ไบเดนนำทีมนาโต้เสริมเกราะให้ยุโรป จีน-รัสเซียย้ำไม่หวั่นภัยจากมือที่สาม

เอเอฟพี - ไบเดนนำทีมพันธมิตรตะวันตกประกาศเสริมการปกป้องจากบอลติกถึงทะเลดำ ขณะที่หวัง อี้ ประกาศว่า จีนและรัสเซียจะไม่ยอมแพ้ต่อการคุกคามและกดดันจากบุคคลที่สาม ปักกิ่งยังยินดีกระชับความร่วมมือทางยุทธศาสตร์และความไว้วางใจทางการเมืองกับมอสโก รวมทั้งจะยึดมั่นในจุดยืนที่เป็นกลางและเป็นธรรม รับบทบาทที่สร้างสรรค์ในการแก้ไขวิกฤตผ่านแนวทางทางการเมือง

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ร่วมประชุมกับเจนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) และผู้นำยุโรปตะวันออก ได้แก่ บัลแกเรีย สาธารณรัฐเช็ก เอสโตเนีย ฮังการี แลตเวีย ลิทัวเนีย โปแลนด์ โรมาเนีย และสโลวะเกีย เมื่อวันพุธ (22 ก.พ.) เพื่อร่วมกันสนับสนุนยูเครนในสงครามที่ดำเนินมาใกล้ครบ 1 ปีเต็ม ท่ามกลางความกังวลว่า ความขัดแย้งอาจลุกลามถึงยุโรปตะวันออก

ในแถลงการณ์ภายหลังการประชุม เหล่าผู้นำประกาศเพิ่มการเสริมการป้องปรามและป้องกันยุโรปตะวันออกทั้งหมด ตั้งแต่บอลติกจนถึงทะเลดำ

สโตลเทนเบิร์กเร่งเร้าให้พันธมิตรเพิ่มการสนับสนุนยูเครน โดยบอกว่า ตะวันตกไม่สามารถปล่อยให้รัสเซียบ่อนทำลายความมั่นคงของยุโรปต่อไป

สมัชชาใหญ่สหประชาชาติ (ยูเอ็น) ประชุมในวันพุธเช่นเดียวกัน ซึ่งเคียฟ และพันธมิตรหวังว่า จะรวบรวมการสนับสนุนได้เพิ่มขึ้นสำหรับญัตติเรียกร้อง “สันติภาพที่เที่ยงธรรมและยั่งยืน”

ที่มอสโก ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ร่วมการชุมนุมของเหล่าผู้รักชาติโดยประกาศต่อฝูงชนนับหมื่นว่า รัสเซียกำลังต่อสู้เพื่อ “ดินแดนในประวัติศาสตร์และประชาชนของเรา”

ก่อนหน้านั้น ปูตินหารือกับหวัง อี้ นักการทูตระดับสูงของจีนที่เดินทางเยือนมอสโกหลังจากวอชิงตันและนาโต้แสดงความกังวลว่า ปักกิ่งอาจกำลังเตรียมการสนับสนุนอาวุธให้รัสเซีย

หวังกล่าวว่า จีนและรัสเซียจะไม่ยอมแพ้ต่อการคุกคามและกดดันจากบุคคลที่สาม

ข้อความนี้ออกมาหลังจากสำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานโดยอ้างคำพูดของหวังว่า จีนยินดีกระชับความร่วมมือทางยุทธศาสตร์และความไว้วางใจทางการเมืองกับรัสเซีย และจะยึดมั่นในจุดยืนที่เป็นกลางและเป็นธรรม รวมทั้งรับบทบาทที่สร้างสรรค์ในการแก้ไขวิกฤตผ่านแนวทางทางการเมือง

เมื่อวันอังคาร (21 ก.พ.) ปูตินประกาศระงับการเข้าร่วมสนธิสัญญาลดอาวุธนิวเคลียร์ “นิวสตาร์ท” และให้สัญญาเดินหน้าทำสงครามในยูเครนระหว่างการแถลงนโยบายประจำปี

