แอมะซอน ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซอเมริกัน ประกาศในวันพุธ (4 ม.ค.) ว่าจะตัดลดตำแหน่งงานมากกว่า 18,000 ตำแหน่งจากกำลังแรงงานของบริษัท ซึ่งมากกว่าที่เคยเปิดเผยเอาไว้ก่อนหน้านี้ โดยให้เหตุผลเรื่อง “เศรษฐกิจที่ไม่มีความแน่นอน” และข้อเท็จจริงที่ว่าทางบริษัทมีการ “จ้างงานอย่างรวดเร็ว” ระหว่างที่เกิดโรคระบาดใหญ่โควิด-19
แอนดี แจสซี ซีอีโอของแอมะซอน กล่าวในคำแถลงถึงบรรดาลูกจ้างพนักงานที่มีการนำออกเผยแพร่ต่อสาธารณชนว่า จากที่บริษัทได้เคยแจ้งเรื่องการลดตำแหน่งงานเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว เมื่อมาถึงตอนนี้บริษัทวางแผนจะปลดลูกจ้างพนักงานมากกว่า 18,000 ตำแหน่งเล็กน้อย ทั้งนี้ ตอนที่บริษัทประกาศไว้ในเดือน พ.ย. โดยที่เริ่มให้ลูกจ้างพนักงานในแผนกเครื่องมืออุปกรณ์ออกไปนั้น ระบุว่าจะเลย์ออฟราวๆ 10,000 คน
เขาบอกว่า ตำแหน่งงานที่ถูกตัดลดลงคราวนี้ จำนวนมากจะเป็นผู้ที่ทำงานอยู่ในพวกองค์กรด้านอีคอมเมิร์ซ และด้านทรัพยากรบุคคลของบริษัท และบางส่วนจะเกิดขึ้นในยุโรป โดยแอมะซอนจะเริ่มแจ้งให้ลูกจ้างพนักงานที่ถูกกระทบทราบตั้งแต่วันที่ 18 มกราคม
ในคำแถลง แจสซี กล่าวว่า คณะผู้นำของบริษัท “มีความตระหนักอย่างลึกซึ้งว่า การลดตำแหน่งงานเหล่านี้สร้างความยากลำบากให้แก่ผู้คน และเราไม่ได้ตัดสินใจในเรื่องนี้ด้วยความง่ายดายเลย
“เรากำลังทำงานเพื่อสนับสนุนผู้ที่ได้รับความกระทบกระเทือน และกำลังจัดทำแพกเกจต่างๆ ซึ่งรวมถึงการจ่ายเงินสำหรับการต้องแยกจากกัน ผลประโยชน์ด้านการประกันสุขภาพระหว่างช่วงเปลี่ยนผ่าน และความสนับสนุนในเรื่องการหาตำแหน่งงานจากภายนอก” ซีอีโอ แอมะซอน บอก
แอมะซอน มีกำลังแรงงานทั่วทั้งบริษัทราวๆ 300,000 คน การเลย์ออฟคราวนี้จึงเท่ากับลดคนลงไปประมาณ 6% และก็เป็นเครื่องหมายแสดงให้เห็นถึงการกลับลำอย่างรวดเร็วยิ่งของยักษ์ใหญ่ขายปลีกผ่านออนไลน์รายนี้ ซึ่งเพียงไม่นานมานี้เอง ยังเพิ่งขยายเพดานสูงสุดของเงินเดือนฐานของตนไป 1 เท่าตัว ในระหว่างการแข่งขันกันอย่างดุเดือดกับบริษัทอื่นๆ เพื่อช่วงชิงผู้มีความรู้ความสามารถ
นอกจากนั้น แอมะซอนยังมีกำลังคนที่มีฐานะเป็นคนงานชั่วคราวอีกกว่า 1.5 ล้านคน ซึ่งรวมไปถึงพวกที่ทำงานตามคลังสินค้าต่างๆ ทำให้บริษัทเป็นนายจ้างภาคเอกชนรายใหญ่อันดับ 2 ของอเมริกา
ในคำแถลง แจสซี ระบุว่า การทบทวนวางแผนงานประจำปีสำหรับปีนี้ “มีความยากลำบากมาก เมื่อพิจารณาจากเศรษฐกิจที่ไม่มีความแน่นอน และจากการที่เรามีการว่าจ้างอย่างรวดเร็วในตลอดหลายๆ ปีที่ผ่านมา”
ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซรายนี้มีการว่าจ้างคนอย่างดุเดือดจริงๆ ระหว่างเวลาที่เกิดโรคระบาดใหญ่ เพื่อตอบสนองความต้องการให้จัดส่งสินค้าซึ่งพุ่งพรวดขึ้นอย่างระเบิดระเบ้อ โดยมีรายงานว่าลูกจ้างพนักงานของบริษัทเพิ่มขึ้นมาเท่าตัวในช่วงระหว่างตอนเริ่มต้นปี 2020 กับช่วงเริ่มต้นปี 2022
