ราคาน้ำมันขยับแรงในวันพุธ (7 ธ.ค.) แตะระดับต่ำสุดในรอบปี ทรุดตัวลงครืนเกือบทั้งหมดจากที่ดีดตัวขึ้นมาต่อเนื่องนับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครน ที่ซ้ำเติมวิกฤตอุปทานทางพลังงานโลกครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบหลายทศวรรษ ส่วนวอลล์สตรีททรงตัวและทองคำปิดบวก 2 วันติด ยังกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุก
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมกราคม ลดลง 2.24 ดอลลาร์ ปิดที่ 72.01 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ปรับลดต่อเนื่อง หลังจากทำสถิติต่ำสุดนับตั้งแต่เข้าสู่ปี 2022 ไปหนึ่งวันก่อนหน้านี้ ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 2.18 ดอลลาร์ ปิดที่ 77.17 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคยแตะระดับต่ำสุดในรอบปี ในวันแรกของปี 2022 ที่ 78.98 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันโลกเคยพุ่งแตะระดับเกือบ 140 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในเดือนมีนาคม เฉียดใกล้สถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ตามหลังสิ่งที่รัสเซียเรียกว่าปฏิบัติการพิเศษด้านการทหารในยูเครน
อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันขยับลงต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ ขณะที่บรรดานักเศรษฐศาสตร์แสดงความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตที่อ่อนแอของเศรษฐกิจโลก สืบเนื่องจากราคาพุ่งสูง ขณะเดียวกัน การดิ่งลงในวันพุธ (7 ธ.ค.) ยังถูกฉุดจากข้อมูลคลังปิโตรเลียมสำรองของสหรัฐฯ
สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานแห่งสหรัฐฯ (อีไอเอ) รายงานพบคลังน้ำมันกลั่นสำรอง ที่ประกอบด้วยดีเซลและน้ำมันทำความร้อน เพิ่มขึ้นถึง 6.2 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดหมายไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นราวๆ 2.2 ล้านบาร์เรล ส่วนคลังเบนซินสำรองก็เพิ่มขึ้น 5.3 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดหมายกว่าเท่าตัว
ข้อมูลคลังสำรองของน้ำมันทั้ง 2 ชนิดเป็นปัจจัยที่ถ่วงตลาด แม้อีกด้านหนึ่งทางอีไอเอจะพบว่าคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศจะลดลงถึง 5.2 ล้านบาร์เรลก็ตาม
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทรงตัวในกรอบแคบๆ วันพุธ (7 ธ.ค.) ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน นักลงทุนพยายามควานหาทิศทางที่ชัดเจนว่า การเดินหน้านโยบายปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกของเฟดจะส่งผลกระทบมากน้อยแค่ไหนต่อบรรดาบริษัทสหรัฐฯ
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 1.58 จุด (0.00 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 33,597.92 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 7.34 จุด (0.19 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,933.92 จุด แนสแดค ลดลง 56.34 จุด (0.51 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 10,958.55 จุด
มีความกังวลว่าเฟดจะเดินหน้าวิถีการปรับขึ้นดอกเบี้ยเชิงรุกเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน หลังข้อมูลเมื่อเร็วๆ นี้พบตัวเลขภาคบริการและการจ้างงานออกมาแข็งแกร่ง
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกฉุดจากความคิดเห็นในแง่ลบของบรรดาผู้บริหารระดับสูงของสถาบันการเงินทั้งหลาย ที่บอกว่ามีความเป็นไปได้มากขึ้นเล็กน้อยว่าเศรษฐกิจกำลังมุ่งหน้าสู่ภาวะถดถอย
ความเคลื่อนไหวของตลาดทุนผลักให้นักลงทุนหันถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ และดันราคาทองคำในวันพุธ (7 ธ.ค.) ปิดบวก 2 วันติดต่อกัน โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 15.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,798.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา : รอยเตอร์)