ผลสำรวจล่าสุดเผยคะแนนนิยมของประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ลดลงไปอยู่ที่ 39% เกือบแตะระดับต่ำสุดตั้งแต่เป็นผู้นำสหรัฐฯ มา สะท้อนมุมมองนักวิเคราะห์ว่าศึกเลือกตั้งกลางเทอมวันที่ 8 พ.ย. น่าจะเป็นศึกหนักที่ทำให้พรรคเดโมแครตของ ไบเดน เข้าขั้น "สะบักสะบอม"
ผลสำรวจความคิดเห็นโดยรอยเตอร์/อิปซอสซึ่งเผยแพร่เมื่อวานนี้ (7 พ.ย.) พบว่า คะแนนนิยมในการทำงานของ ไบเดน ลดลงไปอีก 1 จุด ใกล้แตะระดับต่ำสุดตั้งแต่เป็นประธานาธิบดี ซึ่งทำให้หลายฝ่ายยิ่งเชื่อว่ารีพับลิกันมีโอกาสสูงมากที่จะพลิกกลับมาครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร หรือแม้แต่กระทั่งวุฒิสภาด้วยในวันอังคาร (8)
ศูนย์เพื่อการเมืองแห่งมหาวิทยาลัยเวอร์จิเนียคาดการณ์ว่า พรรครีพับลิกันจะเป็นฝ่ายชนะได้ครองเสียงส่วนใหญ่ในสภาล่าง โดยมีจำนวน ส.ส.เพิ่มขึ้น 24 ที่นั่ง และอาจกุมเสียงข้างมากในวุฒิสภาแบบปริ่มๆ น้ำได้ด้วย
ทั้งนี้ หากได้คุมเสียงข้างมาก ไม่ว่าจะสภาใดสภาหนึ่งหรือทั้ง 2 สภา ย่อมจะทำให้พรรครีพับลิกันมีอำนาจพอที่จะขัดขวางร่างกฎหมายสำคัญๆ ที่เสนอโดยคณะบริหารของไบเดน
นับตั้งแต่เข้าดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อเดือน ม.ค. ปี 2021 ซึ่งเป็นช่วงที่สถานการณ์โควิด-19 ในสหรัฐฯ กำลังหนักหน่วง ทีมบริหารของ ไบเดน ก็เผชิญเสียงวิจารณ์ทั้งในแง่ของการรับมือพิษเศรษฐกิจที่เป็นผลพวงจากโรคระบาดใหญ่ และอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงลิ่ว ส่งผลให้ในปีนี้คะแนนนิยมของ ไบเดน เคยดิ่งฮวบลงไปถึงระดับ 36% เมื่อช่วงเดือน พ.ค.-มิ.ย.
ผู้ตอบแบบสำรวจความคิดเห็นราว 1 ใน 3 ยกให้เรื่อง “เศรษฐกิจ” เป็นปัญหาใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ ตอนนี้ รองลงมาคือ ปัญหาอาชญากรรม (1 ใน 10) และการยกเลิกสิทธิทำแท้ง (1 ใน 15) หลังจากที่ศาลสูงสุดสหรัฐฯ ได้มีคำวินิจฉัยคว่ำคำตัดสินของศาลที่เคยคุ้มครองสิทธิของผู้หญิงในการทำแท้งเมื่อเดือน มิ.ย.
โพลรอยเตอร์/อิปซอสถูกจัดทำผ่านระบบออนไลน์ โดยสอบถามความคิดเห็นจากชาวอเมริกันวัยผู้ใหญ่ 1,004 คน แบ่งเป็นฐานเสียงเดโมแครต 424 คน และรีพับลิกัน 390 คน และมีค่าความผิดพลาดบวก-ลบไม่เกิน 4%
ที่มา : รอยเตอร์