ที่วอร์ซอ ไบเดนกล่าวว่า การตัดสินใจดังกล่าวของปูตินเป็นความผิดพลาดใหญ่หลวง

ต่อมาในวันพุธ สมาชิกรัฐสภารัสเซียอนุมัติการระงับสนธิสัญญานิวสตาร์ท ซึ่งเป็นสนธิสัญญาควบคุมอาวุธนิวเคลียร์ฉบับสุดท้ายระหว่าง 2 มหาอำนาจนิวเคลียร์

นานาชาติต่างประณามการประกาศระงับสนธิสัญญานิวสตาร์ทของปูติน แม้ในเวลาต่อมา กระทรวงต่างประเทศรัสเซียจะออกแถลงการณ์ระบุว่า มอสโกจะยังปฏิบัติตามข้อจำกัดของสนธิสัญญาด้วยแนวทางที่มีความรับผิดชอบก็ตาม

ปักกิ่งนั้นพยายามวางตัวเป็นกลางในสงครามยูเครน ควบคู่กับคงความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับรัสเซียซึ่งเป็นพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์

จีนกล่าวว่า กังวลอย่างลึกซึ้ง และเสริมว่า ความขัดแย้งกำลังลุกลามและอาจเกินการควบคุม

ทั้งนี้ มอสโกเป็นจุดหมายปลายทางสุดท้ายในการเยือนยุโรปของหวัง ซึ่งระหว่างนั้นเขาได้พบดมิโทร คูเลบา รัฐมนตรีต่างประเทศของยูเครนด้วย

ด้านมอสโกเปิดเผยเมื่อวันพุธว่า ปักกิ่งเสนอมุมมองเกี่ยวกับสาเหตุหลักของวิกฤตในยูเครนตลอดจนถึงแนวทางในการไกล่เกลี่ยทางการเมือง แต่ไม่มีการหารือเรื่องแผนสันติภาพแยกต่างหาก

ในช่วงต้นของการหารือกับหวังนั้น ปูตินกล่าวว่า การร่วมมือระหว่างรัสเซียกับจีนมีความสำคัญมากในการทำให้สถานการณ์ระหว่างประเทศมีเสถียรภาพ

ตอนที่เริ่มปฏิบัติการรุกรานยูเครนนั้น เครมลินคาดหวังว่า จะชนะอย่างรวดเร็วทำให้ยูเครนยอมจำนนและแต่งตั้งรัฐบาลโปรรัสเซีย แต่กลับกลายเป็นว่า รัสเซียถูกบีบให้ล่าถอย แต่ยังคงส่งโดรนและขีปนาวุธโจมตีทั่วยูเครน ทำให้ทหารและพลเรือนล้มตายจำนวนมาก

แหล่งข่าวหลายคนในตะวันตกประเมินว่า แต่ละฝ่ายมีผู้เสียชีวิตราว 150,000 คน

ความพยายามในการเข้ายึดเมืองบัคมุตของมอสโกยังตีแผ่ความตึงเครียดระหว่างกองทัพรัสเซียกับบริษัททหารรับจ้าง วากเนอร์ กรุ๊ป

เมื่อวันพุธ เยฟเกนี พริโกซิน ประธานวากเนอร์ เรียกร้องให้รัสเซียทำการกดดันกองทัพให้แบ่งปันกระสุนให้นักรบของวากเนอร์ในยูเครน

พรีโกซิน วัย 66 ปี ที่เป็นพันธมิตรของปูติน พัวพันกับการแย่งชิงอำนาจกับกระทรวงกลาโหมรัสเซียมานานหลายเดือน ขณะที่ทหารรับจ้างของวากเนอร์เป็นหัวหอกโจมตีเมืองต่างๆ ทางตะวันออกของยูเครน

ความตึงเครียดที่สะสมมานานถึงจุดระเบิดเมื่อไม่กี่วันก่อน โดยทางพริโกซิน กล่าวหามอสโกว่าไม่ยอมสนับสนุนอาวุธให้กองกำลังของวากเนอร์ ขณะที่กระทรวงกลาโหมรัสเซียประณามว่า ข่าวรัสเซียขาดแคลนกระสุนเป็นข่าวปลอม