ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีนออกมาส่งสารในวันส่งท้ายปีเก่า-ต้อนรับปีใหม่ 2023 โดยเรียกร้องให้ชาวจีนเพิ่มความวิริอุตสาหะและ “สามัคคี” กันในช่วงที่ประเทศกำลังเดินเข้าสู่ “เฟสใหม่” ในการต่อสู้กับโควิด-19
ถ้อยแถลงของ สี ในวันนี้ (31 ธ.ค.) ถือเป็นครั้งแรกที่ผู้นำจีนออกมากล่าวต่อสาธารณชนเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศ หลังจากที่ปักกิ่งเลิกใช้วิธีล็อกดาวน์และระดมตรวจเชื้อประชากรจำนวนมากๆ เมื่อ 3 สัปดาห์ก่อน
การคลายล็อกอย่างกะทันหันหลังจากที่ยึดยุทธศาสตร์ “โควิดเป็นศูนย์” มานานถึง 3 ปีเต็มส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อในจีนพุ่งสูงขึ้นอย่างยากที่จะตรวจสอบ ขณะที่หลายๆ ประเทศ เช่น สหรัฐฯ อังกฤษ ฝรั่งเศส อินเดีย อิตาลี ญี่ปุ่น และไต้หวัน เริ่มประกาศมาตรการคุมเข้มผู้เดินทางจากจีนเพื่อสกัดโควิด-19 ระลอกใหม่
ในสุนทรพจน์ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ประธานาธิบดี สี ระบุว่าจีนได้ผ่านพ้นความยากลำบากและปัญหาที่ท้าทายอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในการต่อสู้กับโควิด-19 พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลมีการ “ปรับนโยบายต่างๆ ให้เหมาะสม” กับช่วงเวลาและสถานการณ์ที่จำเป็น
“นับตั้งแต่เกิดโรคระบาดขึ้น ประชาชนส่วนใหญ่โดยเฉพาะบุคลากรทางการแพทย์และแรงงานรากหญ้า ได้ฟันฝ่าอุปสรรคความยากลำบากอย่างกล้าหาญและไม่ท้อถอย” สี กล่าว
“เวลานี้มาตรการควบคุมและป้องกันโรคกำลังเข้าสู่เฟสใหม่ แต่เรายังคงต้องต่อสู้ ทุกคนยังต้องพยายามและทำงานอย่างหนักเพื่อรุ่งอรุณที่รอคอยอยู่เบื้องหน้า ขอให้พวกเราทั้งหลายทุ่มเทกันให้มากขึ้น ความวิริยะอุตสาหะย่อมหมายถึงความสำเร็จ และความสามัคคีย่อมหมายถึงชัยชนะ”
แม้ยอดผู้ป่วยในจีนจะยังคงพุ่งสูง ทว่าผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์จีนส่วนใหญ่ รวมถึงคนในเมืองอู่ฮั่นซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นการระบาดของโควิด-19 เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ยังคงมีความหวังว่าวิถีชีวิตของพวกเขาจะกลับคืนสู่ภาวะปกติในปี 2023
ที่มา: รอยเตอร์