หวังอี้ยันสัมพันธ์ปักกิ่ง-มอสโกมั่นคง กระชับความร่วมมือต่อต้านตะวันตก

รอยเตอร์ - หวัง อี้ ยันความสัมพันธ์ปักกิ่ง-มอสโกมั่นคงดั่งหินผา และจะยืนหยัดฝ่าฟันการทดสอบของสถานการณ์ระหว่างประเทศที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ขณะที่ปาทรูเชฟ หนึ่งในพันธมิตรใกล้ชิดที่สุดของปูติน ขานรับว่า ท่ามกลางความพยายามควบคุมจากตะวันตก รัสเซีย-จีนควรกระชับความร่วมมือและการปฏิสัมพันธ์แน่นแฟ้นขึ้น

การเป็นพันธมิตร “ไร้ขีดจำกัด” ของจีนกับรัสเซียถูกตะวันตกจับตาอย่างใกล้ชิดหลังจากอเมริกาแสดงความกังวลว่า ปักกิ่งอาจกำลังพิจารณาจัดส่งอาวุธให้มอสโกทำสงครามในยูเครนซึ่งกำลังจะครบรอบ 1 ปีในวันศุกร์นี้ (24 ก.พ.)

ในการประชุมที่มอสโกเมื่อวันอังคาร (21 ก.พ.) หวัง อี้ นักการทูตระดับสูงของจีน กล่าวกับนิโคไล ปาทรูเชฟ เลขาธิการสภาความมั่นคงอันทรงอิทธิพลของรัสเซียว่า จีนต้องการหารือเพิ่มเติมเกี่ยวกับความมั่นคง

หวังเสริมว่า ความสัมพันธ์จีน-รัสเซียอยู่ในรูปแบบที่มีความเคารพกันและกัน มั่นคง และจะยืนหยัดฝ่าฟันการทดสอบของสถานการณ์ระหว่างประเทศที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และยังบอกอีกว่า รัสเซียและจีนควรร่วมมือกันในขั้นตอนใหม่ๆ เพื่อรับประกันความมั่นคงของทั้ง 2 ประเทศ แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ

ด้านปาทรูเชฟ ที่ใกล้ชิดกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน บอกกับหวังว่า ปักกิ่งคือลำดับความสำคัญสูงสุดสำหรับนโยบายต่างประเทศของรัสเซีย และว่า 2 ประเทศต้องร่วมมือกันเหนียวแน่นเพื่อรับมือตะวันตก

สำนักข่าวอาร์ไอเอของทางการรัสเซียรายงานโดยอ้างคำกล่าวของปาทรูเชฟที่บอกว่า ในบริบทที่ตะวันตกพยายามควบคุมรัสเซียและจีน การร่วมมือและปฏิสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งขึ้นในเวทีโลกระหว่างรัสเซียกับจีนมีความสำคัญอย่างยิ่ง ปาทรูเชฟสำทับว่า รัสเซียยังคงให้การสนับสนุนปักกิ่งในประเด็นไต้หวัน ซินเจียง ทิเบต และฮ่องกง

หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์รัล รายงานเมื่อวันอังคารโดยอ้างแหล่งข่าววงในที่เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กำลังเตรียมการเยือนมอสโกเพื่อประชุมสุดยอดกับปูตินในเร็วๆ นี้ โดยการเตรียมการสำหรับการเดินทางยังอยู่ในขั้นต้น และยังไม่ได้สรุปกำหนดเวลาที่แน่นอน

สื่อใหญ่ของอเมริการายนี้คาดว่า สีอาจเยือนมอสโกเดือนเมษายนหรือต้นเดือนพฤษภาคมที่รัสเซียจะมีการเฉลิมฉลองชัยชนะเหนือเยอรมนีในสงครามโลกครั้งที่สอง

ทั้งนี้ การรุกรานยูเครนของรัสเซียนำไปสู่ความขัดแย้งนองเลือดที่สุดในยุโรปนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง และการเผชิญหน้าครั้งใหญ่ที่สุดระหว่างมอสโกกับตะวันตกนับตั้งแต่วิกฤตขีปนาวุธคิวบาปี 1962

สงครามยูเครนเริ่มต้นขึ้นไม่กี่สัปดาห์หลังจากที่ปูติน และสีประกาศการเป็นพันธมิตร “ไร้ขีดจำกัด” สีนั้นยืนหยัดเคียงข้างปูติน โดยเพิกเฉยต่อการกดดันของตะวันตกให้โดดเดี่ยวรัสเซีย มิหนำซ้ำการค้ารัสเซีย-จีนยังบานสะพรั่งมากขึ้นนับจากมอสโกยกทัพบุกยูเครน และรัสเซียขายน้ำมันล็อตใหญ่ให้มหาอำนาจเอเชียหลายชาติซึ่งรวมถึงจีน

ปูติน และสียังมีวิสัยทัศน์ตรงกันว่า ตะวันตกกำลังถึงจุดเสื่อม ขณะที่จีนท้าทายความยิ่งใหญ่ของอเมริกาในทุกด้านตั้งแต่เทคโนโลยีจนถึงการสอดแนม และแสนยานุภาพทางการทหาร

ด้านอเมริกามองจีนและรัสเซียเป็น 2 ประเทศที่เป็นภัยคุกคามใหญ่หลวงที่สุดด้านความมั่นคง วอชิงตันยังระบุว่า ปักกิ่งเป็นคู่แข่งเชิงกลยุทธ์ระยะยาวที่ร้ายกาจที่สุด ส่วนมอสโกเป็นภัยคุกคามเฉียบพลัน

ทั้งนี้ หวังมีกำหนดพบกับเซียร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียในวันพุธ อันเป็นส่วนหนึ่งของแผนการเยือนมอสโกครั้งนี้