อุณหภูมิสำหรับเดือนมกราคมแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในหลายชาติทั่วยุโรป สวนทางกับสหรัฐฯ ฝั่งตรงข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก ซึ่งคาดหมายว่าต้องเผชิญกับพายุหิมะและความหนาวเหน็บอีกระลอก ตามรายงานของสำนักข่าวบีบีซีเมื่อวันอังคาร (3 ม.ค.)
มีอยู่ 8 ประเทศในยุโรปที่เจออุณหภูมิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และใน 3 ชาติ พบเจออุณหภูมิสูงสุดทุบสถิติในระดับท้องถิ่น ตามรายงานของบีบีซี
บีบีซีรายงานว่า กรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ พบเห็นอุณหภูมิ 18.9 องศาเซลเซียสในวันอาทิตย์ (1ม.ค.) ส่วนที่เมืองบิลเบา ประเทศสเปน อุณหภูมิสูงถึง 25.1 องศาเซลเซียส สูงกว่าค่าเฉลี่ยมากกว่า 10 องศาเซลเซียส
สภาพอากาศที่อุ่นผิดปกติในยุโรปมีขึ้นในขณะที่แถบอเมริกาเหนือ เตรียมเผชิญกับพายุรุนแรงกว่าเดิม หลายวันหลังจากเพิ่งผ่านพ้นสภาพอากาศหนาวเหน็บจนเข้ากระดูก ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 60 ราย
คาดหมายว่าจะมีหิมะตกหนักและฝนเยือกแข็งในหลายพื้นที่ทางตอนเหนือของแถบมิดเวสต์ของสหรัฐฯ พร้อมกันนั้น ยังพยากรณ์ด้วยว่าจะมีพายุฝนฟ้าคะนองรุนแรงและทอร์นาโด ในเทกซัส โอคลาโฮมา อาร์คันซอและลุยเซียนา
ผิดกับฝั่งยุโรปของมหาสมุทรแอตแลนติก สภาพอากาศปลอดโปร่งในหลายพื้นที่ในช่วงเริ่มต้นปีใหม่ โดยในเนเธอร์แลนด์ ลิกเตนสไตน์ ลิทัวเนีย ลัตเวีย สาธารณรัฐเช็ก โปแลนด์ เดนมาร์ก และเบลารุสต่างเจอสภาพอากาศอุ่นสุดเป็นประวัติการณ์ของแต่ละชาติ ขณะที่ในเยอรมนี ฝรั่งเศส และยูเครน มีการทำลายสถิติสูงสุด ณ สถานีตรวจอากาศ
ในกรุงวอร์ซอ อุณหภูมิสูงสุดเป็นประวัติการณ์สำหรับเดือนมกราคม เกิดขึ้นในวันที่ 1 มกราคม สูงกว่าสถิติเดิมถึง 4 องศาเซลเซียส ส่วนเบลารุส อุณหภูมิแตะระดับ 16.4 องศาเซลเซียส เหนือกว่าสถิติสูงสุดก่อนหน้านี้ราวๆ 4.5 องศาเซลเซียส
ที่สเปน อุณหภูมิในวันปีใหม่ในเมืองบิลเบา เทียบเท่ากับค่าเฉลี่ยในเดือนกรกฎาคม และบางพื้นที่ของแคว้นกาตาลุญญา ในนั้นรวมถึงบาร์เซโลนา ต้องอยู่ภายใต้มาตรการจำกัดการใช้น้ำ
การทุบสถิติตลอดกาลเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง แต่นับว่าไม่ปกตินักที่ความต่างระหว่างสถิติเดิมกับสถิติใหม่จะห่างกันมากกว่า 10 องศาเซลเซียส
ในสวิตเซอร์แลนด์ อุณหภูมิแตะระดับ 20 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิที่อุ่นผิดปกติส่งผลกระทบต่อลานสกีทั่วเทือกเขาแอลป์ส
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทั่วทั้งยุโรปจะอุ่นไปทั้งหมด ในแถบสแกนดิเนเวียต้องเผชิญอุณหภูมิที่หนาวเย็นและคาดหมายว่าจะมีหิมะตกในหลายพื้นที่ ส่วนกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย คาดหมายว่าอุณหภูมิจะดำดิ่งแตะระดับ -20 องศาเซลเซียสในช่วงสุดสัปดาห์
ก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน สหราชอาณาจักร ไอร์แลนด์ ฝรั่งเศส และสเปน เพิ่งประกาศว่าปี 2022 ที่ผ่านไปเป็นปีที่ร้อนที่สุดในประวัติศาสตร์ของพวกเขา
ในสหราชอาณาจักร ทุกเดือนยกเว้นเดือนธันวาคม มีอุณหภูมิร้อนกว่าค่าเฉลี่ย ทั้งนี้แม้ในเดือนธันวาคมจะพบเห็นหิมะตกในพื้นที่ขนาดใหญ่ของประเทศ แต่สภาพอากาศก็เบาบางกว่าปกติและอากาศค่อนข้างชื้นในตอนนี้
คลื่นความร้อนเริ่มกลายเป็นสิ่งที่พบเห็นบ่อยครั้งขึ้น รุนแรงขึ้นและยาวนานกว่าเดิม สืบเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศอันเนื่องจากฝีมือมนุษย์
อย่างไรก็ตาม สภาพอากาศฤดูหนาวลักษณะนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อมนุษย์รุนแรงเท่ากับคลื่นความร้อนในฤดูร้อน ซึ่งบางครั้งทำให้มีอัตราการตายส่วนเกินจำนวนมาก
โลกมีอุณหภูมิอุ่นขึ้นมาแล้วราวๆ 1.1 องศาเซลเซียส นับตั้งแต่ยุคอุตสาหกรรมเริ่มต้นขึ้น และอุณหภูมิจะสูงขึ้นเรื่อยๆ จนกว่ารัฐบาลต่างๆ ทั่วโลกจะดำเนินการปรับลดการปล่อยมลพิษลงอย่างมาก
(ที่มา : บีบีซี)