xs
xsm
sm
md
lg

เจ็บตายครึ่งร้อย! เซเลนสกีโวยรัสเซียถล่มเคียร์ซอนวันคริสต์มาสอีฟ เร้าประชาชนฉลองสู้ความทุกข์ทรมาน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ประณามรัสเซีย "ก่อการร้าย" หลังยิงปืนใหญ่ถล่มเมืองเคียร์ซอนในวันเสาร์ (24 ธ.ค.) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 10 ราย และบาดเจ็บ 55 คน พร้อมเร่งเร้าเพื่อร่วมชาติในวันคริสต์มาสอีฟ ให้ยืนหยัดอดทนผ่านพ้นฤดูหนาวอันสาหัส ท่ามกลางการโจมตีทำลายล้างของฝ่ายรัสเซีย อย่างไรก็ตามเครมลินตอบโต้กลับคำกล่าวหา โดยบอกว่ามันเป็นฝีมือการจัดฉากของทางเคียฟ

ในวาระครบรอบ 10 เดือนนับตั้งแต่รัสเซียเริ่มเปิดฉากรุกรานยูเครน ห่ากระสุนปืนใหญ่ตกใส่ตลาดอันพลุกพล่านแห่งหนึ่งและโหมกระพือไฟลุกไหม้จุดหนึ่งในเมืองท่าทางภาคใต้แห่งนี้ ซึ่งกองกำลังเคียฟเพิ่งยึดคืนมาได้ในเดือนพฤศจิกายน

ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีซึ่งอยู่ ณ ที่เกิดเหตุ รายงานว่า พบเห็นร่างไร้วิญญาณหลายศพนอนอยู่บนถนน ในนั้นรวมถึงชายคนหนึ่งที่เสียชีวิตในรถยนต์ ขณะเดียวกัน พบเห็นหน่วยกู้ภัยและตำรวจกำลังช่วยปลอบโยนชายคนหนึ่งที่กำลังร่ำไห้อย่างหนักอยู่ใกล้ๆ กับร่างไร้ชีวิตของผู้หญิงรายหนึ่ง

นอกจากผู้เสียชีวิตแล้ว ยังพบเห็นชาวบ้านผู้ได้รับบาดเจ็บหลายคนนอนอยู่บนพื้น กระตุ้นให้ทีมแพทย์ฉุกเฉินมุ่งตรงไปช่วยเหลือคนเหล่านั้น

แม้รัสเซียถอยร่นไปจากเมืองแห่งนี้แล้ว แต่เคียร์ซอนยังคงอยู่ในระยะทำการของอาวุธรัสเซียและอยู่ภายใต้ภัยคุกคามอย่างไม่ลดละ

เซเลนสกี ระบุผ่านเทเลแกรมเรียกการโจมตีนี้ว่า "ก่อการร้ายเพื่อการข่มขู่และความพึงพอใจ มันคือชีวิตจริงของชาวยูเครน โลกต้องได้เห็นและตระหนักว่าเรากำลังต่อสู้กับปีศาจแบบไหน" เขากล่าว

อย่างไรก็ตาม วลาดืมีร์ ซัลโด ผู้บริหารแคว้นเคียร์ซอนที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัสเซีย กล่าวผ่านเทเลแกรม ว่า เหตุระดมยืงปืนใหญ่ "เป็นการยั่วยุอย่างน่าสะอิดสะเอียน" จากฝ่ายยูเครน เพื่อใช้กล่าวโทษรัสเซีย

ยาโรสลาฟ ยานูเชวีช ผู้ว่าการแคว้นรายงานผ่านเทเลแกรม ว่า มีประชาชน 10 คนเสียชีวิตและบาดเจ็บ 55 คน ในเหตุโจมตีในเมืองเคียร์ซอน ในนั้น 18 รายอาการสาหัส

หน่วยฉุกเฉินเผยว่า มีเหตุไฟลุกไหม้รถยนต์ 66 คันในพื้นที่ชุมชนแห่งหนึ่งของเมืองเคียร์ซอน สืบเนื่องจากกระสุนปืนใหญ่ ทั้งนี้ พวกเขาสามารถดับไฟได้ราว 40 นาทีหลังจากนั้น แต่ยังไม่สามารถยืนยันเกี่ยวกับตัวเลขผู้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บ


