xs
xsm
sm
md
lg

ชาวเมืองอิเซียมเร่งค้นหาศพญาติในสุสาน เคียฟอ้างมีหลักฐานรัสเซียทรมานพลเรือน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รอยเตอร์ - ชาวเมืองอิเซียมเร่งค้นหาศพญาติในสุสาน ขณะเจ้าหน้าที่ฉุกเฉินยังคงขุดศพที่พบได้นับร้อย หลังกองกำลังรัสเซียถอนออกจากเมืองนี้ ด้านเซเลนสกีอ้างพบหลักฐานใหม่ว่า มอสโกทรมานพลเรือนในอิเซียม

ยังไม่มีการระบุสาเหตุการเสียชีวิตของศพเหล่านี้ที่ค้นพบตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว แม้ชาวบ้านบางคนบอกว่า บางส่วนตายจากการโจมตีทางอากาศ ซึ่งเจ้าหน้าที่ยูเครนเผยว่า มีอย่างน้อยหนึ่งศพที่ถูกมัดมือและมีร่องรอยถูกรัดคอ

ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวว่า เจ้าหน้าที่สอบสวนค้นพบห้องที่ใช้ทรมานกว่า 10 ห้อง ซึ่งถือเป็นหลักฐานใหม่ว่า มีการทรมานผู้เสียชีวิตที่ถูกฝังในเมืองอิเซียม ซึ่งเป็นหนึ่งในหลายสิบเมืองในเขตคาร์คีฟทางตะวันออกเฉียงเหนือที่ยูเครนชิงคืนมาได้หลังการตอบโต้แบบสายฟ้าแลบเมื่อต้นเดือน

ผู้นำยูเครนสำทับว่า การทรมานเป็นวิธีปฏิบัติที่พบอย่างกว้างขวางในดินแดนที่ถูกยึดครอง ซึ่งเป็นสิ่งที่นาซีเคยทำในอดีต และรัสเซียกำลังทำอยู่ในขณะนี้ และรัสเซียจะพบคำตอบแบบเดียวกันทั้งในสนามรบและในศาล

โวโลดิมีร์ โคเลสนิก ชาวเมืองอิเซียม เดินหาศพญาติที่เสียชีวิตจากการโจมตีทางอากาศต่ออาคารอพาร์ตเมนต์หลังหนึ่งไม่นานหลังจากรัสเซียตีเมืองอิเซียมแตกในเดือนเมษายน เขาบอกด้วยว่า รู้ว่าศพญาติถูกนำไปไว้ในสถานที่ฝังศพ และอยู่ในหลุมใดหลุมหนึ่งที่มีหมายเลขติดไว้

โคเลสนิก หยุดที่หลุมศพหมายเลข 199 และหลังจากตรวจสอบรายชื่อที่บริษัทจัดพิธีศพในท้องถิ่นให้มา เขาค่อยๆ ห้อยป้ายชื่อยูริ ยาโคเวนโก ลูกพี่ลูกน้องของเขาที่หลุมศพนั้น นอกจากนี้ เขายังพบหลุมศพของภรรยาและแม่ของยาโคเวนโกไม่ไกลกันนัก และบอกว่าศพทั้งหมดบรรจุอยู่ในถุงโดยไม่มีโลงศพ และเขาไม่ได้รับอนุญาตให้ไปที่นั่นในตอนแรก โดยทหารรัสเซียอ้างว่า มีกับระเบิดฝังอยู่

ทางด้านมอสโกไม่ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการค้นพบสุสานขนาดใหญ่ และมักปฏิเสธข้อกล่าวหาโจมตีและทำร้ายพลเรือนยูเครน นอกจากนั้น เมื่อต้นเดือนหัวหน้าคณะบริหารที่ฝักใฝ่รัสเซียในพื้นที่ดังกล่าวยังกล่าวหายูเครนว่าจัดฉากเรื่องมีการทำร้ายประชาชนในเมืองอิเซียม และยืนยันว่า ไม่เคยได้ยินข่าวหลุมศพขนาดใหญ่แต่อย่างใด

ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ไม่ได้ตอบโต้ข้อกล่าวหา แต่ระหว่างร่วมประชุมสุดยอดองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ในอุซเบกิสถานเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (16 ก.ย.) ได้กล่าวถึงการกล่าวอ้างของยูเครนเรื่องการโจมตีตอบโต้สายฟ้าแลบว่า รัสเซียจะรอดูว่า ปฏิบัติการดังกล่าวจะจบลงแบบไหน พร้อมย้ำว่า การบุกยูเครนเป็นขั้นตอนที่จำเป็นเพื่อป้องกันแผนการของตะวันตกในการแบ่งแยกรัสเซียเป็นเสี่ยงๆ

ประมุขวังเครมลินยังเตือนว่า มอสโกอาจตอบโต้อย่างรุนแรงหากกองกำลังของตนถูกกดดันมากขึ้น จุดชนวนความกังวลว่า ณ จุดใดจุดหนึ่งเขาอาจสั่งใช้อาวุธที่ไม่ใช่อาวุธตามรูปแบบ เช่น อาวุธนิวเคลียร์หรืออาวุธเคมีขนาดย่อม

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของอเมริกา ตอบข้อซักถามระหว่างให้สัมภาษณ์รายการ “60 มินิต” ที่ซีบีเอสออกอากาศเมื่อวันเสาร์ (17 ก.ย.) ว่า เขาจะบอกให้ปูตินล้มเลิกความคิด หากกำลังพิจารณาใช้อาวุธดังกล่าว เนื่องจากจะทำให้โฉมหน้าสงครามเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่ไม่เคยเห็นมาก่อนนับจากสงครามโลกครั้งที่ 2

นักวิเคราะห์ทางการทหารบางคนเตือนว่า รัสเซียอาจทำให้เกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ด้านนิวเคลียร์ในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริซเซียที่ยึดครองอยู่ ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ใหญ่ที่สุดในยุโรป

มอสโกและเคียฟต่างกล่าวหากันว่า ยิงปืนใหญ่ถล่มรอบโรงไฟฟ้าดังกล่าวที่ทำให้อาคารเสียหาย สายไฟที่จำเป็นสำหรับการหล่อเย็นและทำให้โรงไฟฟ้าปลอดภัยถูกตัดขาด

อย่างไรก็ตาม ทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศเปิดเผยเมื่อวันเสาร์ว่า สายไฟหลัก 1 ใน 4 เส้นของโรงไฟฟ้าได้รับการซ่อมแซมและสามารถจ่ายไฟให้โรงไฟฟ้าได้อีกครั้ง

นอกจากนั้น ยูเครนยังเปิดปฏิบัติการตอบโต้เพื่อชิงดินแดนคืนทางภาคใต้ โดยตั้งความหวังปิดล้อมกองกำลังรัสเซียทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำดนิโปร และชิงเมืองเคียร์ซอนคืน โดยเมืองนี้เป็นเมืองใหญ่เมืองเดียวของยูเครนที่ยังถูกรัสเซียยึดครองตั้งแต่ช่วงต้นสงคราม
กำลังโหลดความคิดเห็น