ไมโครซอฟท์ประกาศแผนปลดพนักงาน 10,000 คน แจงเหตุผลพวกลูกค้าสายคลาวด์-คอมพิวติ้ง กำลังประเมินค่าใช้จ่ายใหม่ ขณะที่บริษัทเองเตรียมพร้อมรับมือภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่อาจเกิดขึ้น ความเคลื่อนไหวคราวนี้ตอกย้ำแนวโน้มขาลงของอุตสาหกรรมไฮเทค หลังจากโตถล่มทลายในช่วงโควิด
ในบันทึกส่งถึงพนักงานบริษัทที่เผยแพร่ออกมาเมื่อวันพุธ (18 ม.ค. ) สัตยา นาเดลลา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร (ซีอีโอ) ไมโครซอฟท์ บริษัทซอฟต์แวร์ยักษ์ใหญ่ของอเมริกา พยายามอธิบายแนวโน้มที่แตกต่างของสายธุรกิจต่างๆ ของบริษัท โดยกล่าวว่า ลูกค้าต้องการปรับปรุงการใช้จ่ายด้านดิจิทัลให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อสร้างผลงานให้ได้มากขึ้นแต่ใช้ทรัพยากรน้อยลง และใช้ความระมัดระวังเนื่องจากบางประเทศเข้าสู่ภาวะถดถอยแล้วในเวลานี้ ขณะที่คาดว่าประเทศอื่นๆ กำลังเจริญรอยตาม แต่พร้อมกันนี้ คลื่นใหญ่ลูกต่อไปของวงการคอมพิวติ้งก็กำลังถือกำเนิดขึ้นมาจากความก้าวหน้าในสายปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ)
นาเดลลา แจงว่า การปลดพนักงาน 10,000 คนคราวนี้จะส่งผลต่อพนักงานบริษัทไม่ถึง 5% โดยที่จะมีค่าใช้จ่ายราว 12,000 ล้านดอลลาร์ และเสร็จสิ้นภายในปลายเดือนมีนาคมที่จะถึง
อย่างไรก็ตาม ไมโครซอฟท์จะยังคงว่าจ้างพนักงานเพิ่มเติมในส่วนที่ถือว่าเป็น “พื้นที่ยุทธศาสตร์” ซึ่งมีแนวโน้มว่าเอไอจะเป็นหนึ่งในนั้น ทั้งนี้ เมื่อต้นสัปดาห์นี้นาเดลลา ประกาศต่อผู้นำทั่วโลกในที่ประชุมเวิลด์ อิโคโนมิก ฟอรัม ที่ดาวอส สวิตเซอร์แลนด์ ว่า เทคโนโลยีเอไอจะเปลี่ยนแปลงผลิตภัณฑ์ของบริษัทและเข้าถึงผู้คนทั่วโลก
ขณะนี้ไมโครซอฟกำลังเล็งเพิ่มหุ้นในบริษัทโอเพนเอไอ (OpenAI) ซึ่งเป็นสตาร์ทอัปที่อยู่เบื้องหลัง แชตบอท (chatbot) ที่มีชื่อว่า “แชตจีพีที” (ChatGPT) ซึ่งกำลังเป็นที่ตื่นเต้นเกรียวกราวกันมากในซิลิคอนแวลลีย์ จากที่ลงทุนไปแล้ว 1,000 ล้านดอลลาร์ โดยที่ ไมโครซอฟท์มีแผนทำตลาดผ่านบริการคลาวด์ของตนในเร็วๆ นี้
ในส่วนรายได้จากธุรกิจคลาวด์ของไมโครซอฟท์นั้นพุ่งทะยานโลดลิ่วในช่วงหลายปีก่อนเนื่องจากภาคธุรกิจต่างต้องการโฮสต์ข้อมูลออนไลน์และจัดการระบบคอมพิวติ้งที่เรียกกันว่าคลาวด์ ทว่า การเติบโตลดลงเหลือ 35% ในไตรมาสแรกปีการเงิน 2023 และไมโครซอฟท์คาดว่า รายได้จะยังคงลดลงต่อไป ทั้งนี้เดือนกรกฎาคมปีที่แล้วบริษัทเผยว่า ได้ปลดพนักงานในสายนี้กลุ่มเล็กๆ ออกไป
นอกจากธุรกิจซอฟต์แวร์และคลาวด์-คอมพิวติ้งแล้ว ไมโครซอฟท์ยังเป็นเจ้าของเว็บไซต์เครือข่ายทางวิชาชีพ ลิงก์อิน เครื่องมือค้นหา บิง และวิดีโอเกม เอ็กซ์บ็อกซ์
การประกาศของไมโครซอฟท์เกิดขึ้นวันเดียวกับที่แอมะซอน คู่แข่งในธุรกิจค้าปลีกและคลาวด์-คอมพิวติ้ง ประกาศข่าวการปลดพนักงาน 18,000 คน โดยบันทึกภายในของบริษัทระบุว่าจะแจ้งพนักงานที่จะถูกปลดในอเมริกา แคนาดา และคอสตาริกาภายในวันพุธ และหลังเทศกาลตรุษจีนสำหรับพนักงานในจีน
ก่อนหน้านี้เมตา แพลตฟอร์มส์ เจ้าของ “เฟซบุ๊ก” ประกาศปลดพนักงาน 11,000 คน ขณะที่เซลส์ฟอร์ซ บริษัทซอฟต์แวร์ที่ทำงานบนคลาวด์ เปิดเผยแผนปลดพนักงาน 10% จากทั้งหมด 80,000 คน
จากข้อมูลของชาเลนเจอร์ เกรย์ แอนด์ คริสต์มาส ซึ่งเป็นบริษัทช่วยจัดหางานใหม่ ระบุว่า ในปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่กำลังเผชิญแนวโน้มขาลงหลังจากโตถล่มทลายในช่วงโควิดระบาด ได้ประกาศปลดพนักงานรวมกว่า 97,000 คน สูงที่สุดสำหรับอุตสาหกรรมนี้นับจากปี 2002 ที่มีการประกาศปลดพนักงาน 131,000 คน
แอนดรูว์ ชาเลนเจอร์ รองประธานอาวุโสชาเลนเจอร์ เกรย์ แอนด์ คริสต์มาส กล่าวว่า ไม่ได้เห็นกิจกรรมแบบนี้มาตั้งแต่ที่ฟองสบู่ดอตคอมแตก
(ที่มา : รอยเตอร์, เอพี, เอเอฟพี)