อินเดียพบคนถูกฟ้าผ่าเสียชีวิตไปแล้วไม่ต่ำกว่า 907 ราย ตามข้อมูลสถิติของรัฐบาลเมื่อวันพุธ (6 ธ.ค.) ซึ่งสะท้อนผลกระทบจากภาวะโลกร้อนที่ทำให้สภาพอากาศสุดขั้ว เช่น คลื่นความร้อน และปรากฏการณ์ฟ้าผ่าเกิดบ่อยขึ้นในปีนี้
กระทรวงวิทยาศาสตร์โลก (Ministry of Earth Sciences) ระบุในรายงานที่เสนอต่อรัฐสภาอินเดียว่า ปรากฏการณ์คลื่นความร้อนเกิดขึ้นถึง 27 ครั้งในปีนี้ หรือเพิ่มขึ้นจากเดิม 8 เท่าตัว ขณะที่ปรากฏการณ์ฟ้าผ่าก็เกิดบ่อยขึ้นถึง 111 เท่า และคร่าชีวิตประชาชนไปไม่ต่ำกว่า 907 คน
ปีนี้อินเดียยังเผชิญพายุฝนฟ้าคะนองมากถึง 240 ครั้ง หรือเพิ่มขึ้นจากเดิม 5 เท่า
ตั้งแต่ต้นปีจนถึงเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา มีชาวอินเดียเสียชีวิตเนื่องจากสภาพอากาศสุดขั้วรวมทั้งสิ้น 2,183 คน ซึ่งมากเป็นอันดับ 2 รองจากสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 3,017 คนในปี 2019 โดยสาเหตุหลัก 78% ของการเสียชีวิตมาจากเหตุฟ้าผ่า น้ำท่วม และฝนที่ตกหนัก
รัฐบาลอินเดียได้ออกมาเตือนเมื่อเดือน ส.ค. ว่า อุณหภูมิในช่วงฤดูมรสุมของอินเดียเพิ่มสูงขึ้นในช่วงศตวรรษนี้ และในอนาคตก็มีความเสี่ยงที่อินเดียจะต้องเผชิญกับคลื่นความร้อนที่รุนแรงบ่อยขึ้น
อินเดียเป็นประเทศที่ปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนออกสู่ชั้นบรรยากาศมากเป็นอันดับ 3 ของโลก แม้สัดส่วนต่อหัวประชากรจะยังต่ำกว่าชาติที่พัฒนาแล้วหลายๆ ประเทศก็ตามที
องค์การอนามัยโลก (WHO) รายงานว่า ระหว่างช่วงปี 1998-2017 มีผู้คนทั่วโลกเสียชีวิตจากคลื่นความร้อนมากถึง 166,000 ราย และคาดว่าระหว่างปี 2030-2050 ความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศอาจจะทำให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 250,000 รายต่อปีจากภาวะทุพโภชนาการ มาลาเรีย โรคท้องเสีย และภาวะความเครียดจากความร้อน (heat stress)
ที่มา : รอยเตอร์