ฮื่ออ์อ์อ์...ก็ต้องถือว่าเป็นอะไรที่น่าคิด น่าสะกิดใจ มิใช่น้อยสำหรับคำพูด คำจา คำประกาศ ของอดีตผู้นำอเมริกาอย่าง “ทรัมป์บ้า” ที่กำลังจะลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย ในช่วงปีหน้าหรือปี ค.ศ. 2024 ที่กำลังจะมาถึง แถมยังมีคะแนนนิยมทิ้งห่างคู่แข่งระดับ “ดาวรุ่ง-พุ่งแรง” อย่าง “นายรอน ดีแซนทิส” (Ron DeSantis) ผู้ว่าการรัฐฟลอริดา ที่คิดจะอาสาเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันในการชิงตำแหน่งดังกล่าว กว่าครึ่งต่อครึ่ง หรือระดับ 62 เปอร์เซ็นต์ต่อ 20 เปอร์เซ็นต์ถึงขั้นนั้น!!!
คือคำประกาศเมื่อวันอังคาร (7 มี.ค.) ที่ผ่านมา ไงล่ะทั่นที่ระบุไว้แบบเสียงดัง-ฟังชัด ยืนหยัด-ยืนยันแบบเต็มปาก-เต็มคำว่าถ้าหากบรรดาอเมริกันชนทั้งหลายตัดสินใจเลือกอันตัวข้าพเจ้าเองขึ้นเป็นประธานาธิบดีอเมริกาอีกสมัย รับรองว่า “สงครามโลกครั้งที่ 3” จะไม่เกิดขึ้นโดยแน่นอน!!! แถมยังแสดงความมั่นอก-มั่นใจว่า “สงครามตัวแทน” ระหว่างรัสเซียกับยูเครน หรือรัสเซียกับอเมริกาและนาโตก็ตามที ที่ลากยาวว์ว์ว์มาเป็นปีๆ จนทำท่าว่าอาจกลายเป็นตัวจุดชนวนสงครามโลกไปจนถึง “สงครามนิวเคลียร์” เอาเลยก็เป็นได้ จะจบสิ้นลงไปในเวลาแค่วันเดียว หรือขอเวลาแค่ 24 ชั่วโมงไม่เกินไปกว่านั้นนี่...ฟังแล้ว น่าคิด น่าสะกิดใจ น่าสนอก-สนใจ มิใช่น้อย เพราะคงไม่ใช่แค่ราคาโม้ ราคาคุย แบบประเภท “สมรักษ์ คำสิงห์” มากมายสักเท่าไหร่ คือแค่รัฐบาลอเมริกันไม่คิดจะควักเม็ดเงินภาษีของปวงชนนับเป็นแสนๆ ล้านดอลลาร์ ไม่คิดจะส่งจรวด รถถัง ไปจนถึงเครื่องบินโจมตี ฯลฯ ไปให้ชาวสลาฟฝ่ายยูเครนลงมือเข่นฆ่ากับชาวสลาฟฝ่ายรัสเซีย จนแทบไม่หลงเหลือ “ชาวยูเครนคนสุดท้าย” ไปแล้วในทุกวันนี้ โอกาสที่ทุกสิ่งทุกอย่างจะเป็นไปในแบบ “ม้วนเดียวจบ” หรือโอกาสที่ทั้งสองฝ่ายจะหันมานั่งเจ๊าะๆ แจ๊ะๆ กันใน “โต๊ะเจรจา” ย่อมมีความเป็นไปได้สูงอยู่แล้วแน่ๆ...
