ประธานาธิบดี ไช่ อิงเหวิน แห่งไต้หวัน ออกมาเสนอมอบ “ความช่วยเหลือที่จำเป็น” แก่จีนในการต่อสู้โควิด-19 แต่ขณะเดียวกันก็เตือนว่า กิจกรรมทางทหารของจีนใกล้ดินแดนไต้หวันนั้นไม่เป็นผลดีต่อสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค
หลังจากที่จีนปรับนโยบายควบคุมโรคอย่างกะทันหันเมื่อเดือนที่แล้ว โดยยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์และการระดมตรวจเชื้อ ทำให้โควิด-19 แพร่กระจายในประชากรอย่างรวดเร็วและยากที่จะตรวจสอบ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญบางคนประเมินว่าจีนอาจมีผู้ติดเชื้อใหม่วันละหลายล้านคน
ไช่ ได้กล่าวสุนทรพจน์เนื่องในโอกาสขึ้นปีใหม่ 2023 โดยอ้างไปถึงสถานการณ์โควิด-19 ในจีนที่ทุกฝ่ายต่างทราบกันดีว่ายอดผู้ติดเชื้อกำลังพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ
“ตราบใดที่มีความจำเป็นและอยู่บนพื้นฐานของความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม เราก็พร้อมที่จะมอบความช่วยเหลือที่จำเป็นเพื่อให้ประชาชนจีนรอดพ้นจากโรคระบาด มีสุขภาพพลานามัยที่ดี และเข้าสู่ปีใหม่อย่างปลอดภัย” ผู้นำไต้หวันกล่าวโดยไม่ลงรายละเอียด
ไต้หวันและจีนมักออกมาวิพากษ์วิจารณ์นโยบายควบคุมโควิด-19 ของกันและกันอยู่เนืองๆ โดยจีนนั้นเคยตำหนิไต้หวันว่าจัดการโควิดอย่างไร้ประสิทธิภาพจนทำให้ยอดผู้ติดเชื้อกลับมาพุ่งสูงขึ้นเมื่อปีที่แล้ว ขณะที่ฝ่ายไทเปก็กล่าวหาจีนว่า “ขาดความโปร่งใส” และพยายามแทรกแซงการจัดซื้อวัคซีนของไต้หวัน ซึ่งปักกิ่งปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง
ไช่ ยังเอ่ยย้ำข้อเรียกร้องในการเปิดเจรจากับจีน พร้อมเตือนว่าสงครามไม่ใช่ทางออกของปัญหา
ด้านประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีนได้ส่งสารเนื่องในวันส่งท้ายปีเก่า-ต้อนรับปีใหม่ต่อชาวจีนเมื่อช่วงค่ำวันเสาร์ (31) โดยมีการกล่าวถึงไต้หวันสั้นๆ ว่า ประชาชนซึ่งอยู่อีกฟากหนึ่งของช่องแคบไต้หวัน “ล้วนเป็นสมาชิกในครอบครัวเดียวกัน” และไม่ได้เอ่ยถึงความพยายามที่จะนำเกาะไต้หวันมาอยู่ภายใต้การปกครองของจีนแผ่นดินใหญ่
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามประธานาธิบดี ไช่ ในประเด็นนี้ เธอก็ยอมรับว่าถ้อยแถลงของผู้นำจีน “ฟังดูอ่อนโยนมากขึ้น”
“แต่ดิฉันก็ต้องเตือนทุกคนเอาไว้ว่า กิจกรรมทางทหารของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนใกล้ๆ เกาะไต้หวันไม่ได้ช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ข้ามช่องแคบ หรือเป็นผลดีต่อสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคนี้” เธอกล่าว
หลังจากนั้นไม่นาน กระทรวงกลาโหมไต้หวันได้ออกมาแถลงว่า มีเครื่องบินจีน 12 ลำบินข้ามเส้นมัธยฐาน (median line) ในช่องแคบไต้หวัน ซึ่งเป็นเสมือนเส้นแบ่งเขตแดนอย่างไม่เป็นทางการระหว่างทั้ง 2 ฝ่ายในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
จีนเปิดการซ้อมรบรอบเกาะไต้หวันเมื่อเดือน ส.ค.ปีที่แล้ว หลังจากที่ แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เดินทางไปเยือนไทเป และกิจกรรมทางทหารของจีนก็ยังคงดำเนินมาอย่างต่อเนื่องจนถึงทุกวันนี้
ไช่ กล่าวย้ำเสมอว่า เธอต้องการพูดคุยและแสวงหาการดำรงอยู่อย่างสันติร่วมกับจีน แต่ก็เตือนว่าไต้หวันพร้อมจะปกป้องตนเองหากถูกรุกรานก่อน และอนาคตของไต้หวันนั้นมีเพียงประชากรไต้หวัน 23 ล้านคนที่จะเป็นผู้ตัดสินได้
รัฐบาลจีนมอง ไช่ ว่าเป็นพวกจ้องแบ่งแยกดินแดน และปฏิเสธที่จะเจรจาด้วย
ที่มา : รอยเตอร์
