ราคาน้ำมันขยับขึ้นมากกว่า 2% ในวันจันทร์ (9 ม.ค.) หลังจีนเคลื่อนไหวเปิดประเทศ ที่ส่งเสริมแนวโน้มอุปสงค์ทางพลังงาน บดบังความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย ส่วนวอลล์สตรีทปิดผสมผสาน ได้แรงหนุนจากความคาดหมายเฟดชะลอปรับขึ้นดอกเบี้ย ขณะที่ทองคำแตะระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 86 เซนต์ ปิดที่ 74.63 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้น 1.08 ดอลลาร์ ปิดที่ 79.65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
การฟื้นตัวของตลาดน้ำมันได้แรงหนุนจากทั้งการกลับมาเปิดประเทศของจีน ชาติผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดของโลก และความหวังที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย บนพื้นฐานของข้อมูลเศรษฐกิจอเมริกาเมื่อเร็วๆ นี้
นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังได้แรงหนุนจากดอลลาร์อ่อนค่า ซึ่งทำให้น้ำมันถูกลงสำหรับผู้ซื้อที่ถือสกุลเงินอื่นๆ และปัจจัยนี้เองที่ผลักให้ราคาทองคำในวันจันทร์ (9 ม.ค.) แตะระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือน โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 8.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,877.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดผสมผสานในวันจันทร์ (9 ม.ค.) โดยแนสแดค ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ท่ามกลางความคาดหมายมากขึ้นว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกน้อยลง
ดาวโจนส์ ลดลง 112.96 จุด (0.34 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 33,517.65 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 2.99 จุด (0.08 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,892.09 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 66.36 จุด (0.63 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 10,635.65 จุด
นักลงทุนจับตาความคิดเห็นของ เจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ในวันอังคาร (10 ม.ค.) ซึ่งพวกนักวิเคราะห์คาดหมายว่าเขาจะบอกว่าจำเป็นต้องใช้เวลานานกว่านี้ที่ข้อมูลจะบ่งชี้ว่าภาวะเงินเฟ้ออยู่ภายใต้การควบคุมแล้ว
ข้อมูลภาคแรงงานที่เผยแพร่เมื่อวันศุกร์ (6 ม.ค.) ซึ่งพบว่าค่าจ้างเพิ่มขึ้นแค่เล็กน้อย ได้ก่อความหวังเพิ่มเติมว่าเฟดอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยเชิงรุกน้อยลงกว่าเดิม ในความพยายามต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อ
(ที่มา : รอยเตอร์)