ชาวยูเครนพร้อมยืนหยัดรับมือกับวิกฤตขาดแคลนความร้อนและไฟฟ้าดับเป็นเวลานานหลายปี หากว่าท้ายที่สุดแล้วประเทศแห่งนี้ได้รับอนุญาตให้เข้าเป็นสมาชิกอียู จากคำกล่าวอ้างของ โอเลนา เซเลนสกา สุภาพสตรีหมายเลข 1 ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบีบีซีในวันศุกร์ (25 พ.ย.)
ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนอังกฤษ หลังจากรัสเซียปฏิบัติการโจมตีทางอากาศถล่มที่ตั้งทางพลังงานของยูเครน ต่อเนื่องมานานหลายสัปดาห์ เซเลนสกา กล่าวว่า ชาวยูเครนพร้อมอดทนกับฤดูหนาวอันทารุณ หากว่าการเสนอตัวเข้าเป็นสมาชิกอียูของประเทศประสบความสำเร็จ
ภริยาของประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี อ้างถึงผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเมื่อเร็วๆ นี้ ที่พบว่าชาวยูเครน 90% พร้อมรับมือกับปัญหาขาดแคลนไฟฟ้าและความร้อนเป็นเวลา 2 หรือ 3 ปี หากว่าประเทศของพวกเขาสามารถกลายเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรปได้หลังจากนั้น "เราเผชิญความท้าทายเลวร้ายมากมายเหลือเกิน พบเห็นเหยื่อมากมาย การทำลายล้างมหาศาล ดังนั้นไฟฟ้าดับจึงไม่ใช่สิ่งเลวร้ายที่สุดที่เกิดขึ้นกับเรา" เธอบอกกับบีบีซี
ภายใต้แรงสนับสนุนของ อัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ทางยูเครนได้ยื่นสมัครเข้าเป็นสมาชิกอียูในเดือนกุมภาพันธ์ และทางอียูรับรองพวกเขาในสถานะชาติผู้สมัครในเดือนมิถุนายน อย่างไรก็ตาม เคียฟไม่สามามารถเข้าร่วมกันระหว่างที่พัวพันกับความขัดแย้งติดอาวุธกับรัสเซีย และชาติสมาชิกบางส่วนยังชี้ว่ายูเครนจำเป็นต้องถอนรากถอนโคนคอรฺรัปชัน ขจัดประวัติละเมิดสิทธิมนุษยชน และเพิ่มความเข้มแข็งแก่หลักนิติรัฐ แล้วพวกเขาถึงจะพิจารณารับเคียฟเป็นชาติสมาชิก
ท่ามกลางอุณหภูมิดำดิ่งในยูเครน รัสเซียยังคงเดินหน้าปฏิบัติการโจมตีเป้าหมายที่มีความสำคัญด้านการทหารทั่วประเทศ ในนั้นรวมถึงโรงไฟฟ้าและโรงก๊าซ และเมื่อวันพุธ (23 พ.ย.) รัสเซียยิงขีปนาวุธโจมตีขนานใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา เล็งเป้าเล่นงานโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ในกรุงเคียฟ คาร์คอฟ โอเดสซา ลวิว และเมืองอื่นๆ
วิตาลี คลิตช์โก นายกเทศมนตรีกรุงเคียฟในวันพฤหัสบดี (24 พ.ย.) ระบุว่า 70% ของเมืองหลวงยูเครน ต้องอยู่โดยปราศจากไฟฟ้าใช้ ตามหลังการโจมตีดังกล่าว ส่วนซีอีโอของบริษัทสาธารณูปโภคทางพลังงานเอกราชรายใหญ่ที่สุดของยูเครน เรียกร้องเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ให้พลเมืองพิจารณาเดินทางออกนอกประเทศในช่วงฤดูหนาว เพื่อลดภาระของโครงข่ายทางพลังงานที่ถูกโจมตีจนเสียหายยับเยิน
รัสเซียเปิดปฏิบัติการถล่มโครงสร้างพื้นฐานทางพลังงานของยูเครนมาตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคม หลังกล่าวหาเคียฟโจมตีก่อการร้ายใส่โครงสร้างพื้นฐานของรัสเซีย ในนั้นรวมถึงสะพานไครเมีย ที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์อย่างมาก
(ที่มา : อาร์ทีนิวส์)