เอเอฟพี - อิหร่านประหารชีวิตผู้ประท้วงอีก 2 คน ข้อหาสังหารสมาชิกกองกำลังกึ่งทหารเมื่อเดือนพฤศจิกายน ระหว่างการประท้วงแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนที่จุดชนวนจากการเสียชีวิตของมาห์ซา อามินี ระหว่างถูกทางการควบคุมตัวเมื่อกลางเดือนกันยายนปีที่แล้ว
การแขวนคอที่เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ (7 ม.ค.) ทำให้จำนวนผู้ถูกประหารชีวิตจากเหตุการณ์การประท้วงทั่วประเทศเพิ่มขึ้น 2 เท่าเป็น 4 คน อีกทั้งยังเกิดขึ้นท่ามกลางการเรียกร้องของกลุ่มสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศให้ละเว้นโทษประหารชีวิตผู้ประท้วงทั้งหมด
มีซาน ออนไลน์ รายงานว่า โมฮัมหมัด เมห์ดี คารามี วัย 22 ปี และเซเยด โมฮัมหมัด ฮอสไซนี วัย 39 ปี ผู้ยั่วยุสำคัญในคดีอาชญากรรมที่นำไปสู่การเสียชีวิตของรูฮอลเลาะห์ อาจาเมียน สมาชิกกองกำลังกึ่งทหารวัย 27 ปี ถูกแขวนคอเมื่อเช้าวันเสาร์
อัยการระบุว่า อาจาเมียนเสียชีวิตในสภาพเปลือยเปล่าจากฝีมือของกลุ่มผู้ที่ไปร่วมไว้อาลัยให้ฮาดิส นาจาฟี ผู้ประท้วงอีกคนที่ถูกสังหาร
สำนักงานข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติประณามการประหารชีวิตล่าสุดว่า เป็นผลจากการพิจารณาคดีที่ไม่เป็นธรรมโดยอิงกับคำสารภาพที่เกิดจากขู่บังคับ และเรียกร้องให้อิหร่านยกเลิกการประหารชีวิตทั้งหมด
โจเซฟ บอร์เรลล์ ประธานกรรมาธิการนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป (อียู) แถลงว่า การกระทำดังกล่าวน่าตกใจและเป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่บ่งชี้ว่า ทางการอิหร่านใช้ความรุนแรงปราบปรามการประท้วงของพลเรือน พร้อมเรียกร้องให้ยุติโทษประหารต่อผู้ประท้วงทันที
ทั้งนี้ ทางการอิหร่านจับกุมผู้ประท้วงนับพันคนในเหตุการณ์การประท้วงที่ปะทุขึ้นหลังวันที่ 16 กันยายน ที่อามินี หญิงชาวเคิร์ดวัย 22 ปี ถูกจับกุมในข้อหาละเมิดกฎการแต่งกายตามหลักศาสนาอิสลาม
ผู้หญิงอีก 2 คนถูกประหารชีวิตในเดือนธันวาคม ทำให้ทั่วโลกต่างพากันประณาม และตะวันตกออกมาตรการแซงก์ชันระลอกใหม่ต่ออิหร่าน
สำหรับอาจาเมียน ซึ่งเป็นสมาชิกกองกำลังกึ่งทหารบาซิจที่เชื่อมโยงกับกองพิทักษ์ปฏิวัติอิสลามอันทรงอิทธิพลชองอิหร่านนั้น เสียชีวิตในคารัจ ทางตะวันตกของเตหะรานเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน หลังถูกทำร้ายด้วยมีด ก้อนหิน รวมทั้งถูกทุบตีและลากไปตามถนน
มีซานรายงานว่า คารามี และฮอสไซนีถูกตัดสินประหารชีวิตเมื่อต้นเดือนธันวาคม และศาลสูงสุดยืนคำตัดสินเดิมเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (3 ม.ค.)
มาห์มูด อามีรี-โมกัดดัม ผู้อำนวยการอิหร่าน ฮิวแมน ไรต์ส (ไอเอชอาร์) ที่อยู่ในออสโล ระบุว่า ชายทั้งคู่ถูกทรมานและลงโทษหลังการดำเนินคดีจอมปลอมโดยปราศจากมาตรฐานขั้นต่ำของกระบวนการอันชอบธรรมตามกฎหมาย
เดือนที่แล้วพ่อแม่ของคารามีเผยแพร่วิดีโอร้องขอให้ทางการอิหร่านไว้ชีวิตลูกชายที่เคยเป็นนักคาราเต้ทีมชาติ และเผยว่า ทนายความของครอบครัวไม่สามารถเข้าถึงแฟ้มคดีของคารามี และครอบครัวไม่ได้รับอนุญาตให้พบปะเพื่อร่ำลากันครั้งสุดท้าย
คารามี และฮอสไซนีเป็นส่วนหนึ่งของนักโทษ 14 คนที่ถูกตัดสินประหารชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบ ซึ่งจนถึงขณะนี้มีผู้ถูกประหารไปแล้ว 4 คน 2 คนได้รับการยืนยันโทษประหารโดยศาลสูงสุด 6 คนรอการไต่สวนใหม่ และอีก 2 คนอาจยื่นอุทธรณ์ ทั้งนี้ ไอเอชอาร์เผยเมื่อปลายเดือนที่ผ่านมาว่า ยังมีผู้ประท้วงอีกหลายสิบคนอาจถูกลงโทษประหารชีวิต
นักเคลื่อนไหวต่างเรียกร้องให้นานาชาติเพิ่มมาตรการกดดันต่ออิหร่าน เช่น เซ็นเตอร์ ฟอร์ ฮิวแมน ไรตส์ อิน อิหร่านในนิวยอร์ก เรียกร้องให้ประเทศต่างๆ เรียกเอกอัครราชทูตจากเตหะรานกลับประเทศ
ทั้งนี้ หลังเหตุการณ์ความไม่สงบที่ดำเนินมาเกือบ 4 เดือนที่จุดชนวนจากการเสียชีวิตของอามีนี อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ได้แต่งตั้ง พล.อ.อาหมัด-เรซา ราดาน เป็นผู้บัญชาการตำรวจคนใหม่เมื่อวันเสาร์ แทนฮอสเซน แอชตารี และสั่งให้กองบัญชาการตำรวจปรับปรุงศักยภาพ
ก่อนการประกาศนี้ เมห์ซัด โบรูเจอร์ดี ผู้เชี่ยวชาญของอิหร่าน เผยว่า มีข่าวลือว่า คาเมเนอีวิจารณ์การทำงานของแอชตารีอย่างรุนแรง และแสดงความคาดหวังว่า จะมีคนที่แข็งกร้าวกว่ามาแทนที่
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่อิหร่านเรียกการประท้วงว่าเป็น “การจลาจล” และกล่าวหามหาอำนาจและฝ่ายตรงข้ามยั่วยุให้เกิดความไม่สงบ