เรียกว่า...ไม่ว่า “ทรัมป์บ้า” ท่านจะออกอาการ “บ้า...ก็...บ้าวะ” ไปถึงขั้นไหนต่อขั้นไหน หรือไม่ว่าพรรครีพับลิกันออกจะหนักไปทาง “อนุรักษนิยม” มาก-น้อยเพียงใด แต่คงต้องยอมรับอย่างมิอาจปฏิเสธได้ว่า ยังไม่ถึงกับ “บ้า...สงคราม” อย่างบรรดาพวกฝ่ายก้าวหน้า พวกเสรีนิยม ในพรรคเดโมแครต ที่ค่อนข้างกระเหี้ยนกระหือรือมาโดยตลอด ไม่ว่าตั้งแต่รุ่นคุณป้ามหาภัย “นางฮิลลารี คลินตัน” จนถึงรุ่นคุณปู่ “โจ ไบเดน” ที่ไม่คิดจะสนใจเอาเลยแม้แต่น้อย ว่าชีวิตมนุษย์ไม่ว่าชาวยูเครนหรือชาวรัสเซีย ตายโหง ตายห่า ไปแล้วกี่หมื่น-กี่แสนราย ผู้คนต้องอพยพออกจากประเทศตัวเองนับเป็นล้านๆ แต่ยังเพียรพยายาม “ยกระดับสถานการณ์” ยกระดับความรุนแรงจนใกล้ๆ จะถึงจุด “สงครามครั้งโลกที่ 3” ไปจน “สงครามนิวเคลียร์” อย่างมิคิดรู้ร้อน-รู้หนาวเอาเลยแม้แต่น้อย หรือใกล้จะถึงจุดที่รัฐมนตรีต่างประเทศจีนรายใหม่ “นายฉิน กัง” (Qin Gang) ท่านใช้คำว่าใกล้จะถึงจุดที่ “ควบคุมไม่ได้” อีกต่อไปแล้ว...
ด้วยเหตุนี้...แม้ว่ารัฐมนตรีต่างประเทศจีนท่านออกจะ “งงง์ง์ง์ๆ” มิใช่น้อย ว่าเหตุใดเมื่ออเมริกาพยายามแสดงถึงการ “เคารพอำนาจอธิปไตย” ของยูเครน ด้วยการจัดส่งอาวุธร้ายๆ ไปให้กองทัพยูเครนต่อสู้กับผู้รุกรานแบบถึงไหนก็ถึงกัน แต่ขณะที่ตัวเองยืนยันในคำมั่น-สัญญาว่าพร้อมจะ “เคารพอำนาจอธิปไตย” ของจีน แล้วเหตุใด??? ถึงยังเพียรพยายามส่งอาวุธไปให้กับไต้หวันที่ถือเป็นส่วนหนึ่งของจีนแถมยังส่งเสียงขู่ คำราม ห้ามมิให้จีนส่งอาวุธใดๆ ไปให้พันธมิตรทางยุทธศาสตร์อย่างรัสเซียโดยเด็ดขาด!!! แต่ก็นั่นแหละ...แม้จะ “งงง์ง์ง์ๆ” กับ “มาตรฐานอเมริกันสแตนดาร์ด” ที่ชักออกไปทางส้วมซึม ส้วมชักโครกหนักขึ้นเรื่อยๆ ท่านก็ยังพอมีแก่ใจ ยังพอตระหนักและสำนึกถึงความฉิบหายวายวอดที่กำลังจะเกิดขึ้นกับโลกทั้งโลก จนต้องออกมาเรียกร้องให้ “ทุกๆ ฝ่าย” หยุดยั้งการเติมเชื้อ เติมไฟ หยุดยั้งความเป็นปรปักษ์ หันมาฟื้นฟูบรรยากาศสันติภาพ เดินหน้าสู่การหาทางออกทางการเมืองด้วยการทำใจให้ร่มๆเข้าไว้ เพิ่มความมีเหตุ-มีผลและ “หาทางเจรจา...ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้” ฯลฯ...
