รัสเซีย จีน และอิหร่านจัดการซ้อมรบทางทะเลเป็นเวลา 5 วัน เพื่อหาทางยกระดับความมั่นคงทางทะเล จากคำแถลงของกระทรวงกลาโหมปักกิ่งในวันพุธ (15 มี.ค.) ความเคลื่อนไหวที่เมินเสียงกังวลของวอชิงตันต่อการซ้อมรบร่วมระหว่างประเทศไหนๆ กับรัสเซีย ท่ามกลางปฏิบัติการทางทหารของมอสโกในยูเครน
กระทรวงกลาโหมของจีนระบุว่า การซ้อมรบ 3 ชาติ "Security Bond-2023" ในอ่าวโอมาน จะมีขึ้นตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม ถึง 19 มีนาคม และมีอีกหลายชาติเข้าร่วม แต่ไม่เจาะจงว่ามีประเทศใดบ้าง
"การซ้อมรบนี้จะช่วยยกระดับความร่วมมือในทางปฏิบัติระหว่างกองทัพเรือของบรรดาประเทศที่เข้าร่วม แสดงออกเพิ่มเติมถึงความมุ่งมุ่นและศักยภาพในการร่วมกันธำรงไว้ซึ่งความมั่นคงทางทะเล" กระทรวงกลาโหมของจีนระบุ พร้อมบอกต่อว่า การซ้อมรบนี้จะฉีดพลังงานทางบวกเข้าสู่สันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค
หนานหนิง เรือพิฆาตขีปนาวุธนำวิถีจะเข้าร่วมการซ้อมรบด้วย กระทรวงกลาโหมระบุ และบอกว่า "Security Bond-2023" จะเป็นการสานต่อการซ้อมต่างๆ ที่จัดขึ้นโดยจีน รัสเซีย และอิหร่าน ในช่วงปี 2019 และ 2022
ในช่วงปลายปี 2019 ทั้ง 3 ชาติได้มีการซ้อมรบร่วมในมหาสมุทรอินเดียและทะเลอาหรับ โดยโฆษกกองทัพอิหร่าน กล่าวในตอนนั้นว่ามันมีเป้าหมายคือต่อต้านก่อการร้ายและโจรสลัด จากนั้นใน 2022 การซ้อมรบ Security Bond ได้มีขึ้นบริเวณทางเหนือของมหาสมุทรอินเดีย และมีกองกำลังพิทักษ์การปฏิบัติของอิหร่านเข้าร่วมด้วย
ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ เซียร์เก ชอยกู รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย เผยว่าความร่วมมือระหว่างมอสโกและปักกิ่ง "แตะระดับใหม่หมด" ความเป็นพันธมิตรระหว่างทั้ง 2 ชาติ ทำหน้าที่ในฐานะหนึ่งในเครื่องป้องปรามหลักสกัดความเคลื่อนไหวก้าวร้าวใดๆ ของสหรัฐฯ และบริวารของพวกเขาในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก
ในเดือนกุมภาพันธ์ จีนเพิ่งทำการซ้อมรบทางทะเล อีกการซ้อมรบกับรัสเซียและแอฟริกาใต้ไปหมาดๆ ในขณะที่แอฟริกาใต้ เรียกมันว่าเป็นหนทางของการยกระดับความร่วมมือระหว่าง 3 ชาติ แต่สื่อตะวันตกตราหน้าว่ามันเป็นความเคลื่อนไหวที่เป็นที่ถกเถียง ในแง่ที่มันเกิดขึ้นท่ามกลางความขัดแย้งในยูเครน
เสียงโวยวายจากสื่อตะวันตก สอดคล้องกับความเห็นของ คารีน ฌอง ปิแอร์ โฆษกทำเนียบขาว ที่เคยเน้นย้ำเมื่อเดือนมกราคม ว่าวอชิงตัน "มีความกังวลต่อกรณีประเทศอื่นใดร่วมซ้อมรบกับรัสเซีย ในขณะที่มอสโกยังเดินหน้าปฏิบัติการทางทหารในยูเครน"
(ที่มา : อาร์ทีนิวส์)