ในขณะที่นักลงทุน และภาคธุรกิจต่างขานรับท่าทีของจีนที่เริ่มผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 ทั้งในแง่ของการตรวจเชื้อในประชากรจำนวนมากและการกักตัว แต่เจ้าหน้าที่การแพทย์ระดับสูงของจีนเองได้ออกมาเตือนแล้วว่า การปลดล็อกครั้งนี้มี “ราคา” ที่ต้องจ่าย และจีนจะต้องเตรียมรับมือกับยอดผู้ติดเชื้อที่อาจเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเป็นเท่าทวีคูณ หลังจากที่ผู้คนกลับมาใช้ชีวิตแบบไร้ข้อจำกัดมากขึ้น
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (7 ธ.ค.) รัฐบาลจีนได้ประกาศเปลี่ยนแปลงมาตรการควบคุมโควิด-19 ขนานใหญ่ โดยให้ผู้ติดเชื้อที่อาการไม่หนักหรือไม่แสดงอาการสามารถกักตัวที่บ้านได้ ขณะที่เจ้าหน้าที่จะไม่ขอดูผลตรวจ PCR Test และไม่ต้องแสดงแอปตรวจสอบสถานะสุขภาพเพื่อเข้าใช้สถานที่สาธารณะหรือเดินทางระหว่างเมืองต่างๆ ในจีนอีกต่อไป ส่วนมาตรการล็อกดาวน์จะบังคับใช้ในพื้นที่จำกัด เช่น เฉพาะบางชั้นในอาคาร แทนที่จะสั่งปิดพื้นที่ทั้งเขตเหมือนที่เคยทำมา
เฟิง ซิเจียน (Feng Zijian) อดีตรองผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของจีน (CDC) ซึ่งเป็นหนึ่งในที่ปรึกษาด้านการแพทย์คนสำคัญของปักกิ่ง ออกมาทำนายเมื่อวันอังคาร (7) ว่า ชาวจีน 60% อาจติดโควิด-19 ในช่วงระยะแรกที่รัฐบาลผ่อนคลายการคุมเข้ม และหลังจากนั้นเชื้อจะแพร่กระจายจนอาจทำให้ประชากรจีนติดเชื้อกันมากถึง 90%
“การติดเชื้อคงจะเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อีกต่อไปสำหรับพวกเราส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะมีการปรับมาตรการต่อสู้โควิด-19 อย่างไรก็ตามที” เฟิง ระบุ
ตัวเลขผู้ติดเชื้อที่จะเพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้นี้จะกลายเป็นบททดสอบที่ท้าทายอย่างยิ่งต่อนโยบาย “โควิดเป็นศูนย์” ของจีน ซึ่งใช้วิธีล็อกดาวน์ ระดมตรวจเชื้อ และปิดพรมแดนเข้มงวด จนสามารถยับยั้งการแพร่ระบาดใหญ่มาได้โดยตลอด
กระนั้นก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าการควบคุมโรคได้เป็นอย่างดีนี้ส่งผลทำให้ประชากรจีน “ขาดภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติ” อย่างที่ประชากรของชาติอื่นๆ เริ่มมีกันแล้ว และอาจทำให้โควิด-19 ยิ่งแพร่กระจายเร็วขึ้นหลังจากที่รัฐผ่อนคลายข้อจำกัด
ธนาคารโกลด์แมนแซคส์ซึ่งเป็นวาณิชธนกิจรายใหญ่ของสหรัฐฯ ระบุในผลวิจัยที่เผยแพร่เมื่อวันอาทิตย์ที่แล้ว (4) ว่า จีน “อาจพบผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นวันละหลายล้านคน” ในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้า
อัตราการฉีดวัคซีนที่ยังคงต่ำในกลุ่มผู้สูงวัยทำให้การระบาดของโควิด-19 ยิ่งเป็นเรื่องน่ากังวลสำหรับแดนมังกร โดยปัจจุบันมีคนจีนที่อายุเกิน 80 ปีเพียง 40% เท่านั้นที่ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นแล้ว
แม้รัฐบาลจีนจะตั้งเป้าหมายเร่งฉีดวัคซีนในกลุ่มผู้สูงวัย แต่ก็อาจจะยังไม่เร็วพอ
อลิเซีย การ์เซีย-เฮอร์เรโร นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสจากธนาคารเพื่อการลงทุน Natixis บอกกับสื่อ Fortune ว่า จีนอาจฉีดวัคซีนครอบคลุมผู้สูงวัยที่อายุเกิน 80 ปีได้ถึง 70% ภายในสิ้นปีนี้หากว่ารีบเร่งจริงๆ แต่ถึงกระนั้น “ก็อาจจะยังมีคนชราที่ล้มตายเป็นจำนวนมาก”
มีแบบจำลองสถานการณ์หนึ่งที่ประเมินว่า จีนจะมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 มากถึง 20,000 คนต่อวัน หากยังคงเดินหน้าเปิดประเทศในอัตราเร็วเท่าที่เป็นอยู่ ขณะที่ แอนโทนี เฟาซี ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อแถวหน้าของสหรัฐฯ และหัวหน้าคณะที่ปรึกษาด้านการแพทย์ของทำเนียบขาว ออกมาเตือนความเสี่ยงที่เชื้อจะเกิดการ “กลายพันธุ์” เพิ่มขึ้น หากโควิด-19 ในจีนแพร่ระบาดอย่างควบคุมไม่ได้
ที่มา : Fortune