แต่ก็นั่นแหละ...ด้วยเหตุที่ผู้นำอเมริกายุคนี้ ดันเป็น “โจ ไบเดน” ไม่ใช่ “ทรัมป์บ้า” ด้วยเหตุผล-กลใดก็แล้วแต่ แนวโน้มที่ “สงครามยูเครน” หรือแม้แต่ “สงครามไต้หวัน” ในอีกไม่นาน-ไม่ช้า มันอาจต้องกลายเป็น “สงครามโลกครั้งที่ 3” หรือกระทั่ง “สงครามนิวเคลียร์” จนได้!!! จึงยิ่งมีโอกาสเป็นไปได้สูงยิ่งเข้าไปทุกที ยิ่งภายใต้ลักษณะอาการแบบ “เอ๋อไป-เอ๋อมา” ชนิดแทบไม่รู้ตัวเองว่าเป็นใคร? เป็นอะไร? ของคุณปู่ “โจ ไบเดน” ประเภท...จู่ๆ ดันไปเชคแฮนด์ จับมือกับใครก็ไม่รู้กลางอากาศ เดินขึ้น-เดินลงบนเวทีแบบไม่รู้เหนือ-รู้ใต้ พืดผิด-พืดถืก (พูดผิด-พูดถูก) คราวแล้ว คราวเล่า ฯลฯ ฯลฯ ฯลฯ อะไรต่อมิอะไรเหล่านี้...มันเลยยิ่งเพิ่ม “อันตราย” หรือเพิ่ม “อัตราเสี่ยง” ให้กับการคิด การตัดสินใจ ของผู้ที่ยังคิดดำรงฐานะ ตำแหน่ง “ประมุขโลก” ต่อไปให้จงได้ ยิ่งคิดลากยาว ลากต่อ เป็นประธานาธิบดีอเมริกันอีกสักยก อีกสักสมัย ทั้งๆ ที่ปีนี้อายุก็ปาเข้าไป 80 ปีหย่อนๆ เข้าไปแล้วโอกาสที่จะกดปุ่มผิดๆ-ถูกๆ ดันหันไปกด “ปุ่มนิวเคลียร์” ก็ใช่ว่าจะไม่มีเอาเสียเลย!!!
และอาจด้วยเหตุนี้นี่เอง...ที่ทำให้ผู้คิดลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอเมริกันสมัยหน้า อย่าง “นางนิกกี ฮาเลย์” (Nikki Haley) อดีตตัวแทนทูตถาวรอเมริกันประจำยูเอ็น เธอเลยฉวยโอกาสเสนอให้ตรวจสอบ “ขีดความสามารถทางอารมณ์” หรือ “Mental competency test” ต่อบรรดาผู้คิดจะสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุ-อานามระดับ 76 ปีขึ้นไป อันถือเป็นการ “เตะตัดขา” ทั้งคุณปู่ “โจ ไบเดน” (80 ปี) และ “ทรัมป์บ้า” (76 ปี) เอาไว้ก่อนล่วงหน้า แต่อย่างว่า...เรื่องทำนองนี้มันคงไม่ได้เกี่ยวกับแค่เฉพาะอายุ-อานามแต่เพียงเท่านั้น เพราะตัวคุณ “ฮาเลย์” เองแม้จะอายุแค่ 50 กว่าๆ แต่เธอก็ออกจะ “บ้า...ก็...บ้าวะ” ชนิดเอาเรื่องทีเดียว โดยเฉพาะต่อการพิทักษ์ ปกป้อง “พันธมิตรอันศักดิ์สิทธิ์” ของอเมริกาอย่างประเทศอิสราเอล เป็นต้น ที่ก็อาจส่งผลให้เกิดการ “จุดชนวน” สงครามโลกและสงครามนิวเคลียร์ขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ย่อมได้...
หรือสรุปง่ายๆ ว่า...ด้วยเหตุผลทาง “ภูมิรัฐศาสตร์” ความพยายามช่วงชิงความได้เปรียบ-เสียเปรียบระหว่างบรรดาประเทศ “มหาอำนาจ” ทั้งหลายนั่นเอง ที่ทำให้ประเทศอภิมหาอำนาจสูงสุดอย่าง “จักรวรรดิอเมริกา” เลยต้องตกอยู่ในสภาพที่พวกนักสังเกตการณ์ระหว่างประเทศเขาเรียกว่า “กับดักทูซิดิดีส” (Thucydides Trap) อะไรประมาณนั้น หรือแบบที่นักคิด นักประวัติศาสตร์ชาวกรีก เมื่อหลายพันปีที่แล้ว เคยสรุปเอาไว้ประมาณว่า คือความพยายามของจักรวรรดิใดจักรวรรดิหนึ่งที่กำลังเสื่อมโทรม ที่จะต้องหาทางเล่นงาน หรือต้องทำสงครามกับจักรวรรดิที่กำลังอุบัติขึ้นมาใหม่อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้ ความบ้าสงคราม กระหายสงคราม ของจักรวรรดิอเมริกา จึงเป็นไปโดยไร้เหตุ-ไร้ผล ไร้ความตระหนัก-สำนึก ไร้มาตรฐาน หรือกระทั่ง “ไร้ความรับผิดชอบ” อย่างเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้นไปทุกขณะ ต่างไปจากที่อดีตผู้นำอเมริกา ประธานาธิบดี “แฮรี่ เอส ทรูแมน” เคยพูดเอาไว้แบบเก๋ๆ ไก๋ๆ ว่า...“The responsibility of the great states is to serve not to dominate the world.” หรือ “ความรับผิดชอบของมหาประเทศ...คือการรับใช้โลกไม่ใช่การครองโลก” แบบคนละเรื่อง คนละม้วน...
