xs
xsm
sm
md
lg

รัสเซียเย้ยเซเลนสกีที่หวังจบสงครามก่อนฤดูหนาว ชี้ทางเดียวคือวางอาวุธและทำตามข้อเรียกร้อง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลรัสเซียแถลงเมื่อวันอังคาร (28 มิ.ย.) ถ้าเคียฟสั่งให้ทหารวางอาวุธและทำตามข้อเรียกร้องของมอสโก ความขัดแย้งระหว่างยูเครนกับรัสเซียอาจจบลงในทันที ตอบโต้ความเคลื่อนไหวของประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ที่รบเร้าผู้นำจี 7 ให้ช่วยยุติสงครามให้ได้ก่อนฤดูหนาว ซึ่งเงื่อนไขต่างๆ จะทำให้กองทหารของเคียฟประสบความลำบากเพิ่มมากขึ้น

"ฝ่ายยูเครนสามารถหยุดทุกอย่างได้ในทันที พวกเขาจำเป็นต้องสั่งให้กองกำลังชาตินิยมทั้งหลายและทหารยูเครนวางอาวุธ และต้องทำตามข้อเรียกร้องของรัสเซีย" เปสคอฟ กล่าวแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคำพูดของประธานาธิบดีเซเลนสกี ที่ระบุว่า จำเป็นต้องจบสงครามก่อนฤดูหนาว

เปสคอฟบอกว่า "ทั้งหมดทั้งมวลเป็นแค่สิ่งที่เซเลนสกีคิด" พร้อมยืนยันว่าปฏิบัติการพิเศษด้านการทหารของรัสเซียในยูเครนเป็นไปตามแผนและกำลังบรรลุเป้าหมายต่างๆ ที่วางเอาไว้

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อวันจันทร์ (27 มิ.ย.) เซเลนสกี กล่าวกับพวกผู้นำกลุ่มจี 7 ผ่านวิดีโอลิงก์ รบเร้าพวกผู้นำจี 7 ให้ช่วยยุติสงครามระหว่างมอสโกกับเคียฟให้ได้ก่อนฤดูหนาว ก่อนที่สภาพอากาศฤดูหนาวจะทำให้กองทหารของเขาประสบความลำบากเพิ่มมากขึ้นในการสู้รบกับกองกำลังรัสเซีย เขาได้เรียกร้องจี 7 มอบอาวุธเพิ่มเติมแก่ยูเครนและยกระดับคว่ำบาตรมอสโกหนักหน่วงยิ่งขึ้น

ส่วนสำนักข่าวเอเอฟพีรายงานระบุว่า ในการปราศรัยเดียวกันนั้น เซเลนสกีได้เน้นย้ำว่ายูเครนไม่มีความตั้งใจจะเจรจากับรัสเซีย จนกว่าจะอยู่ในสถานะที่เอื้ออำนายกว่านี้ และทวงคืนดินแดนต่างๆ ที่สูญเสียไปหลังจากมอสโกเปิดฉากรุกรานในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์กลับมา

การเจรจาหนสุดท้ายระหว่างมอสโกกับเคียฟมีขึ้นเมื่อเดือนมีนาคมในตุรกี โดยคราวนั้นทั้งสองฝ่ายพยายามต่อรองทางออกอย่างสันติเพื่อยุติความขัดแย้ง อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่นั้นการเจรจาก็หยุดชะงักลงโดยสิ้นเชิง ในขณะที่ฝ่ายยูเครนยืนกรานว่าจะกลับสู่โต๊ะเจรจาก็ต่อเมื่ออยู่ใน "สถานะการต่อรองที่เข้มแข็งกว่านี้"

ยูเครนเชื่อว่าพวกเขาจะบรรลุเป้าหมาย "สถานะที่เอื้ออำนวยนี้" ในช่วงปลายเดือนสิงหาคม เดวิด อาราคาเมีย หัวหน้าคณะผู้แทนเจรจาของยูเครน บ่งชี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากได้ปฏิบัติการโจมตีตอบโต้ในบางพื้นที่

รัสเซียเปิดฉากโจมตีประเทศเพื่อนบ้านในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ หลังยูเครนไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขในข้อตกลงมินสก์ ที่ลงนามครั้งแรกในปี 2014 และท้ายที่สุดมอสโกก็ให้การรับรองสาธารณรัฐโดเนตสก์และสาธารณรัฐลูฮันสก์ ในภูมิภาคดอนบาส ในฐานะรัฐเอกราช

นับตั้งแต่นั้นเครมลินได้เรียกร้องให้ยูเครนประกาศตนเองอย่างเป็นทางการในฐานะประเทศเป็นกลาง ซึ่งจะไม่มีวันเข้าร่วมเป็นสมาชิกพันธมิตรทหารนาโต้ที่นำโดยสหรัฐฯ แต่เคียฟระบุว่า ปฏิบัติการของรัสเซียเป็นการรุกรานโดยปราศจากการยั่วยุใดๆ และปฏิเสธคำกล่าวอ้างที่ว่าพวกเขามีแผนใช้กำลังยึดคืนทั้ง 2 สาธารณรัฐ

(ที่มา : อาร์ทีนิวส์/รอยเตอร์)


กำลังโหลดความคิดเห็น