ราคาน้ำมันขยับลงราว 1% และวอลล์สตรีทปิดลบในวันพุธ (18 ม.ค.) จากความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯ จะดำดิ่งสู่ภาวะถดถอย หลังพบข้อมูลเศรษฐกิจอ่อนแอ แต่กระนั้นทองคำ ในฐานะสินทรัพย์เสี่ยงต่ำยังปิดลดเช่นกัน เพราะในขณะเดียวกันนั้นยังมีโอกาสที่เฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 70 เซนต์ ปิดที่ 79.48 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมีนาคม ลดลง 94 เซนต์ ปิดที่ 84.98 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันมีขึ้นหลังจากข้อมูลทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ พบว่ายอดค้าปลีก และดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลงเกินคาดหมายในเดือนธันวาคม
"ตลาดน้ำมันเคลื่อนไหวตามการอ่อนแอของยอดค้าปลีก การดิ่งลงอย่างมากของการผลิตภาคอุตสาหกรรม และข่าวเกี่ยวกับการปลดพนักงานเพิ่มเติม ซึ่งซ้ำเติมความกังวลว่าสหรัฐฯ อาจเข้าสู่ภาวะถดถอยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว" พวกนักวิเคราะห์จากสถาบันการเงินไอเอ็นจีกล่าว
ข้อมูลทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอดังกล่าว ประกอบกับความเห็นแนวแข็งกร้าวจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งโหมกระพือความกังวงลว่าเฟดจะยังคงกระชับนโยบายทางการเงินต่อไป ฉุดให้ตลาดหุ้นอเมริกาในวันพุธ (18 ม.ค.) ปิดในแดนลบ ท่ามกลางความกังวลว่ามันอาจเป็นต้นตอที่ดึงให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย
ดาวโจนส์ ลดลง 613.89 จุด (1.81 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 33,296.96 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 62.11 จุด (1.56 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,928.86 จุด แนสแดค ลดลง 138.10 จุด (1.24 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 10,975.01 จุด
ก่อนหน้านี้ เจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขาเซนต์หลุยส์ และลอเรตตา เมสเตอร์ ประธานธาคารกลางสหรัฐฯ สาขาคลีฟแลนด์ เน้นย้ำถึงความจำเป็นที่ต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับเกินกว่า 5% เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ
ปัจจัยความเป็นไปได้ที่เฟดจะยังคงเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยนี้เอง ฉุดให้ราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ ในวันพุธ (18 ม.ค.) ปิดในแดนลบ แม้ว่าตัวเลขค้าปลีกและการผลิตภาคอุตสาหรรมจะอ่อนแอก็ตาม โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 2.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,907.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา : รอยเตอร์)