รัสเซียโดนตะวันตกประณามอย่างกว้างขวาง หลังปฏิบัติการทิ้งบอมบ์ถล่มเมืองต่างๆ ทั่วยูเครน ในนั้นรวมถึงยิงขีปนาวุธเข้าใส่ใจกลางกรุงเคียฟเป็นครั้งแรกเมื่อวันจันทร์ (10 ต.ค.) สถานการณ์ความขัดแย้งที่ดูท่าจะดุเดือดเลือดพล่านยิ่งขึ้น ซึ่งกระตุ้นให้ทางสหรัฐฯ ต้องเร่งจัดหาระบบป้องกันภัยทางอากาศล้ำสมัยมอบให้ยูเครน
ห่าฝนขีปนาวุธร่อนพุ่งเข้าสู่เมืองต่างๆ ของยูเครนในวันจันทร์ (10 ต.ค.) ในสิ่งที่สหรัฐฯ ประณามว่าเป็นการโจมตีอันน่าสยดสยอง เข่นฆ่าชีวิตผู่คน ทำไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้างและหลายพื้นที่ต้องอยู่โดยปราศจากเครื่องทำความร้อน ในปฏิบัติการถล่มทางอากาศครั้งกว้างขวางที่สุดนับตั้งแต่สงครามเริ่มต้นขึ้นในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์
ขีปนาวุธตกลงสู่ทางแยก สวนสาธารณะ อาคารมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง และสถานที่ท้องเที่ยวต่างๆ ในกรุงเครียฟ ขณะเดียวกัน มีรายงานเหตุระเบิดในเมืองลวิว เทอร์โนพิลและซีโตมีร์ ทางตะวันตกของยูเครน เมืองดนิโปรและเครเมนชุค ทางภาคกลาง รวมถึงในแคว้นซาปอริซเซียและแคว้นคาร์คิฟ ทางภาคตะวันออก
เจ้าหน้าที่ยูเครนบอกว่า มีประชาชนอย่างน้อย 14 รายเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก และได้ระงับการส่งออกไฟฟ้าไปยังยุโรป ในระหว่างที่พวกเขาพยายามแก้ปัญหาไฟฟ้าดับทั่วประเทศ
ชาวบ้านหลายพันคนรุดหลบหนีไปยังที่หลบภัยระเบิด ท่ามกลางเสียงไซเรนดังระงมตลอดทั้งวัน ในขณะที่ห่าฝนขีปนาวุธร่อนที่ยิงจากทั้งอากาศ ภาคพื้นและทะเล ในปฏิบัติการโจมตีทางระลอกใหญ่ที่สุด อย่างน้อยๆ ก็ตั้งแต่วันแรกของสงครามในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ พุ่งเลยแนวหน้าออกมา
ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน กล่าวว่า เขาสั่งการโจมตีพิสัยไกลครั้งใหญ่ ตามหลังเกิดเหตุถล่มสะพานที่เชื่อมระหว่างรัสเซียกับแหลมไครเมียเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และขู่โจมตีเพิ่มเติมอีกในอนาคต หากว่ายูเครนเล่นงานเป้าหมายต่างๆ ในดินแดนของรัสเซีย "การปล่อยผ่านการกระทำเช่นนี้โดยไม่ตอบโต้ เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้" เขากล่าว
อย่างไรก็ตาม ทางหน่วยข่าวกรองทหารยูเครน อ้างว่าการโจมตีระลอกใหญ่ของรัสเซียครั้งนี้ได้รับคำสั่งมาตั้งแต่ช่วงต้นเดือนตุลาคมแล้ว "โครงสร้างพื้นฐานทางพลเรือนอันสำคัญ และพื้นที่ใจกลางของเมืองต่างๆ ในยูเครนที่มีประชาชนพักอาศัยอยู่หนาแน่นถูกระบุในฐานะเป้าหมาย"
โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน กล่าวหาว่ารัสเซียจงใจเข่นฆ่าประชาชนและตัดขาดเครือข่ายไฟฟ้าของยูเครน ส่วนนายกรัฐมนตรียูเครนบอกว่าโครงสร้างพื้นฐานหลัก 11 แห่งใน 8 ภูมิภาคโดนโจมตี ส่งผลให้หลายพื้นที่ของประเทศต้องอยู่โดยปราศจากไฟฟ้า น้ำหรือเครื่องทำความร้อน
ส่วนที่ปรึกษารายหนึ่งของเซเลนสกี ให้สัมภาษณ์กับบีบีซี ว่าการโจมตีครั้งนี้ออกแบบมาเพื่อข่มขู่ชาวยูเครน แต่ผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามหวัง
อันโตนิโอ กูเตอร์เรส ให้คำจำกัดความเหตุโจมตีครั้งนี้ว่าเป็น "การขยายสงครามให้ลุกลามบานปลายที่ไม่อาจยอมรับได้อีกครั้ง" โดยเฉพาะกับพลเรือนที่ต้องกลายมาเป็นผู้ชดใช้สูงสุด
สหภาพยุโรปประณามรัสเซียว่าก่ออาชญากรรมสงคราม โดยที่ อัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป กล่าวหา รัสเซีย ยึดถือการข่มขู่และความโหดร้ายป่าเถื่อน
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ เป็นหนึ่งในผู้นำต่างชาติหลายรายที่ได้พูดคุยกับ เซเลนสกี และเขารับปากจะเดินหน้าสนับสนุนอาวุธยุทโธปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับปกป้องตนเองแก่ยูเครน ในนั้นรวมถึงระบบป้องกันภัยทางอากาศอันล้ำสมัย ตามหลังรัสเซียลงมือโจมตีด้วยห่าฝนขีปนาวุธในวันจันทร์ (10 ต.ค.)
ไบเดน พูดคุยทางโทรศัพท์กับ เซเลนสกี รับประกันกับเขาว่าสหรัฐฯ จะให้การสนับสนุนยูเครนต่อไป และประณามการโจมตีที่ไร้สามัญสำนึกของรัสเซียที่ถล่มเป้าหมายต่างๆ ทางพลเรือน "ท่านประธานาธิบดีไบเดน รับปากว่าจะเดินหน้ามอบการสนับสนุนด้านการป้องกันตนเองแก่ยูเครน ในนั้นรวมถึงระบบป้องกันภัยทางอากาศล้ำสมัย" ถ้อยแถลงทำเนียบขาวระบุ
นอกจากนี้ ไบเดน ยังได้บอกกับ เซเลนสกี ว่าสหรัฐฯ กับพันธมิตรและบรรดาคู่หู จะเดินหน้ากำหนดลงโทษที่ทางรัสเซียต้องชดใช้ "รัสเซียต้องรับผิดชอบต่ออาชญากรรมสงครามและความป่าเถื่อนของพวกเขา และเรากำลังมอบความช่วยเหลือด้านความมั่นคง เศรษฐกิจและมนุษยธรรมแก่ยูเครน" ทำเนียบขาวเปิดเผย
สหรัฐฯ ได้มอบความช่วยเหลือด้านความมั่นคงแก่ยูเครนไปแล้ว 16,800 ล้านดอลลาร์ นับตั้งแต่รัสเซียรุกรานยูเครนในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ และกำหนดมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจอย่างครอบคลุมชุดแล้วชุดเล่าเล่นงานมอสโก ลงโทษที่รุกรานยูเครน
(ที่มา : บีบีซี/รอยเตอร์)