หน่วยงานต่อต้านการก่อการร้ายของรัสเซีย ออกมากล่าวหาหน่วยงานข่าวกรองทางทหารของยูเครนเมื่อวันจันทร์ (3 เม.ย.) อยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดที่สังหารบล็อกเกอร์สายทหารชื่อดังผู้สนับสนุนสงครามในยูเครน อย่างอุกอาจในคาเฟ่กลางเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ซึ่งล่าสุด ตำรวจจับผู้ต้องสงสัยนำของขวัญซุกระเบิดไปมอบให้ผู้ตายได้แล้ว
คณะกรรมการต่อต้านการก่อการร้ายแห่งชาติของรัสเซียแถลงในวันจันทร์ (3) ว่า “การก่อการร้าย” ต่อ วลาเดลน ทาทาร์สกี้ เป็นแผนการของหน่วยพิเศษของยูเครน ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับบุคคลที่ให้ความร่วมมือกับมูลนิธิต่อต้านการทุจริตที่ก่อตั้งโดยอเล็กซี นาวัลนี ฝ่ายค้านรัสเซียที่เวลานี้ถูกจองจำอยู่ พร้อมกันนั้น ตั้งข้อสังเกตว่าผู้ต้องสงสัยที่จับกุมได้เป็นผู้สนับสนุนกลุ่มนาวัลนี
ก่อนหน้านั้นไม่นาน คณะกรรมการสอบสวนของรัสเซีย ซึ่งเป็นหน่วยงานสืบสวนคดีอาชญากรรมระดับสูงสุด รายงานว่า ได้จับกุม ดาร์ยา ทรีโอโปวา หญิงชาวเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก วัย 26 ปี ผู้ต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดครั้งนี้ ที่ก่อนหน้านี้เคยถูกควบคุมตัวฐานมีส่วนร่วมในการเดินขบวนต่อต้านสงครามมาแล้ว
สื่อรัสเซียรายงานว่า ทรีโอโปวาบอกกับเจ้าหน้าที่สอบสวนว่า เธอถูกใช้ให้ไปส่งสิ่งที่กลายเป็นอุปกรณ์ระเบิด โดยเธอไม่รู้ว่ามีระเบิดซุกซ่อนอยู่ภายในรูปปั้นครึ่งตัวซึ่งเธอถูกใช้ให้นำไปมอบเป็นของขวัญแก่ทาทาร์สกี้ บล็อกเกอร์สายทหารชื่อดังที่มีอายุ วัย 40 ปี ในคาเฟ่กลางเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ขณะเขารับหน้าที่เป็นผู้นำการเสวนาเมื่อวันอาทิตย์ (2) ทั้งนี้แรงระเบิดส่งผลให้ทาทาร์สกี้เสียชีวิต และมีผู้บาดเจ็บกว่า 30 คน ซึ่ง 10 คนในจำนวนนี้บาดเจ็บสาหัส
แม้ยังไม่มีฝ่ายใดออกมาอ้างความรับผิดชอบ ทว่า บล็อกเกอร์สายทหารและนักวิจารณ์ชาตินิยมหลายคนฟันธงว่า เป็นฝีมือยูเครนและเปรียบเทียบกับกรณีการลอบสังหาร ดาร์ยา ดูกินา คอมเมนเตเตอร์ทางทีวีที่มีแนวทางชาตินิยม เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ที่เสียชีวิตจากระเบิดที่ซุกซ่อนอยู่ในรถเอสยูวีของเธอและสั่งการด้วยรีโมตคอนโทรล ขณะที่ผู้ตายขับรถอยู่บริเวณชานกรุงมอสโก
เจ้าหน้าที่รัสเซียกล่าวโทษว่า หน่วยข่าวกรองทางทหารของยูเครนอยู่เบื้องหลังการตายของดูกินา ทว่า เคียฟปฏิเสธ
มาเรีย ซาคาโควา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย แถลงว่า สิ่งที่ทาทาร์สกี้ทำนั้น ทำให้เขาเป็นที่เกลียดชังของเคียฟ และตั้งข้อสังเกตว่า ทาทาร์สกี้ และบล็อกเกอร์สายทหารคนอื่นๆ ถูกยูเครนขู่มาตลอด
ซาคาโควาสำทับว่า การที่วอชิงตัน ลอนดอน และปารีสไม่แสดงปฏิกิริยาใดๆ ต่อเหตุการณ์นี้ เป็นการฟ้องอย่างชัดเจนถึงความเสแสร้งของ 3 ประเทศเหล่านี้ที่มักแสดงความกังวลเกี่ยวกับสุขภาวะของนักข่าวและเสรีภาพในการแสดงออก
อย่างไรก็ดี เยฟเกนี ปริโกจิน เศรษฐีรัสเซียที่เป็นเจ้าของบริษัททหารรับจ้าง “วากเนอร์ กรุ๊ป” หัวหอกการโจมตีในภาคตะวันออกของยูเครน มองต่างมุมว่า ไม่คิดว่าเจ้าหน้าที่ยูเครนเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดครั้งนี้ แต่น่าจะเป็นกลุ่มหัวรุนแรงที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเคียฟ
เขายังบอกว่า เคยเป็นเจ้าของร้านกาแฟที่เกิดเหตุแต่ยกให้กลุ่มชาตินิยมกลุ่มหนึ่งไว้จัดการนัดพบ
ทั้งนี้ นับจากรัสเซียบุกยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2022 เจ้าหน้าที่ยูเครนไม่เคยอ้างความรับผิดชอบเหตุไฟไหม้ ระเบิด และการลอบสังหารที่เกิดขึ้นหลายระลอกในรัสเซีย แต่แสดงความยินดีออกนอกหน้ากับเหตุการณ์เหล่านั้นและยืนยันว่า ยูเครนมีสิทธิโจมตีในรัสเซีย
สำหรับเหตุการณ์ล่าสุด มิกไคโล โปโดลยัค ที่ปรึกษาประธานาธิบดียูเครน ทวีตเมื่อคืนวันอาทิตย์ว่า เหตุระเบิดที่สังหารทาทาร์สกี้น่าจะเกิดจากความวุ่นวายภายในรัสเซียเอง
ทาทาร์สกี้ที่รายงานสถานการณ์การสู้รบในยูเครนอย่างสม่ำเสมอ เป็นนามปากกาของแม็กซิม โฟมิน ที่มีผู้ติดตามบนแอปเทเลแกรมกว่า 560,000 คน
เขาเกิดในดอนบาส ฮับอุตสาหกรรมทางตะวันออกของยูเครน เคยทำงานในเหมืองถ่านหินก่อนเริ่มธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ แต่หลังจากประสบปัญหาทางการเงิน เขาตัดสินใจปล้นแบงก์และถูกจำคุก
แต่ภายหลังกลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนที่สนับสนุนรัสเซียเข้ายึดดอนบาสในปี 2014 หรือไม่กี่สัปดาห์หลังจากมอสโกเข้าผนวกคาบสมุทรไครเมียจากยูเครน ทาทาร์สกี้หลบหนีออกมาและเข้าร่วมกลุ่มแบ่งแยกดินแดน และต่อสู้ในแนวหน้าก่อนผันตัวเองเป็นบล็อกเกอร์
(ที่มา : รอยเตอร์, เอเอฟพี)