เรียกว่า...ขนาดที่ไม่ว่าตัวเองหรือพันธมิตร ต่างก็ “กรอบเป็นข้าวเกรียบ” ไปด้วยกันทั้งสิ้น เอาแค่เฉพาะ “อาวุธ” ที่จะส่งไปสู้กับรัสเซียในสมรภูมิยูเครนแต่เพียงเท่านั้น ก็แทบเจ๊งกะบ๊ง!!! แทบไม่เหลือ “ติดคลัง” ของแต่ละประเทศไปแล้วก็ว่าได้ อย่างเยอรมนีที่รัฐมนตรีกลาโหม “นายBoris Pistorius” ต้องออกมาโหยหวน ครวญคราง เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ว่าแค่อาวุธที่จะเอาไว้ป้องกันประเทศก็แทบไม่เหลือพอที่จะก่อให้เกิดขีดความสามารถในการปกป้องตัวเองไม่ต่างไปจากสุนัขพูเดิลอังกฤษ ที่ทั้งยุ ทั้งเชียร์ ให้ตัวตลกยูเครน สะบัดตูด สะบัดทวารออกจากการเจรจาสันติภาพกับรัสเซีย ล่าสุดเห็นว่า...คณะกรรมาธิการป้องกันประเทศ เพิ่งออกเอกสาร-รายงานสรุปว่า ปริมาณอาวุธในคลังของอังกฤษร่อยหรอจนถึงระดับที่ก่อให้เกิด “ความเสี่ยง” ต่อการป้องกันตัวเองไปแล้วถึงขั้นนั้น ไม่ต่างไปจากอเมริกาที่ผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธ “นายDavid T. Pyne” ได้เคยสรุปไว้เมื่อเร็วๆ นี้ ว่าคลังอาวุธอเมริกาลดลงไปกว่าครึ่งในรอบศตวรรษที่ผ่านมา ฯลฯ...
นั่นยังไม่รวมไปถึงความ “กรอบ” ในด้านเศรษฐกิจ สังคม ด้านเงินๆ-ทองๆ ที่ต่างต้องเจอกับภาวะเงินเฟ้อ เศรษฐกิจถดถอย เกิดการล้มละลายในทางธุรกิจ การขาดแคลนพลังงาน ไปจนกระทั่งการอดมื้อ-กินมื้อของผู้คนพลเมือง ถึงขั้นต้องมีการเสนอให้ “งดอาหารมื้อเช้า” ไปแล้วในบางประเทศ ขณะที่ฝ่ายตรงข้ามอย่างรัสเซียยังพอมีโอกาสขายน้ำมัน-ขายแก๊ส ให้กับประเทศเศรษฐกิจอันดับสอง อันดับสาม อย่างจีน อย่างอินตะระเดีย ได้แบบระเบิดเถิดเทิง จนน่าจะ “ยืนระยะ” ไปได้จนกว่าจะถึงช่วงเวลาแห่งการเลือกตั้งประธานาธิบดีอเมริกาในปีหน้าเอาเลยก็เป็นได้ ด้วยเหตุนี้...ถึงแม้คุณปู่ “โจ ไบเดน” ท่านจะ “เอ๋อ” จะ “บ้า...สงคราม” ไปถึงขั้นไหนต่อขั้นไหน แต่ถ้าหากบรรดาอเมริกันชนคิดหวนกลับไปสู่ความ “บ้า...ก็บ้าวะ” แค่ในระดับ “ทรัมป์บ้า” อีกสักครั้ง โอกาสที่ทุกสิ่งทุกอย่างจะจบลงโดยสันติ แบบไม่ถึงขั้นต้องตายโหง-ตายห่า กันไปทั้งโลก ย่อมมีความเป็นไปได้ไม่มาก-ก็น้อย...นั่นแล...