อย่างไรก็ดี แอมะซอนเวลานี้อยู่ในภาวะเตรียมพร้อมรับมือกับอัตราการเติบโตที่น่าจะชะลอตัวลง ขณะภาวะเงินเฟ้อที่ขึ้นสูงมากกลายเป็นปัจจัยหนุนเนื่องให้ธุรกิจและผู้บริโภคทั้งหลายตัดลดการใช้จ่าย และราคาหุ้นของบริษัทก็ลดฮวบลงถึงครึ่งหนึ่งในปีที่ผ่านมา
สำหรับการออกมาประกาศข่าวกันอย่างกะทันหันคราวนี้ แจสซี บอกว่า “เนื่องจากหนึ่งในทีมงานของเราได้ปล่อยข้อมูลข่าวสารนี้รั่วไหลสู่ภายนอก”
ทั้งนี้ ก่อนการออกคำแถลงของเขา มีรายงานข่าวเผยแพร่ทางสื่อวอลล์สตรีทเจอร์นัลว่า แอมะซอนจดลดตำแหน่งงานลงกว่า 17,000 ตำแหน่ง
บริษัทเทคยักษ์มะกันดาวน์ไซซิ่งกันเป็นแถว
แผนการลดตำแหน่งงานของแอมะซอนคราวนี้ ถือเป็นครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัท และก็เป็นครั้งใหญ่ที่สุดในบรรดาการหั่นกำลังแรงงานของภาคเทคโนโลยีสหรัฐฯที่เกิดขึ้นช่วงหลังๆ มานี้
แอมะซอนนั้นในช่วงไตรมาส 3 ปี 2022 มีผลกำไรสุทธิหล่นลง 9% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อนหน้า และคาดการณ์เอาไว้เมื่อเดือน พ.ย. ว่า ไตรมาสุดท้ายจะมีอัตราการเติบโตที่ปวกเปียกเมื่อยึดตามมาตรฐานของบริษัท ทั้งนี้แอมะซอนมีกำหนดแถลงผลประกอบการประจำปี 2022 ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์
ในภาคบริษัทเทคของสหรัฐฯ ไม่เฉพาะแอมะซอน พวกบริษัทเจ้าของแพลตฟอร์มใหญ่ๆ ที่ใช้โมเดลธุรกิจแบบอิงอาศัยรายได้จากการโฆษณา ต่างกำลังประสบปัญหาที่พวกผู้ลงโฆษณาพากันหั่นงบประมาณ เพราะพวกเขาต้องลดค่าใช้จ่ายเมื่อเผชิญกับเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่กำลังขึ้นไปเรื่อยๆ
เมตา บริษัทแม่ของ เฟซบุ๊ก แถลงในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาว่า จะลดตำแหน่งงานลง 11,000 ตำแหน่ง หรือราว 13% ของกำลังแรงงานทั้งหมดของเครือบริษัท ขณะที่เมื่อสิ้นเดือนสิงหาคม สแนปแชต ก็หั่นลดลูกจ้างพนักงานไปราว 1,200 คน หรือเท่ากับ 20% ของพนักงานลูกจ้างทั้งหมดที่มีอยู่ทีเดียว
ทวิตเตอร์ ถูกอภิมหาเศรษฐี อีลอน มัสก์ ซื้อไปเมื่อเดือนตุลาคม โดยหลังจากนั้นเขาก็เร่งปลดลูกจ้างพนักงานของแพลตฟอร์มสื่อสังคมแห่งนี้ไปประมาณครึ่งหนึ่งจากจำนวนทั้งหมด 7,500 คน
ในปี 2022 อุตสาหกรรมเทคสหรัฐฯหั่นลดคนงานไปรวมแล้วมากกว่า 50,000 คน ทั้งนี้ตามการรวบรวมของLayoffs.fyi เว็บไซต์ติดตามข้อมูลเรื่องนี้ และตัวเลขนี้ยังคงทำท่าเพิ่มขึ้นต่อไปอีก
เมื่อวันพุธ (4 ) เซลส์ฟอร์ซ ซึ่งเป็นบริษัทไอทีที่ชำนาญพิเศษ ในเรื่องโซลูชั่นสำหรับการบริหารจัดการ
และในเรื่องเทคโนโลยีคลาวด์ ประกาศว่าจะเลย์ออฟลูกจ้างพนักงานราว 10% หรือเป็นจำนวนต่ำกว่า
8,000 คนเล็กน้อย
(ที่มา: เอเอฟพี, รอยเตอร์)