เอาแบบยูเครน! ปธน.ไต้หวันเล็งขอความช่วยเหลือตะวันตก หากถูกจีนยกพลรุกราน

ไช่ อิงเหวิน ประธานาธิบดีไต้หวัน ให้สัมภาษณ์กับนิตยสารฉบับหนึ่งของสหรัฐฯ เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ว่ามี "ความเสี่ยงอย่างแท้จริง" ในการรุกรานของจีน แม้ปักกิ่งยืนกรานจะมุ่งมั่นรวมชาติไต้หวันด้วยสันติวิธี แต่หากความขัดแย้งปะทุขึ้น เธอก็จะไม่รีรอที่จะมองหาความช่วยเหลือจากตะวันตก

ในบทความที่เขียนโดย เบน โรดส์ ผู้ประพันธ์คำกล่าวสุนทรพจน์ของบารัค โอบามา และอดีตรองที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ นางไช่ กล่าวกับนิตยสารดิแอตเลติก ว่า "เราจำเป็นต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับความเป็นไปได้ที่จีนจะรุกราน มันเป็นเรื่องจริงที่สิ่งเหล่านี้อาจเกิดขึ้นกับเรา" เธอระบุ พร้อมบอกต่อว่า "มีภัยคุกคามอย่างแท้จริง มันไม่ใช่เรื่องที่พูดเกินจริง"

ไต้หวันปกครองตนเองมาตั้งแต่กองกำลังชาตินิยมที่นำโดย เจียง ไคเช็ก หลบหนีไปยังเกาะแห่งนี้ในปี 1949 หลังจากพ่ายแพ้ในสงครามกลางเมืองแก่คอมมิวนิสต์ จุดยืนของปักกิ่งคือไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งที่ขาดไม่ได้ของจีน หรือที่เรียกว่านโยบายจีนเดียว และการรวมชาติเป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ทั้งนี้ในสมุดปกขาวที่เผยแพร่ในเดือนสิงหาคม เน้นย้ำว่าปักกิ่งมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายรวมชาติอย่างสันติ แต่ก็สงวนไว้ซึ่งการใช้กำลัง

ด้วยที่กองทัพจีนมีความใหญ่โตมากมายกว่าไต้หวันหลายเท่า นางไช่ จึงเพิ่มการใช้จ่ายด้านกลาโหมถึง 13% และจะทุ่มงบประมาณ 19,000 ดอลลาร์สหรัฐในด้านการทหารในปี 2023 โดยในบทความของโรดส์ เชื่อว่าเป้าหมายของนางไช่ คือทำให้จีนชดใช้ราคาแพงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ หากเปิดฉากรุกรานไต้หวัน

"ถ้ากองทัพปลดแอกประชาชนจีน อยากทำบางอย่างที่น่าตื่นตะลึง ประธานาธิบดีจี สิ้นผิง จำเป็นต้องตระหนักถึงผลที่ต้องชดใช้" ไช่ ให้สัมภาษณ์กับเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวรายนี้ "เขาจำเป็นต้องคิดทบทวนให้ดี"

อย่างไรก็ตาม แม้กระทั่งเพิ่มการใช้จ่ายด้านกลาโหมในระดับเลข 2 หลัก ประกอบกับสหรัฐฯ อนุมัติขายอาวุธมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์แก่ไต้หวันในเดือนกันยายน แต่ ไช่ ก็จะยังคงต้องการให้ตะวันตกมอบเงินทุนสนับสนุนกองทัพไต้หวัน อย่างที่พวกเขากำลังดำเนินการกับกองกำลังยูเครนอยู่ ณ เวลานี้

"บรรดาประเทศตะวันตก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสหรัฐฯ กำลังช่วยเหลือยูเครน สิ่งที่เราเห็นจากสงครามยูเครนคือ บรรดาประเทศตะวันตกร่วมมือกันและช่วยยูเครนสู้รบ" เธอกล่าว

รัฐบาลสหรัฐฯ ให้การยอมรับอย่างเป็นทางการ แต่ไม่รับรองอำนาจอธิปไตยของจีนเหนือไต้หวัน นับตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1970 และในขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ให้คำสัญญาในหลายๆ วาระ ว่ากองทัพอเมริกาจะช่วยปัดเป่าการรุกรานของจีน ทว่าจากนั้นไม่นาน เหล่าผู้ช่วยระดับสูงในทำเนียบขาวก็มักออกมากลับลำในทุกครั้ง

ไม่นานหลังจาก ไช่ ให้สัมภาษณ์กับ โรดส์ ทางจีนได้เปิดงานนิทรรศการทางอากาศ ซึ่งจัดขึ้นในทุก 2 ปี โดยปีนี้ได้มีการจัดแสดงอาวุธต่อต้านโดรน ฝูงรบขับไล่รุ่นที่ 5 และขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกต่อต้านเรือ พวกนักวิเคราะห์มองว่าการโชว์กล้ามของกองทัพจีนในครั้งนี้เป็นการส่งสัญญาณเตือนไปยังตะวันตก ว่าอย่าได้แทรกแซงความพยายามรวมชาติกับไต้หวัน

(ที่มา : อาร์ทีนิวส์)