xs
xsm
sm
md
lg

ของถนัด!! สื่อตะวันตกปล่อยข่าวลือใส่สีตีไข่ โฆษกเครมลินจวกวอชิงตันโพสต์ “เต้าข่าว” กล่าวหาคนใกล้ชิดงัดข้อปูตินเรื่องยูเครน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



โฆษกเครมลิน ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกเครมลิน โวยวอชิงตันโพสต์ “มั่ว” จากการรายงานข่าวที่อ้างว่ามาจากสายลับอเมริกันที่ไม่ระบุชื่อซึ่งกล่าวหาว่า ผู้ช่วยใกล้ชิดไม่เห็นด้วยและเผชิญหน้ากับปูตินในประเด็นยูเครน ขณะที่เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงอาวุโสในยุโรปบอกว่า ไม่เคยได้ยินมาก่อนว่า มีใครกล้าท้าทายปูติน โดยตรงเรื่องสงครามยูเครน อีกทั้งไม่เคยเห็นรายงานข่าวกรองของอเมริกาที่หนังสือพิมพ์ชื่อดังฉบับนี้อ้างอิง

สืบเนื่องจากรายงานของวอชิงตันโพสต์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า สมาชิกวงในคนหนึ่งที่ใกล้ชิดกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ไม่เห็นด้วยกับผู้นำรัสเซียโดยตรงเกี่ยวกับความขัดแย้งในยูเครน พร้อมระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นสิ่งบ่งชี้ล่าสุดว่า ประมุขแดนหมีขาวกำลังเผชิญความสับสนวุ่นวาย

อย่างไรก็ดี วอชิงตันโพสต์ไม่ยอมเปิดเผยแหล่งข่าว แต่บอกเพียงว่า ได้ข้อมูลจากหน่วยงานข่าวกรองของสหรัฐฯ

วันศุกร์ที่ผ่านมา (7) เปสคอฟตอกหน้าหนังสือพิมพ์ชื่อดังของอเมริกาว่า ความขัดแย้งระหว่างปูตินกับบรรดาผู้ช่วยไม่ใช่สัญญาณความแตกแยก แต่เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการทำงานปกติ ซึ่งมักมีการโต้แย้งกันเรื่องเศรษฐกิจ การดำเนินการในปฏิบัติการทางทหาร ระบบการศึกษา

ทั้งนี้ อาร์ทีสื่อรัสเซียชี้ด้วยว่า เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา เอ็นบีซีนิวส์ของอเมริกาก็เคยรายงานว่า เจ้าหน้าที่อเมริกันอวดอ้างว่า กำลัง “ทำสงครามข้อมูล” โจมตีรัสเซียด้วยการปล่อยข่าวกรองเท็จให้สื่อ ตัวอย่างเช่น เจ้าหน้าที่ข่าวกรองอเมริกันยอมรับว่า ออกคำเตือนปลอมว่า รัสเซียกำลังเตรียมใช้อาวุธเคมีในยูเครนเมื่อเดือนมีนาคม โดยปล่อยข่าวผ่านวอชิงตันโพสต์ ทั้งที่มาจากข้อมูลข่าวกรองที่มีความน่าเชื่อถือต่ำ

หรืออีกเรื่องหนึ่งคือ มีอดีตเจ้าหน้าที่ข่าวกรองคนหนึ่งให้สัมภาษณ์ซีเอ็นบีซีว่า รายงานที่อ้างว่า ปูตินถูกเหล่าที่ปรึกษาชักนำผิดๆ ยังมาจากการตีไข่ใส่สีของบรรดาสายลับอเมริกัน และว่า ไม่มีทางพิสูจน์ได้ว่ารายงานดังกล่าวถูกต้องหรือไม่

แม้แต่พันธมิตรของอเมริกาในยุโรปยังไม่เชื่อรายงานล่าสุดของวอชิงตันโพสต์ โดยหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ระบุว่า เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงอาวุโสในยุโรปบอกว่า ไม่เคยระแคะระคายว่า มีใครกล้าท้าทายปูตินโดยตรงในประเด็นยูเครน อีกทั้งไม่เคยเห็นรายงานข่าวกรองของอเมริกาที่วอชิงตัน โพสต์อ้างอิงแต่อย่างใด

(ที่มา : อาร์ที)


กำลังโหลดความคิดเห็น