บริษัท ฟ็อกซ์คอนน์ (FoxConn) ประกาศจ่าย "โบนัส" ให้พนักงานที่ยังสมัครใจทำงานที่โรงงานไอโฟนในเมืองเจิ้งโจว สูงสุดรายละเกือบ 6.5 หมื่นบาทต่อเดือน โดยหวังคงจำนวนพนักงานเอาไว้ให้ได้มากพอที่จะฟื้นสายการผลิตกลับสู่ภาวะปกติ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ฟ็อกซ์คอนน์หรือ Hon Hai Precision Industry Co ประกาศเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า จะจ่ายเงินโบนัสพิเศษสูงสุด 13,000 หยวน (ราว 64,400 บาท) ต่อเดือน ระหว่างเดือน ธ.ค.-ม.ค. สำหรับพนักงาน full-time ที่เข้าทำงานในบริษัทตั้งแต่ต้นเดือน พ.ย. หรือก่อนหน้านั้น
ย้อนไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ฟ็อกซ์คอนน์ได้ยอมจ่ายโบนัสก้อนโตให้พนักงานที่สมัครใจ “ลาออก” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อโละพวกพนักงานใหม่ๆ ที่ลุกฮือประท้วงเรื่องค่าแรง และต่อต้านมาตรการล็อกดาวน์โควิด
การที่ฟ็อกซ์คอนน์ใช้โบนัสล่อใจพนักงานเช่นนี้สะท้อนให้เห็นว่า บริษัทกำลังพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะฟื้นสายการผลิตไอโฟนที่โรงงานเจิ้งโจวอย่างเต็มรูปแบบให้ได้โดยเร็วที่สุด หลังจากที่ใช้มาตรการล็อกดาวน์โควิด-19 เข้มงวดจนพนักงานแห่หลบหนี และยังเกิดเหตุปะทะรุนแรงระหว่างพนักงานกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ทั้งนี้ โรงงานฟ็อกซ์คอนน์ที่เจิ้งโจวเป็นฐานผลิตไอโฟนที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเคยมีการว่าจ้างพนักงานมากถึง 200,000 คน ทว่าเหตุประท้วงที่เกิดขึ้นทำให้มีพนักงานใหม่เก็บข้าวของออกจากโรงงานไปแล้วมากกว่า 20,000 คน
แอปเปิล (Apple) ระบุว่า ได้มีการประสานงานอย่างใกล้ชิดกับฟ็อกซ์คอนน์เพื่อฟื้นกำลังการผลิตสู่ระดับปกติ และทั้ง 2 บริษัทยืนยันว่าจะยังคงเน้นเรื่องความปลอดภัยของพนักงานเป็นสำคัญ
iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max กลายเป็นโทรศัพท์มือถือของแอปเปิลที่ตลาดต้องการมากที่สุดในปีนี้ และมีส่วนช่วยชดเชยยอดขายที่ซบเซาสำหรับ iPhone 14 รุ่นปกติ แต่ขณะเดียวกัน เหตุวุ่นวายในโรงงานฟ็อกซ์คอนน์ที่เจิ้งโจว ก็เป็นสัญญาณเตือนว่าแอปเปิลจะต้องเผชิญความเสี่ยงมากขนาดไหนหากยังเน้นพึ่งฐานการผลิตในจีน ท่ามกลางนโยบายและความสัมพันธ์การค้าที่ผันผวนยากจะคาดเดา
แอปเปิลแถลงเตือนในเดือนนี้ว่า สถานการณ์ที่เจิ้งโจวอาจจะทำให้กำลังจัดส่งไอโฟนรุ่นพรีเมียมลดลงกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งถือเป็นข่าวร้ายในขณะที่ทั่วโลกเริ่มเข้าสู่ฤดูกาลชอปปิ้งส่งท้ายปี
นักวิเคราะห์จากมอร์แกน สแตนลีย์ ได้ปรับลดคาดการณ์กำลังผลิต iPhone 14 Pro สำหรับไตรมาสนี้ลง 6 ล้านเครื่อง ซึ่งหากสถานการณ์เลวร้ายลงถึงขั้นที่โรงงานเจิ้งโจวต้องใช้มาตรการล็อกดาวน์ต่อเนื่องจนส่งผลกระทบต่อกระบวนการผลิต จะทำให้ฟ็อกซ์คอนน์เสี่ยงสูญเสียรายได้จากการผลิตไอโฟนถึง 36% หรือ 20% ของยอดขายทั้งหมดในไตรมาสปัจจุบัน
ที่มา : Bloomberg
