จีนประกาศในวันอังคาร (10 ม.ค.) ระงับการออกวีซ่าระยะสั้นเป็นการชั่วคราวให้ผู้เดินทางจากเกาหลีใต้ ทั้งที่เป็นนักท่องเที่ยวและที่อยู่ในภาคธุรกิจ รวมทั้งมีรายงานว่าใช้มาตรการนี้กับผู้เดินทางจากญี่ปุ่นด้วย โดยดูเหมือนจะเป็นการตอบโต้เอาคืนประเทศเหล่านี้ ซึ่งตั้งข้อกำหนดจำกัดการเดินทางของผู้ที่ออกมาจากแดนมังกร ซึ่งปักกิ่งมองว่าเป็นการกีดกันเลือกปฏิบัติ
สัปดาห์ที่แล้ว เกาหลีใต้เข้าร่วมกับบางประเทศ เป็นต้นว่าสหรัฐฯ และชาติในยุโรป ประกาศให้ผู้เดินทางจากจีนต้องแสดงผลการตรวจโรคโควิด รวมทั้งระงับการออกวีซ่าชั่วคราวให้บุคคลสัญชาติจีนไปก่อนจนถึงสิ้นเดือนนี้ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศแดนมังกรระบุว่า “ยอมรับไม่ได้” และ “ไม่เป็นไปตามหลักวิทยาศาสตร์”
ในวันอังคาร (10) หวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน แถลงว่า การจำกัดการเดินทางของนักเดินทางซึ่งออกมาจากจีนเป็นการกีดกันมุ่งเลือกปฏิบัติ และจีนจะออกมาตรการตอบโต้ แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ
วันเดียวกันนั้นเอง สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำเกาหลีใต้แจ้งว่า ได้ระงับการออกวีซ่าระยะสั้นให้นักเดินทางจากเกาหลีใต้แล้ว ทั้งที่เป็นนักท่องเที่ยวและที่เป็นนักธุรกิจ ซึ่งถือเป็นการตอบโต้ครั้งแรกของแดนมังกรต่อประเทศต่างๆ ที่ตั้งข้อจำกัดสกัดโควิดต่อนักเดินทางจากจีน
สถานเอกอัครราชทูตจีนโพสต์ในบัญชีวีแชตของตนว่า จะปรับเปลี่ยนนโยบายหากเกาหลีใต้ยกเลิกมาตรการจำกัดการเดินทางที่เป็นการเลือกปฏิบัติต่อจีน
ขณะเดียวกัน สำนักข่าวเกียวโดของญี่ปุ่นรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวในอุตสาหกรรมการเดินทางหลายคนซึ่งเผยว่า จีนแจ้งพวกบริษัทท่องเที่ยวและการเดินทางหลายรายว่า ได้ระงับการออกวีซ่าระยะสั้นให้แก่นักเดินทางจากญี่ปุ่นในทำนองเดียวกัน
เจ้าหน้าที่คนหนึ่งของกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นแจ้งว่า รัฐบาลแดนอาทิตย์อุทัยรับทราบรายงานข่าวนี้แล้ว และกำลังหารืออย่างไม่เป็นทางการกับเจ้าหน้าที่รับผิดชอบของฝ่ายจีน ขณะที่โฆษกของสถานเอกอัครราชทูตจีนในโตเกียวบอกว่า ยังไม่มีข้อมูลใหม่เกี่ยวกับนโยบายเรื่องวีซ่านี้
ด้านกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์และวิทยุบีบีซี เกี่ยวกับความเคลื่อนไหวล่าสุดนี้ของจีน โดยยืนกรานว่า นโยบายของโซลต่อนักเดินทางจากจีนสอดคล้องกับหลักฐานทางวิทยาศาสตร์และปราศจากอคติ
จากข้อมูลของสำนักงานควบคุมและป้องกันโรคของเกาหลีใต้ระบุว่า ราว 1 ใน 3 ของผู้ที่เดินทางมาจากจีนมีผลตรวจเป็นบวกก่อนที่เกาหลีใต้จะบังคับใช้มาตรการจำกัดการออกวีซ่า ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะบังคับใช้อย่างน้อยจนถึงสิ้นเดือนนี้เพื่อให้นักวิจัยมีเวลาวิเคราะห์ไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่อาจระบาดมาจากจีน
ทั้งนี้ จากข้อมูลของสำนักงานควบคุมและป้องกันโรคของเกาหลีใต้ ราว 1 ใน 3 ของผู้ที่เดินทางมาจากจีนมีผลตรวจเป็นบวกก่อนที่เกาหลีใต้จะบังคับใช้มาตรการจำกัดการออกวีซ่า ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะบังคับใช้อย่างน้อยจนถึงสิ้นเดือนนี้เพื่อให้นักวิจัยมีเวลาวิเคราะห์ไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่อาจระบาดมาจากจีน
ศาสตราจารย์คิม วู จู ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อของมหาวิทยาลัยโคเรีย และที่ปรึกษาของรัฐบาล กล่าวว่า การติดตามตรวจสอบไวรัสสายพันธุ์ใหม่ของจีนขาดความโปร่งใส และหากมีไวรัสสายพันธุ์ใหม่จากจีนจะนำไปสู่สถานการณ์ที่ยากลำบากมากสำหรับทั่วโลก อีกทั้งยังอาจเป็นหายนะร้ายสำหรับระบบการดูแลสุขภาพของเกาหลีใต้ที่ปัจจุบันมีผู้รักษาตัวในโรงพยาบาลและผู้เสียชีวิตจากโควิดจำนวนมากอยู่แล้ว ซ้ำกลุ่มผู้สูงวัยยังมีอัตราการฉีดวัคซีนต่ำ
ที่ท่าอากาศยานนานาชาติอินชอนซึ่งเป็นสนามบินแห่งเดียวในเกาหลีใต้ที่ยังอนุญาตเที่ยวบินจากจีน มีทหารสวมชุดป้องกันส่วนบุคคลเฝ้าระวังความสงบเรียบร้อย
นักธุรกิจคนหนึ่งที่เดินทางมาจากเซี่ยงไฮ้ให้สัมภาษณ์กับบีบีซีว่า เห็นด้วยกับการตรวจโควิดในสนามบิน ขณะที่นักเดินทางหญิงอีกคนที่มาจากฮ่องกงที่ต้องตรวจโควิดเช่นเดียวกับนักเดินทางจากจีน รู้สึกว่า ไม่เป็นธรรม
ขณะเดียวกัน คนเกาหลีใต้จำนวนมากสนับสนุนแนวคิดในการปกป้องประเทศจากการระบาดของโควิดในจีน แต่ไม่ใช่ทั้งหมดที่เชื่อว่า มาตรการจำกัดการเดินทางนี้มีเหตุผลด้านการแพทย์เพียงอย่างเดียว โดยบางคนมองว่า อาจมีปัจจัยทางการเมืองเกี่ยวข้องด้วย อีกทั้งความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีใต้และจีนก็ไม่ค่อยดีนัก
หญิงสาวอีกคนที่กำลังจะเดินทางไปฮันนีมูนที่ปารีส บอกว่า ถ้าไม่ใช่จีน เกาหลีใต้อาจไม่ใช้กฎนี้ แต่สำทับว่า ไม่ว่าเกาหลีใต้จะทำอะไร จีนก็ไม่พอใจทั้งนั้น
(ที่มา : เอเอฟพี, รอยเตอร์, เอพี)