อัยการสั่งฟ้อง ‘อีลอน มัสก์’ เลย์ออฟพนักงานทวิตเตอร์ 'ครึ่งบริษัท' โดยไม่แจ้งล่วงหน้า

ทวิตเตอร์ประกาศเลย์ออฟพนักงานราว "ครึ่งหนึ่ง" เมื่อวานนี้ (4 พ.ย.) โดยเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการตัดลดรายจ่าย หลังจากที่มหาเศรษฐี “อีลอน มัสก์” เข้ามาเป็นเจ้าของและผู้บริหารคนใหม่ได้เพียง 1 สัปดาห์

พนักงานทวิตเตอร์จำนวนมากทวีตข้อความในช่วงคืนวันพฤหัสบดี (3) จนถึงเช้าวันศุกร์ (4) ว่า พวกเขาถูก “ล็อกเอาต์” ออกจากบัญชีผู้ใช้อีเมลของบริษัทก่อนจะมีประกาศเลิกจ้างออกมาด้วยซ้ำ ขณะที่บางคนโพสต์อีโมจิรูปหัวใจสีฟ้าและสัญลักษณ์ทำความเคารพเพื่อบ่งบอกว่าพวกเขาโดน “ไล่ออก” เรียบร้อย

จนถึงเช้าวันศุกร์ (4) มีพนักงานทวิตเตอร์จากหลายแผนก เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) การตลาดและการสื่อสาร การค้นหา นโยบายสาธารณะ และอื่นๆ ทวีตยืนยันว่าพวกเขากลายเป็นคนตกงาน ขณะที่ทีมตรวจสอบความน่าเชื่อถือของข้อมูลบนแพลตฟอร์ม ซึ่งรวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับการเลือกตั้งก็ถูกเลย์ออฟบางส่วนเช่นกัน

ทางด้านของ อีลอน มัสก์ ได้ให้สัมภาษณ์ในงานเสวนาด้านการลงทุนเมื่อวันศุกร์ (4) เกี่ยวกับแผนผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่ราคาถูกลง และเป้าหมายในการไปเยือนดาวอังคาร แต่เมื่อถูกถามเรื่องการปลดพนักงานทวิตเตอร์ถึง “ครึ่งบริษัท” เขาก็เพียงแต่พยักหน้า และปฏิเสธที่จะลงรายละเอียด

อย่างไรก็ดี ระหว่างสัมภาษณ์ดูเหมือนว่า มัสก์ จะพยายามชี้ว่า การปลดพนักงาน 50% คือสิ่งจำเป็นสำหรับทวิตเตอร์ ซึ่ง “เผชิญความท้าทายเรื่องรายได้” มาตั้งแต่ก่อนที่ตนจะเข้ามาเป็นผู้บริหาร เนื่องจากความกังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจถดถอยทำให้ยอดซื้อโฆษณาลดลง

มัสก์ ระบุด้วยว่า “ผู้ซื้อโฆษณารายใหญ่ๆ หลายเจ้าหยุดซื้อโฆษณาทางทวิตเตอร์” หลังจากที่ตนเข้าซื้อกิจการสำเร็จ

ทวิตเตอร์มีพนักงานทั่วโลกราว 7,500 คนก่อนที่ มัสก์ จะมาเทกโอเวอร์ ซึ่งเท่ากับว่าจะมีพนักงานที่ถูกเลย์ออฟพร้อมกันในครั้งนี้ประมาณ 3,700 คน

มัสก์ ตั้งเป้าที่จะปรับโครงสร้างธุรกิจของทวิตเตอร์หลังจากที่ทุ่มเงินซื้อกิจการไปด้วยวงเงินถึง 44,000 ล้านดอลลาร์

ทวิตเตอร์ส่งอีเมลภายในถึงพนักงานเมื่อเย็นวันพฤหัสบดี (3) ว่า พวกเขาจะได้รับแจ้งภายในเที่ยงวันศุกร์ (4) เกี่ยวกับสถานะการจ้างงาน โดยกลุ่มที่ไม่ได้ผลกระทบจะได้รับแจ้งผ่านทางบัญชีอีเมลทวิตเตอร์ ส่วนกลุ่มที่โดนเลย์ออฟจะได้รับแจ้งผ่านทางอีเมลส่วนตัวเพื่อระบุว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรต่อไป

พนักงานทวิตเตอร์หลายคนได้รวมตัวกันยื่นฟ้องบริษัทฐานละเมิดกฎหมายว่าด้วยการฝึกอบรมและปรับเปลี่ยนแรงงาน (Worker Adjustment and Retraining Notification Act) ซึ่งกำหนดให้นายจ้างที่ว่าจ้างพนักงานเกิน 100 คนขึ้นไปต้องออกหนังสือแจ้งอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 60 วัน ในกรณีที่จะมีการเลิกจ้างพนักงานเกินกว่า 50 คนขึ้นไป

แชนนอน ลิสส์-ริออร์แดน (Shannon Liss-Riordan) อัยการซึ่งเป็นผู้สั่งฟ้อง ระบุในถ้อยแถลงถึง CNN ว่า “อีลอน มัสก์ ซึ่งเป็นบุคคลร่ำรวยที่สุดในโลก ได้แสดงให้เห็นแล้วว่า เขาถือว่าการปฏิบัติตามกฎหมายแรงงานเป็นเรื่องเล็กน้อย”

“เรายื่นคำร้องต่อศาลส่วนกลางเพื่อให้มั่นใจว่า ทวิตเตอร์จะต้องปฏิบัติตามกฎหมาย และเพื่อปกป้องพนักงานทวิตเตอร์ไม่ให้เสียสิทธิที่พวกเขาพึงมี”

นอกจากถูกฟ้องฐานปลดพนักงานโดยไม่แจ้งล่วงหน้าแล้ว ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายเตือนว่า มัสก์ อาจต้องเผชิญปัญหาอื่นๆ ตามมาในอนาคต ทั้งในแง่ของการดึงดูดกลุ่มคนหัวกะทิให้มาร่วมงานกับทวิตเตอร์ และยังต้องทำให้พนักงานที่เหลืออยู่รู้สึกมั่นคงปลอดภัยในอาชีพด้วย

ที่มา : CNN