ราคาน้ำมันขยับลงกว่า 3% ในวันจันทร์ (5 ธ.ค.) หลังข้อมูลภาคบริการอเมริกา ก่อความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจเดินหน้าในนโยบายปรับขึ้นดอกเบี้ยเชิงรุก ปัจจัยนี้ฉุดวอลล์สตรีทปิดลบและทองคำปรับลดต่ำกว่า 1,800 ดอลลาร์อีกครั้ง
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมกราคม ลดลง 3.05 ดอลลาร์ ปิดที่ 76.93 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 2.89 ดอลลาร์ ปิดที่ 82.68 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
กิจกรรมอุตสาหกรรมบริการสหรัฐฯ ดีดตัวขึ้นผิดคาดในเดือนพฤศจิกายน และการจ้างงานฟื้นตัว มอบหลักฐานเพิ่มเติมเน้นย้ำแนวโน้มที่ดีของเศรษฐกิจ
ข้อมูลดังกล่าวบ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ที่เฟดอาจเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยเชิงรุก ท่ามกลางสัญญาณเมื่อเร็วๆ นี้ ที่พบว่าภาวะเงินเฟ้อเริ่มเบาลงแล้ว แต่มันนำมาซึ่งการคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจของสหรัฐฯ อาจดำดิ่งสู่ภาวะถดถอยในปีหน้า
ดัชนีภาคบริการของสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 56.5 ในเดือนพฤศจิกายน จาก 54.4 ในเดือนตุลาคม ผลักนักลงทุนเมินสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ และฉุดให้ราคาทองคำในวันจันทร์ (5 ธ.ค.) ขยับลง โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 28.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,781.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบในวันจันทร์ (5 ธ.ค.) ข้อมูลภาคบริการที่แข็งแกร่งเกินคาดหมายของอเมริกา ทำให้นักลงทุนต้องประเมินใหม่เกี่ยวกับนโยบายอัตราดอกเบี้ยของเฟด ในขณะที่หุ้นของเทสลา ขยับลง ตามรายงานข่าวปรับลดกำลังผลิตในจีน
ดาวโจนส์ ลดลง 482.78 จุด (1.40 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 33,947.10 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 72.86 จุด (1.79 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,998.84 จุด แนสแดค ลดลง 221.56 จุด (1.93 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 11,239.94 จุด
เทสลา ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าปิดลบแรงและเป็นตัวฉุดสำคัญของดัชนีแนสแดคให้ดิ่งลงหนัก 2 วันติด หลังพวกเขาเผยว่ามีแผนลดกำลังผลิตรถรุ่น Model Y ที่โรงงานในเซี่ยงไฮ้ มากกว่า 20% จากหนึ่งเดือนก่อนหน้านี้
คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ มีกำหนดประชุมกันในวันที่ 13-14 ธันวาคม ในการประชุมครั้งสุดท้ายของปีที่เต็มไปด้วยความผันผวน ซึ่งเห็นเฟดพยายามสกัดเงินเฟ้อที่พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบหลายทศวรรษ ด้วยการปรับขึ้นดอกเบี้ยมากสุดเป็นประวัติการณ์
เวลานี้นักลงทุนมองว่ามีโอกาส 89% ที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ในสัปดาห์หน้า สู่ระดับ 4.25%-4.50% และจุดพีกสุดของอัตราดอกเบี้ยน่าจะอยู่ที่ 4.984% ในเดือนพฤษภาคม 2023
การปรับขึ้นดอกเบี้นเชิงรุกก่อความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจขาลง โดยเจพีมอร์แกน ซิตีกรุ๊ป และแบล็คร็อคต่างมองว่ามีความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจอเมริกาจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในปีหน้า
(ที่มา : รอยเตอร์)