซียประกาศในเดือนที่แล้วนำเอาอาวุธนิวเคลียร์ทางเทคนิค หรือก็คืออาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธี ไปติดตั้งที่เบลารุส โดยอ้างว่าเป็นการเลียนแบบสหรัฐฯ ซึ่งนำเอาอาวุธนิวเคลียร์ไปประจำการตามประเทศนาโต้ต่างๆ มานานแล้ว
สำหรับความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับฝ่ายตะวันตกนำโดยสหรัฐฯ ในช่วงหลังๆ นี้อีกประเด็นหนึ่ง ได้แก่ การที่รัสเซียจับกุมตัวผู้สื่อข่าวชาวอเมริกันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เรียกร้องให้มอสโกปล่อยตัว อีแวน เกิร์ชโควิช ผู้สื่อข่าวของวอลล์สตรีท เจอร์นัลโดยเร็ว ระหว่างที่เขาหารือทางโทรศัพท์กับเซียร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย แต่โดนตอบกลับว่า วอชิงตันไม่ควรนำเรื่องนี้มาเป็นประเด็นทางการเมือง
ทั้งนี้ เอฟเอสบีซึ่งเป็นหน่วยงานความมั่นคงของรัสเซีย แถลงเมื่อวันพฤหัสฯ (30 มี.ค.) ว่า ได้จับกุมเกิร์ชโควิชภายใต้ข้อกล่าวหาพยายามรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทกลาโหมแห่งหนึ่งของรัสเซียซึ่งถือเป็นความลับของประเทศ
กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียเผยว่า ลาฟรอฟบอกกับบลิงเคนว่า ศาลจะเป็นผู้ตัดสินชะตากรรมของเกิร์ชโควิช และย้ำโดยไม่ได้แสดงหลักฐานว่า นักข่าวผู้นี้ถูกจับได้คาหนังคาเขาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
วอลล์สตรีท เจอร์นัล ยืนยันว่า เกิร์ชโควิชไม่ได้เข้าไปสอดแนม ขณะที่ทำเนียบขาวกล่าวว่า ข้อกล่าวหาสอดแนมที่มีโทษจำคุกสูงสุด 20 ปีของรัสเซียนี้เป็นเรื่องตลก
(ที่มา : รอยเตอร์)