ร่วมกดดัน!? ไบเดนพูดคุย ปธน.อิสราเอล หลังยูเครนร้องเลิกเป็นกลางในความขัดแย้งกับรัสเซีย

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหัฐฯ และไอแซก เฮอร์ซอก ผู้นำอิสราเอล พูดคุยหารือกันในวันพุธ (26 ต.ค.) หารือกันเกี่ยวกับกรณียูเครนกำลังเผชิญกับภัยคุกคามหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ จากโดรนโจมตีที่ทางอิหร่านจัดหาให้แก่รัสเซีย ความเคลื่อนไหวซึ่งเกิดขึ้นในขณะที่อิสราเอลตกอยู่ภายใต้แรงกดดันหนักหน่วงขึ้น ให้ละทิ้งจุดยืนเป็นกลางแล้วหันมาช่วยเหลือเคียฟ

เฮอร์ซอก เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาว หลังเสร็จสิ้นการหารือกับไบเดน ว่า การหารือระหว่างพวกเขา ส่วนใหญ่แล้วเป็นการพูดคุยเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน การปราบปรามพวกประท้วงที่ออกมาชุมนุมต่อต้านระบบกฎหมายศาสนาอันเข้มงวดของอิหร่าน และประเด็นที่อิหร่านขายโดรนให้แก่รัสเซีย "อาวุธนี้กำลังเข่นฆ่าพลเมืองยูเครนผู้บริสุทธิ์" เฮอร์ซอก ระบุ

ที่ผ่านมา อิสราเอลลังเลที่จะเข้าร่วมในพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯ ซึ่งกำลังช่วยเหลือยูเครนสกัดการรุกรานนองเลือดของรัสเซีย แต่การเดินทางเยือนกรุงวอชิงตันของเฮอร์ซอกในครั้งนี้ ตอกย้ำความกังวลของอิสราเอลต่อบทบาทที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ของอิหร่านในความขัดแย้งระหว่างเคียฟกับมอสโก ในขณะที่เตหะรานถูกกล่าวหาว่าจัดหาโดรนโจมตีให้แก่รัสเซีย และมอสโกนำมันไปใช้เล่นงานเป้าหมายพลเรือนของยูเครน

ในวันอังคาร (25 ต.ค.) เฮอร์ซอก พบปะพูดคุยกับ แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ และเผยว่าได้แบ่งปันข้อมูลข่าวกรองที่พิสูจน์ให้เห็นว่าอิหร่านกำลังจัดหาโดรนทางทหารให้แก่รัสเซีย

ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ในวันพุธ (26 ต.ค.) แสดงความยินดีต่อความเคลื่อนไหวนี้ พร้อมระบุว่า "มันมีแนวโน้มในทางบวกในความสัมพันธ์กับอิสราเอล หลังจากหยุดยิ่งมาช้านาน ผมเห็นเรากำลังก้าวไปข้างหน้า"

ไบเดน และเฮอร์ซอก ยังได้หารือกันในประเด็นการทะเลาะวิวาทระหว่างอิหร่านกับประชาคมนานาชาติ เกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของเตหะราน ซึ่งทางอิหร่านยืนกรานว่ามันมีจุดประสงค์ในทางพลเรือนเท่านั้น ทั้งนี้ อิสราเอลส่งเสียงคัดค้านรัฐบาลไบเดน ที่พยายามผลักดันคืนชีพข้อตกลงดังกล่าว ซึ่งจะเป็นการส่งคณะผู้ตรวจสอบนานาชาติกลับเข้าไปทำงานในอิหร่าน แลกกับการปลดมาตรการคว่ำบาตร

ระหว่างนั่งอยู่ข้างๆ เฮอร์ซอก ในห้องทำงานรูปไข่ของทำเนียบขาว ทาง ไบเดน ได้กล่าวยกย่องอิสราเอลที่กำลังบรรลุข้อตกลงที่ล่าช้ามานานกับเลบานอน เกี่ยวกับเขตแดนทางทะเลของทั้งสองประเทศ ข้อตกลงที่มีสหรัฐฯ เป็นคนกลาง

ไบเดน กล่าวว่าข้อตกลงด้านเขตแดนใหม่ล่าสุดนี้ จะเปิดทางให้ทั้งสองประเทศพัฒนาแหล่งพลังงาน และจะช่วยสร้างความหวังใหม่และโอกาสใหม่ทางเศรษฐกิจ

ส่วนทาง เฮอร์ซอก แย้มว่า ไบเดน จะเข้าร่วมการประชุมภาวะโลกร้อน COP27 ในอียิปต์ในเดือนหน้า แม้มันยังไม่ได้รับการยืนยันจากทำเนียบขาว พร้อมระบุว่า วิกฤตสภาพภูมิอากาศเป็นตัวหารร่วมกันของมากมายหลายประเทศ

การเดินทางเยือนของ เฮอร์ซอก ครั้งนี้ มีขึ้นไม่กี่วันก่อนถึงศึกเลือกตั้งทั่วไปของอิสราเอล ซึ่งถือเป็นครั้งที่ 5 ในช่วงเวลาแค่ 4 ปีเศษ โดยที่อดีตนายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู ซึ่งเคยมีความสัมพันธ์ตึงเครียดกับรัฐบาลพรรคเดโมแครตของสหรัฐฯ มาหลายยุคหลายสมัย กำลังหาทางกลับเข้าสู่อำนาจอีกครั้ง

ขณะเดียวกัน มันยังเกิดขึ้นไม่ถึง 2 สัปดาห์ ก่อนผู้มีสิทธิออกเสียงชาวสหรัฐฯ จะใช้สิทธิใช้เสียงในศึกเลือกตั้งกลางเทอม ท่ามกลางความคาดหมายว่าพรรคเดโมแครตของไบเดน จะสูญเสียเสียงข้างมากในสภาคองเกรส

"เรามีการเลือกตั้งในอิสราเอล และคุณกำลังเข้าสู่ศึกเลือกตั้งกลางเทอมในสหรัฐฯ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ชัดเจน ผมคิดว่าการเดินทางเยือนครั้งนี้ตอกย้ำถึงมิตรภาพระหว่างเรา สายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของเราที่อยู่เหนือความเห็นต่างทางการเมืองทั้งหมดทั้งมวล" เฮอร์ซอก ระบุ

(ที่มา : รอยเตอร์)