ดมีโทร คูเลบา รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครนเขียนบนทวิตเตอร์ "ขณะที่ครอบครัวต่างๆ ในยุโรป อเมริกาเหนือ และที่อื่นๆ เตรียมดินเนอร์ฉลองเทศกาล ขอให้คิดถึงยูเครนที่กำลังอยู่ในสถานการณ์เลวร้าย กำลังสู้รบกับปีศาจอยู่ในเวลานี้"

ในการปราศรัยกับประชาชนทั่วประเทศ เนื่องในวันคริสต์มาสอีฟ เซเลนสกีเรียกร้องเพื่อนร่วมชาติอดทนผ่านพ้นฤดูหนาวอันสาหัส แม้ต้องอยู่โดยไร้บุคคลอันเป็นที่รักที่เสียชีวิตแล้ว หรือหลบหนีไปยังต่างแดน ไม่มีไฟฟ้าใช้ ถูกทำลายล้างและคุกคามจากกระสุนปืนใหญ่

"น้ำตาจะถูกแทนที่ด้วยความสนุกสนาน ความสิ้นหวังจะตามมาด้วยความหวัง และความตายจะถูกพิชิตด้วยการมีชีวิต" เขากล่าว "เราจะฉลองเทศกาลวันหยุดของเราอย่างที่ทำมาเสมอ เราจะยิ้มและมีความสุขอย่างที่ทำมาเสมอ สิ่งที่ต่างออกไปคือ เราจะไม่รอปาฏิหาริย์ เพราะว่าเราจะสร้างปาฏิหาริย์ด้วยตนเอง"

ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ในเดือนกันยายน ประกาศผนวก 4 แคว้นทางตะวันออกและภาคใต้ของยูเครน เข้าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดน ในนั้นรวมถึงแคว้นเคียร์ซอน หลังจากตัวแทนของมอสโกจัดทำประชามติในแคว้นเหล่านั้น ความเคลื่อนไหวที่ถูกประณามจากเคียฟ และตะวันตก

ทหารรัสเซียยังไม่เคยยึดครองดินแดนไหนๆ อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด และเมื่อเดือนที่แล้ว พวกเขาถูกบีบให้ล่าถอยออกจากแคว้นเคียร์ซอน หลังจากถูกฝ่ายยูเครนปฏิบัติการโจมตีตอบโต้สายฟ้าแลบ

อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่นั้น เคียร์ซอนก็ถูกทิ้งบอมบ์และยิงระเบิดโจมตีมาอย่างต่อเนื่อง ก่อความสูญเสียอย่างหนักในแง่ของชีวิตพลเรือน เช่นเดียวกับความเสียหายทางอุปทานไฟฟ้าที่จ่ายป้อนเมืองแห่งนี้

แค่ในวันศุกร์ (23 ธ.ค.) วันเดียว รัสเซียโจมตีเป้าหมายต่างๆ ในแคว้นเคียร์ซอน 74 จุด ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย และบาดเจ็บ 17 คน

พื้นที่ส่วนใหญ่ของยูเครนยังคงปราศจากความร้อนและไฟฟ้า ท่ามกลางอุณหภูมิหนาวเหน็บต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง หลังจากมอสโกหันมาโจมตีระบบไฟฟ้าและน้ำของประเทศ เมื่อราวเกือบ 2 เดือนก่อน

หัวหน้าหน่วยงานด้านสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เตือนว่าปฏิบัติการโจมตีดังกล่าวก่อความทุกข์ยากอย่างแสนสาหัสแก่ชาวยูเครนในฤดูหนาวนี้ และยังส่งเสียงคร่ำครวญเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่กองกำลังรัสเซียก่ออาชญากรรมสงคราม

เหตุโจมตีล่าสุดนี้มีขึ้นไม่กี่วันหลังจาก เซเลนสกี เดินทางไปยังทำเนียบขาว เพื่อพบปะกับประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ และเรียกร้องสำหรับแพกเกจช่วยเหลือทางทหารและเศรษฐกิจรอบใหม่สำหรับยูเครน มูลค่า 44,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมันผ่านความเห็นชอบจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของอเมริกาในวันศุกร์ (23 ธ.ค.)

(ที่มา : เอเอฟพี)


กำลังโหลดความคิดเห็น