จอห์น ฮอว์ลีย์ วุฒิสภาสหรัฐฯ จากรีพับลิกัน เมื่อวันอังคาร (24 ม.ค.) เปิดเผยว่า เขาจะนำเสนอร่างกฎหมายฉบับหนึ่ง ซึ่งจะแบนแอปพลิเคชันวิดีโอสั้น TikTok จากการใช้งานในสหรัฐฯ กล่าวหาเป็นภัยความมั่นคงและส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตของเด็กๆ
ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นในขณะที่ TikTok ซึ่งบริษัทแม่ได้แก่ ไบต์แดนซ์ บริษัทสัญชาติจีน อยู่ภายใต้มาตรการแบนอยู่ก่อนแล้ว ซึ่งห้ามเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางใช้ หรือดาวน์โหลด TikTok บนอุปกรณ์ที่เป็นของรัฐ
"TikTok คือประตูหลังของจีน ในการเข้าสู่วิถีชีวิตอเมริกันชน มันคุกคามความเป็นส่วนตัวเด็กๆ ของเรา เช่นเดียวกับสุขภาพจิตของพวกเขา" เขาเขียนบนทวิตเตอร์ "เวลานี้ ผมจะเสนอร่างกฎหมายห้ามใช้มันทั่วประเทศ" เขากล่าว อย่างไรก็ตาม ฮอว์ลีย์ ไม่ได้ระบุว่าเขาจะนำเสนอร่างกฎหมายดังกล่าวเมื่อไหร่
ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงกลางเดือนมกราคม เคนทักกี เข้าร่วมกับอีกกว่า 20 รัฐทั่วสหรัฐฯ ที่ประกาศห้ามใช้แอปพลิเคชันวิดีโอสั้น TikTok บนอุปกรณ์ของทางการ โดยอ้างถึงความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยทางไซเบอร์
รัฐแห่งนี้เปิดเผยว่าได้ทำการอัปเดตหนังสือคู่มือเจ้าหน้าที่รัฐ สำหรับห้ามเจ้าหน้าที่ของรัฐ ใช้อุปกรณ์ต่างๆ ของทางราชการ เข้าถึงแอปพลิเคชันนี้ที่มีจีนเป็นเจ้าของ ยกเว้นแต่จุดประสงค์ด้านการบังคับใช้กฎหมาย หลังจากก่อนหน้านั้นไม่กี่วัน ผู้ว่าการรัฐวิสคอนซินและนอร์ทแคโรไลนา ได้ลงนามในคำสั่งแบนใช้ TikTok บนอุปกรณ์ของทางการเช่นกัน เช่นเดียวกับรัฐโอไฮโอ นิวเจอร์ซีย์ และอาร์คันซอ
นอกจากนี้ บางรัฐยังเล็งเป้าเล่นงานมากกว่า TikTok ยกตัวอย่าง นิวเจอร์ซีย์ และวิสคอนซิน ที่แบนผู้ขาย ผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ จากบริษัทจีนอื่นๆ เช่นกัน ในนั้นรวมถึงหัวเว่ย เทคโนโลยีส์ ฮิควิชั่น เทนเซ็นต์ เจ้าของ WeChat แซดทีอี คอร์ปอเรชัน เช่นเดียวกับแคสเปอร์สกี บริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสที่ตั้งอยู่ในรัสเซีย
TikTok ระบุว่า รู้สึกผิดหวังที่รัฐต่างๆ หลายรัฐของสหรัฐฯ แห่แหนในทางการเมือง บังคับใช้นโยบายต่างๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องอะไรเลยกับการส่งเสริมความมั่นคงทางไซเบอร์ในรัฐนั้นๆ และอยู่บนพื้นฐานความเชื่อผิดๆ ไม่มีมูลความจริงเกี่ยวกับ TikTok
เสียงเรียกร้องให้แบน TikTok จากอุปกรณ์ของรัฐเริ่มหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ หลังจาก คริสโตเฟอร์ เรย์ ผู้อำนวยการเอฟบีไอ กล่าวในเดือนพฤศจิกายน ว่า มันเสี่ยงเป็นภัยความมั่นคงแห่งชาติ
เรย์ ชี้ถึงภัยคุกคามดังกล่าวว่า รัฐบาลจีนอาจควบคุมหรือใช้ประโยชน์จากแอปพลิเคชันนี้ สร้างอิทธิพลเหนือผู้ใช้ หรือเข้าควบคุมอุปกรณ์ของพวกเขา
เป็นเวลากว่า 3 ปีแล้ว ที่ TikTok ซึ่งมีผู้ใช้มากกว่า 100 ล้านคน หาทางสร้างความอุ่นใจแก่วอชิงตัน ว่าไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของพลเมืองสหรัฐฯ และคอนเทนต์ต่างๆ ไม่สามารถบิดเบือนโดยพรรคอมมิวนิสต์จีน หรือองค์กรไหนๆ ที่อยู่ใต้อิทธิพลของปักกิ่ง
เมื่อเดือนที่แล้ว ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้ลงนามในร่างงบประมาณฉบับหนึ่ง ซึ่งในนั้นได้รวมถึงคำสั่งแบนเจ้าหน้าที่รัฐจากการใช้หรือดาวน์โหลด TikTok บนอุปกรณ์ของรัฐบาลกลาง
(ที่มา : รอยเตอร์)