รัฐบาลจีนมีคำสั่งให้รัฐวิสาหกิจผู้นำเข้าก๊าซระงับการจำหน่ายก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ให้ผู้ซื้อทั้งในยุโรปและเอเชีย เพื่อเตรียมกักตุนก๊าซให้เพียงพอสำหรับความต้องการภายในประเทศช่วงฤดูหนาวนี้ ตามรายงานของสำนักข่าวบลูมเบิร์ก
รายงานอ้างแหล่งข่าวซึ่งระบุว่า คณะกรรมาธิการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน (China’s National Development and Reform Commission) ได้ร้องขอให้บริษัท ปิโตรไชน่า (PetroChina) ซิโนเปก (Sinopec) และไชน่า เนชันแนล ออฟชอร์ ออยล์ คอร์ปอเรชัน (Cnooc) เก็บกักก๊าซ LNG ไว้ให้เพียงพอสำหรับการใช้งานในประเทศ
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่บรรดาผู้นำเข้าก๊าซ LNG ของจีนได้ลดปริมาณการนำเข้าลง สืบเนื่องจากการขยายตัวของอุปสงค์ก๊าซลดลงแตะระดับต่ำสุดตั้งแต่ปี 2002 ซึ่งหมายความว่า จีนซึ่งเป็นผู้นำเข้าก๊าซ LNG รายใหญ่ของโลกคงจะหลีกเลี่ยงการแย่งซื้อก๊าซกับบรรดาชาติยุโรปที่กำลังเผชิญวิกฤตขาดแคลนพลังงานสำหรับช่วงฤดูหนาว
ทางการจีนประกาศเมื่อวันจันทร์ (17 ต.ค.) ว่าจะเพิ่มศักยภาพในการจัดหาและกักตุนพลังงานสำหรับใช้ในประเทศ ซึ่งตอกย้ำนโยบายคงอุปทานให้เพียงพอต่อความต้องการ และพยุงราคาวัตถุดิบให้มีเสถียรภาพ
ภาวะเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวสืบเนื่องจากมาตรการคุมโควิด-19 เป็นศูนย์ส่งผลให้ความต้องการใช้ก๊าซภายในประเทศลดลง ขณะที่ผู้นำเข้าก๊าซ LNG ของจีนก็มีสินค้าส่วนเกินเหลือพอที่จะส่งขายซ้ำให้แก่ยุโรปและชาติอื่นๆ
หนังสือพิมพ์นิกเกอิของญี่ปุ่นรายงานว่า ในเดือน ส.ค. คาดว่ามีก๊าซ LNG จากจีนถูกส่งขายต่อมากกว่า 4 ล้านตัน หรือคิดเป็นราวๆ 7% ของปริมาณก๊าซที่ยุโรปนำเข้าในช่วงครึ่งแรกของปีนี้
นับตั้งแต่รัสเซียเริ่มต้นบุกยูเครน จีนได้ฉวยโอกาสกว้านซื้อเชื้อเพลิงราคาถูกจากมอสโกในปริมาณมาก ในขณะที่มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียส่งผลกระทบต่อตลาดพลังงานในยุโรปเอง โดยมีอยู่ช่วงหนึ่งที่จีนสามารถซื้อก๊าซ LNG ได้ในราคาลด 50% จากโรงงานส่งออกก๊าซซาคาลิน 2 ของรัสเซีย
ที่มา : รอยเตอร์, business insider