อัลฟาเบท อิงค์ (Alphabet Inc) บริษัทแม่ของกูเกิล (Google) ประกาศเลิกจ้างพนักงานทั่วโลกราว 12,000 ตำแหน่ง ในความเคลื่อนไหวล่าสุดที่สะท้อนผลพวงจากภาวะเศรษฐกิจซบเซาที่มีต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยี
ซันดาร์ พิชัย (Sundar Pichai) ซีอีโอของกูเกิล และอัลฟาเบท ระบุในอีเมลที่ส่งถึงพนักงานในองค์กรว่า ตนขอ “แสดงความรับผิดชอบทั้งหมด” ในการปลดคนออกครั้งนี้ โดยแผนลดพนักงานจะกระทบต่อลูกจ้างอัลฟาเบททั่วโลกราว 6% โดยเฉพาะในส่วนของทีมสรรหาบุคลากร และทีมวิศวกรรม
ความเคลื่อนไหวของอัลฟาเบทมีขึ้นตามหลังไมโครซอฟท์ (Microsoft) และแอมะซอน (Amazon) ที่ได้ประกาศเลย์ออฟพนักงาน 10,000 ตำแหน่ง และ 18,000 ตำแหน่งตามลำดับ ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
พิชัย ยอมรับว่า อัลฟาเบทจำเป็นต้อง “กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน ปรับปรุงโครงสร้างต้นทุน และทุ่มเททั้งทรัพยากรบุคคลและเงินทุนไปกับสิ่งที่สำคัญเป็นลำดับต้นๆ” โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ “เอไอ” เข้ามาใช้ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ ให้มากขึ้น
พิชัย ยังกล่าวขอบคุณพนักงานทุกคนที่ “ทำงานหนัก” ในบทบาทหน้าที่ของตัวเอง และสิ่งที่พวกเขาอุทิศเพื่อบริษัทมาโดยตลอดนั้น “ประเมินค่ามิได้”
พนักงานอัลฟาเบทในสหรัฐฯ ที่ถูกเลิกจ้างจะได้รับเงินค่าจ้างชดเชยอย่างน้อย 16 สัปดาห์ รวมถึงเงินโบนัสปี 2022 วันหยุดพักร้อนแบบไม่หักเงินเดือน และประกันสุขภาพอีก 6 เดือน
มาร์ค มาฮานีย์ นักวิเคราะห์จาก Evercore ISIS ให้ความเห็นว่า การที่อัลฟาเบทว่าจ้างพนักงานมากเป็นประวัติการณ์ทำให้บริษัทมีความเสี่ยงเรื่องค่าใช้จ่ายในปีงบประมาณ 2023 ขณะที่ มาร์ค ชมูลิก นักวิเคราะห์จาก Bernstein มองว่า การปลดพนักงานออก 12,000 ตำแหน่งจะช่วยให้อัลฟาเบทสามารถประหยัดต้นทุนไปได้ระหว่าง 2,500-3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
4 บริษัทเทครายใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ ได้ประกาศปลดพนักงานรวมกันไม่ต่ำกว่า 51,000 ตำแหน่งในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งกระพือความกังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจถดถอย (recession) แม้ตลาดแรงงานสหรัฐฯ จะยังค่อนข้างตึงตัว (tight) ก็ตาม
ที่มา : รอยเตอร์, BBC