อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวระหว่างหาเสียงกับบรรดาผู้สนับสนุน ในวันเสาร์ (25 มี.ค.) ว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน กำลังเปลี่ยนสหรัฐฯ "เป็นรัฐกล้วย (ไร้เสถียรภาพทางเศรษฐกิจและการเมือง)" และเป็นชาติด้อยพัฒนา พร้อมสัญญาว่าจะขับไล่ชนชั้นการเมืองอันน่ารังเกียจออกไป หากเขาได้รับเลือกตั้งกลับมาดำรงตำแหน่งอีกสมัยในปีหน้า
ทรัมป์ ซึ่งกำลังเสี่ยงถูกจับกุมตามข้อหาละเมิดกฎหมายการระดมทุนหาเสียง ได้จัดเวทีหาเสียงเป็นครั้งแรก ก่อนหน้าศึกเลือกตั้งปี 2024 ในเมืองวาโค รัฐเทกซัส เมื่อวันเสาร์ (25 มี.ค.) โดยระหว่างกล่าวกับฝูงชนหลายพันคน ทรัมป์ ได้เน้นย้ำความเชื่อที่มีมานานของตนเองว่า ข้อกล่าวหาต่างๆ ที่มีกับตัวเขานั้น ในนั้นรวมถึงในคดีเหตุกลุ่มผู้สนับสนุนของเขาก่อจลาจลบุกอาคารรัฐสภาในเดือนมกราคม 2022 เป็นแผนการที่บงการโดยพรรคเดโมแครต เพื่อกันเขาให้ออกห่างจากเก้าอี้ประธานาธิบดี และเอาผิดทางอาญากับบรรดาผู้สนับสนุนของเขา
"การที่รัฐบาลของไบเดน ใช้การบังคับใช้กฎหมายเป็นอาวุธเล่นงานฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง มันเป็นอะไรบางอย่างที่เหมือนหลุดออกมาจากโชว์อันน่าสยดสยองของโจเซฟ สตาลิน แห่งรัสเซีย" ทรัมป์ ประกาศก้อง พร้อมเรียกประเทศอเมริกาในสมัยของไบเดน ว่าเป็น "สาธารณรัฐกล้วยโลกที่ 3"
"ตั้งแต่เริ่มต้น มันเป็นการล่าแม่มดและสืบสวนอันเป็นเท็จไล่ล่าอีกฝ่าย" ทรัมป์ กล่าวอ้าง พร้อมระบุว่า "มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่รัฐซ้อนรัฐออกมาไล่ล่าผมหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่ที่ผมประกาศจะยุติสงครามในยูเครนอย่างรวดเร็ว"
ทรัมป์ กล่าวอ้างมานานหลายเดือน ว่าหากได้รับเลือกตั้งเขาจะสามารถบรรลุทางออกในความขัดแย้งระหว่างยูเครนกับรัสเซียภายใน 24 ชั่วโมง เขาไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับหนทางที่จะทำให้บรรลุเป้าหมาย แต่เขากล่าวโทษความขัดแย้งไปยัง "พวกกระหายสงครามทั้งมวล" และพวกสากลนิยมที่ซ่องสุมอยู่ตามกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม และเครือข่ายสถาบันความมั่นคงแห่งชาติอื่นๆ รวมถึงรัฐซ้อนรัฐ
"ความยุติธรรมจะเกิดขึ้นเมื่อเราโยนชนชั้นการเมืองที่น่ารังเกียจนี้ออกจากตำแหน่ง" เขาบอกกับฝูงชนในวันเสาร์ (25 มี.ค.)
ทรัมป์ ได้ให้คำสัญญาต่างๆ ระหว่างปราศรัยหาเสียง ประกาศยกระดับกำลังผลิตพลังงานภายในประเทศ ค่อยๆ ลดการนำเข้าจากจีน ยุติการให้เงินทุนทฤษฎีเชื้อชาติเชิงวิพากษ์ (Critical Race Theory) ในสถาบันการศึกษาต่างๆ
CRT หรือทฤษฎีเชื้อชาติเชิงวิพากษ์นี้ได้กลายเป็นประเด็นสำคัญของฝ่ายอนุรักษนิยม โดยหลายๆ รัฐที่ควบคุมโดยพรรครีพับลิกันได้ผ่านกฎหมายที่จำกัดวิธีการสอนเรื่องประวัติศาสตร์และเชื้อชาติในโรงเรียนของรัฐบาล
สำหรับบางคน ทฤษฎีเชื้อชาติเชิงวิพากษ์คือวิธีการทำความเข้าใจว่าเรื่องเชื้อชาติได้มีอิทธิพลต่อสังคมอเมริกันและนโยบายสาธารณะอย่างไรบ้าง แต่สำหรับบางคน ทฤษฎีเชื้อชาติเชิงวิพากษ์คือสิ่งที่สร้างความแตกแยกและความขัดแย้งระหว่างคนผิวขาวกับชนกลุ่มน้อยในประเทศ
นอกจากนี้ ทรัมป์ ยังรับปากใช้ทรัพยากรของแต่ละรัฐ รัฐบาลกลางและทรัพยากรทางทหารในการดำเนินการเนรเทศครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา "ไอเซนฮาวร์ก็เคยทำมัน ดังนั้น เราไม่จำเป็นต้องรู้สึกแย่อะไร" เขาอ้างถึงการขับไล่คนเข้าเมืองผิดกฎหมายมากกว่า 1 ล้านคน ในสมัยรัฐบาลประธานาธิบดี ดไวต์ ดี. ไอเซนฮาวร์ ในช่วงต้นทศวรรษที่ 1950
ปัจจุบัน ผลสำรวจความคิดเห็นหลายสำนัก พบว่า ทรัมป์ มีคะแนนนิยมนำหน้าในศึกชิงเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกัน โดยมีคะแนนนำ รอน เดซานติส ผู้ว่าการรัฐฟลอริดา ที่ตามมาเป็นอันดับ 2 ทั้งนี้แม้ เดซานติส ยังไม่ประกาศลงสมัครอย่างเป็นทางการ แต่ ทรัมป์ ได้ใช้การปราศรัยบางส่วนกล่าวโจมตีว่าที่คู่แข่งของเขา อ้างความดีความชอบต่ออาชีพทางการเมืองของผู้ว่าการรัฐรายนี้ และกล่าวตำหนิเขาต่อกรณีล็อกดาวน์รัฐฟลอริดา ในช่วงต้นๆ ของโรคระบาดใหญ่ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
(ที่มา : อาร์ทีนิวส์)